“เลอแปง นั่นคือชื่อของฉัน…” เขาแนะนำตัวเป็นทางการมาก
“ผมชื่อน้ำฝน ขอบคุณครับ…” น้ำฝนรู้สึกเขินอายและหน้าแดงเล็กน้อย
วิธีการทักทายของทั้งคู่ดูเป็นลูกผู้ชาย และเป็นทางการมาก เลอแปงไม่มีความผิดปกติในแววตาเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งวิธีที่เขาใช้ทักทายน้ำฝนก็เป็นทางการ
สายตาของดีด้าสบกับเขา และมองเขาอย่างแน่วแน่
ชั่วขณะนั้น หัวใจของเธอสัมผัสได้บางเบา และรู้สึกว่าเลอแปงก็ไม่เลวนัก โดยเฉพาะสีหน้าตื่นเต้นดีใจของน้ำฝนที่แสดงให้เห็นว่าเขาชอบเลอแปงมาก
“ของพวกนี้คือสิ่งที่คุณต้องการ เอาไป” เลอแปงยกมือข้างหนึ่งขึ้น แล้วโยนถุงกระดาษที่อยู่ในมือให้ดีด้า
เมื่อเปิดมันออก ก็พบว่าข้างในเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเบื้องหลังของข่าว และหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ข่าวที่แพร่สะพัดเหล่านั้นคนที่ส่งไปยังสำนักพิมพ์ไม่ใช่เลอแปง แล้วก็ไม่ใช่ช่างภาพคนนั้น หากแต่เป็นนักข่าวจากสำนักพิมพ์อื่น
นักข่าวคนนั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของเธอ จึงไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายจะเปิดเผยตัวตนออกมา
เธอเข้าใจเลอแปงผิดไป ทั้งยังหุนหันพลันแล่น พอนึกถึงสิ่งที่ตัวเองทำไว้เมื่อคืนก่อน ก็รู้สึกละอายใจต่อเลอแปงขึ้นมา
ริมฝีปากบางของดีด้าขยับเล็กน้อย ขณะที่เธอกำลังจะขอโทษ เลอแปงกลับพูดขึ้นมาเสียก่อน “ทีนี้ผมก็บริสุทธิ์แล้วใช่ไหม? จะว่าไปแล้ว สายตาที่ใช้เลือกผู้ชายของคุณแย่มากเลยนะ”
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร?”
“เมื่อกี้ผมได้ยินบทสนทนาที่พวกคุณทะเลาะกันแล้วรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมานิดหน่อย เลยลงไปซื้อน้ำมาน่ะ” เขายักไหล่ แล้วแกว่งขวดน้ำในมือไปมา
หลังจากได้ยินประโยคดังกล่าว ความคิดที่อยากจะขอโทษของดีด้าก็หายไปในพริบตา และถูกแทนที่ด้วยรุ่มร้อนราวกับเปลวไฟ “คุณมีจิตสำนึกอยู่หรือเปล่า? ทำไมถึงมาแอบฟังคนอื่นคุยกันตามใจชอบแบบนี้?”
“พวกคุณคุยกันเสียงดังแม้แต่อยู่ที่มุมบันไดยังได้ยิน ผมยังต้องแอบฟังอีกเหรอ?” เลอแปงเลิกคิ้วขึ้น รู้สึกราวกับว่าเธอกำลังล้อเล่น “เสียงพวกคุณดังขนาดนั้น ผมนึกว่าพวกคุณเปิดโรงพยาบาลแห่งนี้ไว้ซะอีก”
ดีด้ารู้สึกโมโหสุดขีด ทั้งยังเถียงสู้เขาไม่ได้ เธอหยิบข้อมูลและหลักฐานขึ้นมา แล้วไม่สนใจเขาอีก
ทว่าเลอแปงกลับไม่ยอมจบง่ายๆ “แล้วยังไงล่ะ คุณคิดที่จะเอาแต่เงียบอยู่แบบนี้เหรอ?”
“คุณหมายถึงอะไร?” ดีด้าเงยหน้าขึ้นไปมองเขา
“หมายถึงอะไรงั้นเหรอ?” สีหน้าของเลอแปงราบเรียบ เขาจ้องมองเธอนิ่งๆ พลางกล่าวว่า “พอหลอกใช้คนอื่นเสร็จแล้วก็ถีบหัวส่งสินะ? คุณยังจำได้ไหมว่าคืนนั้นคุณสาดซุปปลาใส่หัวผมไว้ยังไงบ้าง?”
ดีด้าคิ้วกระตุก ความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับคืนนั้นผุดขึ้นมาในหัว คราวนี้ท่าทางของเธอทั้งนอบน้อมและจริงจังยิ่งกว่าเดิม “ฉันขอโทษ”
“แค่ขอโทษลวกๆ คำเดียวเนี่ยนะ? คุณได้คิดย้อนกลับไปอย่างจริงจังไหมว่าท่าทางของคุณที่พรวดพราดเข้ามาบ้านพวกเราในตอนนั้นมันเลวร้ายมากแค่ไหน แล้วการที่คุณสาดซุปปลาใส่หัวผมเป็นการกระทำที่หยาบคายเพียงใด และตอนนี้คุณคิดจะลบล้างมันด้วยคำพูดคำเดียวงั้นเหรอ?”
“ฉันรู้ว่าเรื่องนั้นเป็นความผิดของฉันจริงๆ ที่หุนหันพลันแล่นเกินไป และฉันขอโทษคุณจากใจจริง แต่ว่าคุณเป็นผู้ชาย คิดว่าคงจะไม่ถือสาฉันหรอก? ใช่ไหม? มีแต่คนบอกว่าผู้ชายน่ะใจกว้างจะตายไป”
เลอแปงหัวเราะเบาๆ ริมฝีปากบางโค้งราวกับระลอกคลื่น “ผมว่าคุณเข้าใจผิดไปอย่างหนึ่งนะ ผมไม่ได้เป็นคนใจกว้างอย่างที่คุณคิดขนาดนั้นหรอก คุณประเมินผมสูงเกินไปแล้ว”
“ถ้าสมมติว่าอยู่ในสมัยโบราณ ผมยืนยันว่าจะไม่เป็นอัครเสนาบดี แต่จะเป็นอำมาตย์ทรยศและคนต่ำทรามอย่างแน่นอน”
พอได้ยินคำตอบดังกล่าว ดีด้าก็ทำอะไรไม่ถูก ในเมื่อเขาพูดถึงตัวเองอย่างนี้ แล้วเธอจะมีอะไรให้พูดอีกล่ะ?
“งั้นเอาแบบนี้ดีไหม? คุณรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันจะลงไปข้างล่างแล้วซื้อซุปปลามาสักถ้วย หลังจากนั้นคุณก็ใช้วิธีเดียวกันเทมันลงบนหัวฉัน แบบนี้เป็นไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง