บทที่ 121 เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณคือของขวัญจากฟ้า
ตอนนี้ของ คุณคือของขวัญจากฟ้า โดย BUNNY ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 121 เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตกตะลึง แปลกใจ ลนลาน ตื่นเต้น ความรู้สึกหลากหลายมากมายพุ่งขึ้นมาในใจ
มณิการู้สึกว่าในใจมีความรู้สึกหลากหลายจนพูดไม่ออก
ถ้าหากว่า ในตอนที่ธิกานต์ยังไม่ได้ตั้งท้องลูกของวายุนั้น เธอยังมีความหวังเสี้ยวหนึ่งต่อวายุอยู่ รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่เขาจะไม่ไปเป็นพวกเดียวกันกับธิกานต์ แต่ว่าตอนนี้ เขาเป็นพ่อของเด็กในท้องธิกานต์......
มีวันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนไปเป็นเหมือนธิกานต์ ที่ปล่อยเธอไว้ไม่ได้ แล้วจะต้องเอาเธอให้ถึงตายไปด้วยหรือเปล่า?
ความรู้สึกถึงอันตรายหลอมรวมขึ้นมาชั่ววินาที จนทำให้มณิกาไม่มีทางที่จะสงบนิ่งลงมาได้ แถมยังเผชิญหน้ากับอำนาจที่ยิ่งใหญ่ จนอยากจะถอยหนีเล็กน้อย
ปฏิกิริยาของมณิกาตกเข้าไปสู่สายตาที่ลึกล้ำของวายุ จนทำให้ชายหนุ่มตกลงไปสู่การครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง
แววตาของเธอ คือ......เจ็บปวดหรือว่าผิดหวังนะ?
ตอนที่อยู่ที่หมู่บ้านบุริมพิสัย มณิกานัดเขาไปชมจันทร์กลางดึก บอกว่ามีเรื่องจะบอกกับเขา แต่ก็อ้างว่าปวดท้องแล้วก็หนีไป จากนั้นวิไลพัณณ์ก็มาหาแล้วถามเขาว่ารักธิกานต์จริงๆ หรือเปล่า
ตอนนั้น เขานึกว่ามณิกาเป็นคนให้วิไลพัณณ์มาแอบถามความในใจลึกๆ ของเขา หรือว่ามณิกาจะคาดหวังในตัวเขา
แต่ว่าวันนั้นตอนอยู่ที่โรงพยาบาลเหนือเมฆขอแต่งงานกับเธอ และเธอก็รับแหวนเอาไว้
ชั่วขณะหนึ่ง วายุเองก็ไม่รู้ว่าตกลงผู้หญิงคนนี้จิตใจโลเล หรือว่าชอบผู้ชายสูงส่งมีอำนาจกันแน่!
"ลูก......ลูกเหรอ?"
วิไลพัณณ์ปิดปากของตัวเองไว้ด้วยความตกใจ แล้วจ้องมองธิกานต์ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ "นี่เธอตั้งท้องลูกของวายุแล้วเหรอ?"
ทำไมถึงได้กะทันหันแบบนี้ล่ะ?
วิไลพัณณ์รู้สึกแต่เพียงว่าจิตใจแตกสลายไปแล้ว
เธอรักวายุซะขนาดนี้ ตอนแรกนึกว่าพวกเขาแค่หมั้นกันเท่านั้น ยังมีโอกาสถอนหมั้นได้ แต่ว่าตอนนี้กลับตั้งท้องขึ้นมาแล้ว
งั้นเธอกับวายุยังจะมีความหวังอะไรอีกไหม?
ความหวังพวกนี้ อยู่ในที่รกร้างชัดๆ!
"ใช่ ลูกอายุหนึ่งเดือนกว่าแล้วนะ ฉันเองก็เพิ่งรู้เพราะว่าเมื่อวานไปตรวจที่โรงพยาบาลกับพี่วายุมา"
ธิกานต์พูดกับวิไลพัณณ์ด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า จากนั้นก็มองวายุด้วยแววตาเสน่หาอย่างลึกซึ้ง ความรักที่ร้อนแรงแสดงออกมาในแววตาของเธออย่างเต็มเปี่ยม
เมื่อวานเหรอ?
มณิกาเข้าใจขึ้นมาแล้ว ที่เมื่อวานวายุพาเธอไปที่บ้านตระกูลเดชากุลแล้วก็จากไปกลางคัน แล้วไม่ปรากฏตัวมาอีกเลยหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ก็เพราะไปอยู่กับธิกานต์มานี่เอง
"ณิกา เธอ......เป็นอะไรไปเหรอ ทำไมมีท่าทางอย่างกับว่าไม่มีความสุขเลยล่ะ?"
พอเห็นว่าสีหน้าของมณิกาดูแย่ลง เรียวปากสีแดงของธิกานต์ก็คลี่รอยยิ้มจางๆ อย่างไม่มีสุ้มเสียงออกมาเสี้ยวหนึ่ง แล้วก็หายวับไปทันที
"เธอตั้งท้อง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันจำเป็นจะต้องไม่มีความสุขด้วยเหรอ?"
มณิกาพูดกลับไปอย่างโกรธเคืองประโยคหนึ่ง "ที่บริษัทยังมีงานให้ต้องจัดการอีก ฉันไปก่อนนะ"
เธอไม่ได้หยุดนิ่ง หมุนตัวแล้วก็จากไปอย่างสบายๆ เลย
ที่สุดแล้วก็เธอนี่เองที่ลุ่มหลงอยู่กับ‘ความดี’อันน้อยนิดที่วายุมีต่อเธอ ทำให้เธอจิตใจสับสน นึกว่าวายุจะไม่เหมือนกับพวกคนตระกูลธนัตถ์โชติ
ตอนโดนลักพาตัวไปต่างประเทศ เขามาช่วยเธอไว้ เป็นเพราะว่าต้องการเอาใจนายหญิงเนตร แล้วตอนที่โดนน้ำแม่น้ำซัดไปตอนอยู่หมู่บ้านบุริมพิสัยในอำเภอศิศิรนคร เขามาช่วยเธอไว้ ก็ยังเพราะว่าต้องการเอาใจนายหญิงเนตรอีก
ที่วายุทำมาเยอะขนาดนี้ เพียงเพราะว่าเธอเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตนายหญิงเนตรไว้ จนได้รับความรักจากนายหญิงเนตร จึงจะใช้เธอให้มาเป็นหมากตัวหนึ่งคอยอยู่ข้างกายนายหญิงเนตร คอยสอดแนมข่าวกรอง เพื่อเป็นรากฐานเผื่อว่าอีกหน่อยลูกชายคนที่เจ็ดของตระกูลเดชากุลกลับประเทศมาแล้วจะมาแย่งมรดกกับเขาเท่านั้น!
มณิกาในตอนนี้ รู้สึกว่าตัวเองช่างน่าขำและน่าเศร้า
ที่น่าเศร้าก็คือ เธอน่าสงสารจนขั้นต้องเอา‘ความใจดี’อันน้อยนิดที่วายุมีต่อเธอมาขยายใหญ่ไม่หยุดรวมไปถึงรู้สึกซาบซึ้งไปด้วย ที่น่าขำคือ ทั้งๆ ที่เขาเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของศัตรู แต่เธอกลับมีความหวังต่อเขาเสี้ยวหนึ่ง
เกิดความขัดแย้งขึ้นในตัวเอง!
"ใช่ๆ ฉันเองก็มีธุระ ฉันก็ต้องไปก่อนแล้วนะ"
พอได้ยินเธออธิบายแบบนี้ มณิกาก็หัวเราะอย่างอึดอัดขึ้น ชั่วขณะหนึ่งก็ไม่รู้ว่าควรจะรับคำต่อยังไง "อ๋อ เหอะ เหอะ......"
ยัยเด็กคนนี้ ฉลาดตั้งแต่เด็กเลยนะ
หลังจากที่ออกมาจากสดุภา กรุ๊ปแล้ว วิไลพัณณ์ก็บอกลามณิกาโดยตรง แล้วบอกว่าเธอจะไปดื่มเหล้ากับเหล่าพี่น้องแล้ว
มณิกากลับมาถึงบริษัทรุ่งเรืองภพ แล้วก็เริ่มก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ในแผนกเลขาธิการ
เวลาย้อนกลับไปเมื่อสามสิบนาทีที่แล้ว
ที่ห้องประธานบริษัท ในสดุภา กรุ๊ป
ธิกานต์ดึงมือของวายุไว้แน่น แล้วรู้สึกถึงสีหน้าของวายุไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วก็ถามขึ้นว่า "พี่วายุ เมื่อกี้ฉันไม่ควรพูดเรื่องพวกนั้นต่อหน้าณิกาใช่ไหมคะ? เธอ สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดีเลยค่ะ"
แน่นอนว่าปัญหาที่ธิกานต์สามารถมองออกมาได้ วายุก็ต้องสามารถมองออกได้อยู่แล้ว
ดวงตาเยือกเย็นของเขาเหล่มองธิกานต์ทีหนึ่ง แล้วก็พูดเสียงเย็นขึ้นว่า "อย่าคิดไปเรื่อย ลูกในท้องสำคัญที่สุด"
"ค่ะ พี่วายุวางใจเถอะค่ะ ฉันจะต้องดูแลตัวเองให้ดีแน่ แล้วก็จะดูแลลูกของเราให้ดีด้วยค่ะ"
มือของธิกานต์วางไว้ที่หน้าท้อง ก้มหน้าลงเล็กน้อย ในแววตามีประกายกะพริบขึ้นมาเล็กน้อย
ครั้งที่แล้วที่วายุไปดูงานที่ต่างประเทศ แล้วเธอตามเขาไปด้วย เห็นได้ชัดว่าไปถูกแล้วจริงๆ
ไม่งั้น จะมาสร้างโอกาสที่ดีขนาดนี้ขึ้นมาได้ยังไง และจะมาทำให้เธอตั้งท้องขึ้นมาได้อย่างราบรื่นได้ยังไง?
"รู้ก็ดีแล้ว"
วายุเอามือของธิกานต์ออกอย่างไม่มีสุ้มเสียง แล้วหมุนตัวเดินไปถึงหน้าโต๊ะทำงาน และเปิดเอกสารที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มก้มหน้าก้มตาจัดการกับเอกสารไป
ธิกานต์เดินมาถึงตรงหน้า มายืนอยู่ข้างกายเขา ลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วถึงลองถามขึ้นว่า "พี่วายุ พวกเราก็มีลูกกันแล้ว พี่กะว่า......กะว่าจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ดีคะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า