สองสามวันก่อนเธอเล่นโทรศัพท์ บังเอิญมีเรื่องที่เกี่ยวกับเอียะบ้อเช่า บอกว่านางเอกในละครไม่รู้ว่าตัวแต่ตั้งท้อง กินเอียะบ้อเช่าแล้วเกือบจะแท้ง
และยาชนิดนี้มี มีขายตามร้านขายทั่วไป
มณิกาหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วถามในกลุ่มพนักงานส่งอาหาร: [ใครมีโดรนบ้าง? ]
พนักงานส่งอาหารที่ชื่อต้นตอบกลับมา: [ผมมี ทำไมเหรอ? ]
มณิการีบเพิ่มเพื่อนเขาแล้วโทรหาเขา "หนุ่มหล่อ รบกวนคุณไปซื้อเอียะบ้อเช่าที่ร้านขายยาให้ฉันสักสองกล่องได้ไหมคะ แล้วฉันจะส่งที่อยู่ให้คุณ คุณช่วยใช้โดรนส่งมาให้ฉันที่หน้าต่างได้ไหม"
อีกฝ่าย "ทำไมต้องใช้โดรนส่งไปให้"
มณิกาตกใจ คิดหาเหตุผลแล้วยิ้มอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก "ฮ่าๆๆ ... ฉันแค่อยากรู้ว่าการส่งของจากโดรนมันเป็นยังไง ฉันโอนเงินให้คุณสามร้อย คุณส่งมาให้ฉันเร็วที่สุดได้ไหมคะ?"
อีกฝ่าย "ได้ ไม่มีปัญหา"
หลังจากวางสายไปแล้ว มณิกาก็ส่งที่อยู่ให้เขา
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้ชายคนนั้นก็โทรมา บอกว่าอยู่ข้างล่างแล้ว มณิกาก็รีบเปิดหน้าต่างทันที
เธออยู่ชั้นแปด ยื่นหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง ก็เห็นว่าพนักงานส่งอาหารชั้นล่างกำลังบังคับโดรนขึ้นมาช้าๆ จากนั้นเสียงของโดรนก็มาหยุดอยู่ที่หน้าหน้าต่างของเธอ
มณิกาแกะยาออกมา ส่งข้อความเสียงไปให้เขา "ได้รับของแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"
เธอแกะกล่องยา มองดูเอียะบ้อเช่าสี่แผง แผงหนึ่งมียาสิบสองเม็ด ให้กินครั้งละ3-5เม็ด
มองดูยา เธอรู้ว่าถ้ากินน้อยเกินไปมันอาจจะไม่เห็นผล แต่ถ้ากินเยอะเกินไปมันอาจจะตายได้
จากนั้นเธอก็รู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
มณิกาจับยาไว้แน่น เธอคิดว่าตอนนี้เธอยังถูกวายุกักบริเวณ แล้วถ้าเธอย้ายไปที่บ้านของตระกูลเดชากุล เธอคงจะถูกกักบริเวณจนถึงวันคลอด
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอ...ไม่มีทางเลือก
ลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า มณิกาก็แกะยาออกมา24เม็ด เทนำน้ำอุ่นแก้วใหญ่มาหนึ่งแก้ว มือที่จับยาของเธอก็สั่น
แต่สุดท้าย เธอก็กัดฟันและกินยา24เม็ดลงไป
"โอ๊ก~"
กลิ่นยาที่รุนแรงทำให้มณิกาอยากจะอ้วก ถึงแม้ว่าเธอจะดื่มน้ำไปแล้วตั้งเยอะ แต่เธอก็รู้สึกคลื่นไส้อยากจะอ้วก
เธออดทนแล้วนอนลงบนโซฟา รอให้ยาเกิดปฏิกิริยา
สองสามนาทีแรกเธอแค่รู้สึกคลื่นไส้ จากนั้นก็ดีขึ้น แต่ครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอเริ่มปวดท้อง เหงื่อออกและเวียนหัว
แต่เลือดข้างล่างยังไม่ออก เธอจึงทำได้แค่อดทน
และในขณะเดียวกัน คฤหาสน์อุทกมังกร
แม้ว่าวายุจะหมั้นกับธิกานต์แล้ว แล้วยังพาเธอไปกินข้าวเย็นกับครอบครัวที่บ้านตระกูลเดชากุล แต่มันดึกแล้ว เขาเลยมาส่งเธอที่คฤหาสน์อุทกมังกร
ธิกานต์รู้สึกน้อยใจ แต่เธอก็ทำได้แค่อดทนต่อความน้อยใจ แสร้งทำเป็นปกติแล้วถามว่า "พี่วายุ เราหมั้นกันแล้ว ทำไมยังต้องส่งฉันกลับมา"
สีหน้าของเขาไม่สะทกสะท้าน "ก่อนจะแต่งงาน เราแยกกันอยู่ดีกว่า คุณเป็นผู้หญิง ทำแบบนี้ก็ดีกับคุณ"
เขาไม่ได้สนใจเธอ
และเหตุผลที่เขาหมั้นกับเธอ ก็เพราะว่าเธอเหมาะที่จะเป็นนายหญิงของตระกูลชิงในอนาคตมากกว่า
"แต่ว่าเรา..."
ธิกานต์อยากจะพูดอะไร แต่วายุก็ลืมตาขึ้นแล้วลูบหัวเธอเบาๆ "ดึกแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ เจอกันพรุ่งนี้"
"งั้น...ก็ได้"
รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของวายุ ธิกานต์ก็รู้สึกพอใจแล้ว "พี่วายุ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ"
"ราตรีสวัสดิ์"
เขาพูด
ธิกานต์ไม่ได้ลงจากรถทันที แต่เธอนั่งอยู่ในรถสองสามวินาที เธอกำลังรอจูบลาของวายุ แต่เขากลับพูดว่า "มีอะไรอีกเหรอ?"
"ไม่มีอะไรค่ะ"
เธอส่ายหน้าด้วยสายตาที่เสียใจ
เปิดประตูและลงจากรถ โบกมือให้วายุแล้วเดินเข้าไปในบ้าน
ในตอนนี้เอง นภัทรที่ขับรถก็พูดกับวายุ "บอสครับ สหายที่เฝ้าดูมือถือของคุณมณิกาโทรมา บอกว่าคุณมณิกาบอกให้คนมาซื้อเอียะบ้อเช่าอะไรสักอย่างมา แล้วใช้โดรนส่งขึ้นมาให้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า