เข้าสู่ระบบผ่าน

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง นิยาย บท 737

ดนัยกลืนน้ำลาย และหายใจเข้าลึกๆ “นั้นเธอบอกนางด้วยนะ ผมจะไม่เซ็นใบหย่า!”

“เรื่องของความรู้สึกประธานดนัยมีความคิดใหม่ๆ อีกเหรอคะ?”

เชอร์รีนไม่เห็นด้วยกับคำพูดนี้ของเขาเลย

“คุณจะเซ็นหรือไม่เซ็นใบหย่ามันเป็นเรื่องของคุณ แต่ฉันต้องเตือนประธานดนัยสักหน่อย คุณอย่าลืมนะคะ ว่าโลกนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่ากฎหมายอยู่”

“คุณไม่เซ็นไม่เป็นไรค่ะ พอถึงตอนนั้นหากฟ้องหย่า คุณก็ต้องเซ็นอยู่ดี ประธานดนัยคุณไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลยนะคะ คุณมีความรู้สึกดีๆ ต่อเลขาที่น่าสงสารของคุณ นาโนของพวกเรารู้เหตุรู้ผล สละตำแหน่งให้ ออกจากตำแหน่งคุณนายน้อยตระกูลศรีภักดีนี้ อีกทั้งไม่ต้องการเงินแม้แต่บาทเดียว คุณยังต้องการอะไรอีกคะ?”

“หรือว่าอยากได้ขวาหนึ่งคนซ้าpหนึ่งคน หรือว่าความรู้สึกดีเล็กๆ น้อยๆ ที่มีต่อเลขามันหายไปแล้วเหรอไงคะ?ตอนนี้ถึงอยากจะกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับนาโนของเรา?”

“เหอะๆ คุณคิดว่าเป็นไปได้เหรอ?นาโนของเราไม่ใช่ถังรีไซเคิล ไม่ใช่ขยะไหนๆ ก็สามารถรีไซเคิลอีกได้!”

สิ้นเสียง เชอร์รีนก็คว้าไม้ถูพื้นจากมือคนใช้ และโยนใส่ดนัย!

ท้ายที่สุด ดนัยถูกเชอร์รีนทุบตีออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลเตชะโสภา

คฤหาสน์ตระกูลเตชะโสภา

เขากลับไปยังห้องนอน หลังจากนั้นค่อยล็อกประตูห้อง ดึงปิดม่านที่ทั้งหนาทั้งหนัก ภายในห้องตกอยู่ในความมืด

ดนัยเอนพิงหน้าต่าง ร่างกายของเขาค่อยๆ เคลื่อนลงมา

เขานึกย้อนกลับไป นึกย้อนกลับไปถึงเรื่องเหล่านั้นที่เกิดขึ้นกับตัวของเขาในช่วงนี้

ในตอนแรก ขาคุณแม่ได้รับบาดเจ็บ แล้วยังบวกกับที่ท่านพูดอยู่หลายครั้งหลายหนว่าท่านไปร้านอาหารด้วยตนเองไม่ได้ ต่อด้วยพูดกับเขาว่าให้ใช้คำพูดที่ดีและนุ่มนวลไปเกลี้ยกล่อมนาโน

ท่าทีของนาโนนั้นเด็ดเดี่ยวและเยือกเย็นมาก

ไม่ว่าเขาจะพูดคำพูดที่ดียังไง เธอก็ไม่ยอมไปอยู่ดี คุณแม่ไปโรงพยาบาลเองแล้วจึงล้มหมดสติ

เขาจึงรู้สึกถึงความตื่นตระหนกและหวาดหวั่น กลัวว่าท่านไม่ตื่นขึ้นมาอีก จะนอนหลับสนิทอยู่ที่นั่นตลอดไปแล้ว

ดังนั้น ส่วนลึกในใจของเขาเริ่มมีความขุ่นเคืองและกล่าวโทษตัวเอง

ความขุ่นเคืองต่อนาโน และการกล่าวโทษตัวเอง

ดังนั้นเขาจึงคิดอยู่เสมอ หากในตอนแรกนาโนตกลง คุณแม่ก็คงไม่กลายเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้!

คุณแม่เป็นคนที่เลี้ยงดูเขามาอย่างหนักตั้งแต่เด็กจนโต นับวันเขายิ่งกลัวว่าท่านจะไม่ฟื้น และยิ่งรู้สึกผิดและโกรธแค้น

แค่เพียงเห็นนาโน เขาก็จะนึกถึงเรื่องที่ท่านหมดสติอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ดังนั้น เขาจึงเริ่มออกห่างจากนาโนโดยไม่รู้ตัว แปรเปลี่ยนเป็นเหินห่างและเย็นชา มีเพียงแบบนี้เท่านั้น ส่วนลึกในใจเขาถึงจะสามารถรู้สึกดีขึ้นและสบายขึ้นมาหน่อย

จากนั้นก็ได้พบกับบาร์บี้พอดี เริ่มแรกคือนั่งดริ้งค์เป็นเพื่อน หลังจากนั้นได้เจอกันที่บาร์เป็นครั้งที่สอง ต่อมาก็ที่บริษัทอีก เจอกันครั้งแล้วครั้งเล่า

พอได้เจอกันบ่อยขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจจะจำ แต่ก็มีความรู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้างเมื่อได้เผชิญกับใบหน้านั้น

ดังนั้น ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาประธานบริษัท เขาจึงเลือกเธอ

เวลาช่วงนั้น อารมณ์ของเขาอยู่ในช่วงที่หงุดหงิดถึงขีดสุดพอดี แต่บาร์บี้มักจะติดตามอยู่ข้างเขาอย่างเงียบๆ

เขาในตอนนั้นต้องการความสงบพอดี ดังนั้นการปรากฏตัวของบาร์บี้จึงพอดิบพอดี

เธอเงียบมาก บรรยากาศบนตัวก็สงบมากเช่นกัน สามารถทำให้เขาไม่อารมณ์เสียหงุดหงิดแบบนั้นอีก

บางทีเธอก็จะทำอาหารกลางวันพกมาที่บริษัท ทั้งหมดล้วนเป็นอาหารบ้านๆ ทั่วไป ซึ่งคล้ายกับรสชาติที่นีรดาทำมาก

ตอนที่ยังเด็กมาก นีรดาก็ทำของให้เขากินด้วยตัวเองหมดทั้งสามมื้อ

จนกระทั่งภายหลังที่ร้านอาหารยุ่งๆ ก็ไม่เคยทำอีกเลย

เพียงแค่ได้กินรสชาติแบบนั้น ก็ทับซ้อนกับรสชาติที่คุณแม่เคยทำเมื่อก่อน เขาคิดว่ามันคือรสชาติที่เขาต้องการ

การพัฒนาทั้งหมดล้วนเป็นไปตามสมควร อยู่ด้วยกันกับเธอใจที่หงุดหงิดของเขาจะรู้สึกสงบ ทั้งยังมีรสชาติของคุณแม่ก็สามารถทำให้ร่างกายและจิตใจของเขาผ่อนคลายโดยสมบูรณ์

เธอไม่มีทางรับสายของดนัยหรอก!

ดนัยก็ไม่ยอมแพ้ เอาโทรศัพท์โทรหาออกัสอีก

“ไม่ว่าจุดหมายปลายทางของเธอหรือเบอร์มือถือของเธอ ผมก็ไม่รู้อะไรเลย คุณถามผิดคนแล้วครับ” ออกัสพูดต่อว่า “ผมกับเธอไม่ได้สนิทกันแต่ไหนแต่ไร ที่เธอจากไปแน่นอนว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกคนนอกอย่างผม”

“เชอร์รีนน่าจะรู้นะ คุณช่วยถามให้ผมสักหน่อย”

ดนัยจับเขาแน่น

ความสัมพันธ์ของเชอร์รีนกับนาโนดีขนาดนั้น เรียกได้เลยว่าโตมากับใส่กางเกงตัวเดียวกัน คนอื่นอาจจะไม่รู้ว่าเธอไปที่ไหน แต่เชอร์รีนไม่มีทางที่จะไม่รู้

ตอนนี้ ในใจของเชอร์รีนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ไม่มีทางที่จะบอกเขาอย่างแน่นอน แต่กับออกัสมันต่างออกไป!

“เธอก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันครับ ถึงผมจะโทรไป ก็ไม่ได้รับสิ่งที่คุณต้องการหรอกครับ”

ออกัสเอ่ยพูด ปลายสายยังมีเสียงพูดคุยของผู้คน เป็นการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับบริษัท

ดนัยไม่เชื่อ แต่ออกัสกลับตัดสายทิ้งไปแล้ว

จนปัญญา ดนัยโทรหาเชอร์รีนต่ออีกทันที เสียงเตือนที่เข้ามายังคงเป็นสถานะปิดเครื่อง ไม่สามารถติดต่อได้

นีรดานั่งรถเข็นกลับมา สิ่งที่เห็นก็คือสภาพหน้าตาแบบนั้นของดนัย โทรศัพท์ไม่หยุดไม่หย่อนเพื่อถามหาที่หมายและที่อยู่ปัจจุบันของนาโน

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใจของนีรดาก็เริ่มขึ้นๆ ลงๆ ไม่หยุด เธอรู้สึกเห็นท่าไม่ดีเลย

ในเมื่อนาโนเอาใบหย่าส่งมาแล้ว อีกทั้งยังไม่ต้องการทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลเตชะโสภาอีก ถ้าอย่างนั้นดนัยเพียงแค่เซ็นชื่อก็เรียบร้อยแล้วนี่

แต่มาตอนนี้เขากลับกำลังสืบถามข่าวคราวของนาโนไม่หยุด เพื่ออะไรกัน?

“ตอนนี้คุณต้องการเบอร์มือถือและที่อยู่ของนาโนไปทำไม?” เธอถาม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง