คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว นิยาย บท 111

อย่างไรเสีย ก่อนหน้านี้ตอนที่อวี้มั่วซวินพาเธอไปเข้าร่วมงานเลี้ยงกับนิทรรศการเทคโนโลยีคราวก่อน เขาก็ไม่สนใจการมีอยู่ของเธอเลยตั้งแต่ต้นจนจบงาน

เธอคิดมาถึงตรงนี้ งานประมูลก็ใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อพิธีกรเดินขึ้นเวที คนโดยรอบก็พากันเงียบเสียงลง

หรงฉือได้ดูรายการสินค้าประมูลในค่ำคืนนี้มาอย่างละเอียดแล้ว

หรงฉือถูกตาต้องใจชุดเครื่องประดับมรกตและภาพปักของผู้มีชื่อเสียงภาพหนึ่ง

ส่วนในท้ายที่สุดเธอจะประมูลชิ้นไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ระหว่างการประมูล

ไม่นานงานประมูลก็เริ่มขึ้น

หรงฉือมีเป้าหมายชัดเจน หากไม่ใช่สินค้าประมูลที่หมายตาไว้ หรงฉือก็ไม่ยกป้ายเลย

ก่อนหน้านี้ทางฝั่งของเฟิงถิงเซินกับหลินอู๋ก็ไม่ได้ยกป้ายประมูลแต่อย่างใด

หลังจากการประมูลดำเนินมาได้สักพัก หรงฉือและฉู่จื่อหลานต่างสังเกตเห็นว่าหลินอู๋เริ่มยกป้ายแล้ว

สิ่งที่หลินอู๋ต้องการประมูลคือสร้อยข้อมือเพชรเส้นหนึ่ง

ซึ่งเป็นผลงานของนักออกแบบเมืองนอกชื่อดัง แค่ดูจากสไตล์ก็รู้แล้วว่านี่เป็นสร้อยข้อมือสำหรับวัยรุ่น

เฟิงถิงเซินต้องประมูลสร้อยข้อมือเส้นนี้ให้กับหลินอู๋อย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัยเลย

ราคาประมูลเริ่มต้นของสร้อยข้อมือเส้นนี้อยู่ที่ 7.5 ล้าน

หลินอู๋ยกป้ายเพิ่มราคาเป็น 15 ล้าน

จากนั้นก็มีคนอื่น ๆ ทยอยยกป้ายประมูลเพิ่มราคาไล่ตามกันจนยอดในตอนนี้พุ่งขึ้นไปถึง 20 ล้าน

ในเวลานี้เอง หรงฉือสังเกตเห็นว่าหลินอู๋โน้มตัวปรึกษาเฟิงถิงเซินครู่หนึ่ง จากนั้นหลินอู๋ก็ยกป้ายอีกครั้ง เสียงของเธอดังขึ้นอย่างชัดเจนภายในห้องโถงใหญ่ “40 ล้าน”

เมื่อเสียงของเธอดังขึ้น ผู้เข้าร่วมประมูลในห้องจัดแสดงสินค้าประมูลก็เริ่มพากันส่งเสียงฮือฮา

สร้อยข้อมือเพชรเส้นนี้ก็ดูสวยดี แต่ด้วยมูลค่าของตัวมันเอง ไม่ได้มีราคาถึง 40 ล้าน

แค่ 20 ล้านก็ถือว่ามากไปแล้ว

แต่เหมือนว่าหลินอู๋จะชอบสร้อยข้อมือเส้นนี้มาก

ส่วนเฟิงถิงเซินก็ทั้งเงินหนาและใจป๋า ดูเหมือนว่าเขาไม่ต้องการให้ใครมายกป้ายประมูลแข่งกับหลินอู๋ จึงให้ราคา 40 ล้านทันที

ทุกคนตกตะลึงในความไม่เห็นเงินเป็นเงินของเฟิงถิงเซิน รวมถึงความรักที่เขามีต่อหลินอู๋ จึงเริ่มพากันวิพากษ์วิจารณ์

เป็นดังที่คาดไว้ไม่ผิด

พอยอดเงิน 40 ล้านนี้ออกมา ก็ไม่มีใครเพิ่มราคาแข่งอีก

หลินอู๋จึงได้สร้อยข้อมือไปไว้ในครอบครองได้สำเร็จ

ฉู่จื่อหลานอิจฉาตาร้อนสุด ๆ จึงพูดเสียงลอดไรฟัน “น่าอิจฉาชะมัด”