คุณคือของขวัญจากฟ้า นิยาย บท 46

มณิกาได้รับการยอมรับว่าเป็นหลานสาวบุญธรรมของนายหญิงเนตร เรื่องนี้ทำให้ทัพทองและภรรยารู้สึกได้ถึงภาวะอันวิกฤติคับขัน

เพื่อปูทางสะดวกราบรื่นให้กับธิกานต์สองสามีภรรยาจึงวางแผนลับกันภายในคฤหาสน์

......

ในขณะเดียวกัน มณิกาไปที่บริษัท เครื่องมือแพทย์เจริญกิจ จำกัด

บริษัทนี้เป็นหนึ่งในบริษัทของเหนือเมฆ แม้ว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลโยธิน บริษัทไม่ต้องชดใช้ แต่ก็อยู่ในสภาวะตายไปครึ่งหนึ่งแล้ว

มณิกายืนอยู่ที่ห้องทำงานของประธานบริษัทเจริญกิจ มองเหนือเมฆที่เอ้อระเหยลอยชายไม่เอาการเอางาน "จะให้ฉันทำงานอะไร"

หลังจากเข้าไปในบริษัทเจริญกิจแล้ว มณิกาก็ได้แต่มองดูสภาพของบริษัท ก็หมดความกระตือรือร้นไปในทันที

พนักงานของบริษัททำงานอย่างเชื่องช้า เกียจคร้าน ด้วยวิธีบริหารจัดการที่สะเพร่าหละหลวมแบบนี้ บริษัทไม่เจ๊งก็ถือว่าสวรรค์คุ้มครองแล้ว

ไม่ใช่สิ เป็นการคุ้มครองของตระกูลโยธิน

เหนือเมฆที่สวมชุดสูทเอนหลังพิงเก้าอี้ผู้บริหารอย่างเกียจคร้าน สองขาไขว้กัน วางไว้บนโต๊ะ ในปากคาบบุหรี่อยู่หนึ่งมวน  สูบบุหรี่อย่างเกียจคร้าน

"ผู้จัดการฝ่ายคลังสินค้า ผู้จัดการฝ่ายขาย ผู้จัดการโครงการ ผู้จัดการฝ่ายบัญชี หัวหน้าฝ่ายเลขานุการ คุณเลือกได้ตามใจชอบ"

ท่าทาง'เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ' อย่างนั้น ทำให้มณิการู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง

สีหน้าเธอเคร่งขรึมลง ส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง"เหนือเมฆ ช่วงวัยหนุ่มสาว นายก็คิดที่จะใช้อย่างสิ้นเปลืองไร้ประโยชน์อย่างนี้เหรอ"

"มีคนเลี้ยง สำมะเลเทเมาก็เป็นการเสพสุขอย่างหนึ่ง"

สัมผัสได้ถึงการดูถูกและผิดหวังจากคำพูดมณิกา มุมปากของเหนือเมฆค่อยๆ ยกขึ้น เป็นรอยยิ้มอ่อน

จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน ยกมือ ชี้ไปยังห้องทำงานที่หรูหรา"คุณรู้มั้ยว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่ใฝ่ฝันอยากใช้ชีวิตเหมือนกับผม"

คำพูดของเขาเป็นความจริงมาก

เหมือนจริงจนทำให้มณิกาไม่มีเหตุผลไปโต้แย้ง

สองคนสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง ริมฝีปากมณิกาค่อยๆ เผยอขึ้น"ขอบคุณที่คุณช่วยดูแลฉัน แต่ฉันไม่ได้อยากจะมาทำงานที่นี่"

บริษัทที่บริหารจัดการย่ำแย่แห่งหนึ่ง มีความเสี่ยงที่จะเจ๊งตลอดเวลา

และที่สำคัญที่สุด'อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนก็จะเป็นแบบนั้น'เธอเป็นห่วงว่าภายใต้บรรยากาศของบริษัทแบบนี้ ตนเองก็จะกลายเป็นคนเอื่อยเฉื่อยเกียจคร้าน

พอสิ้นเสียงเธอ  เหนือเมฆก็ยืนตะลึงอยู่กับที่ สายตาสับสนมองมาที่เธออย่างไม่กะพริบตา ไม่พูดไม่จา

"ฉันยังมีธุระต้องทำ บ๊ายบาย"

มณิการ่ำลาเขา แล้วหมุนตัวเดินจากไป

จนกระทั่งเมื่อเดินมาที่ประตูห้องทำงาน มณิกาก็หยุดลงอย่างกะทันหัน หันกลับไปมองเหนือเมฆ ถามคำถามหนึ่ง"คุณมีคุณที่คุณอยากปกป้องมั้ยคะ"

 เหนือเมฆ:"......"

ในปากเขาคาบบุหรี่อยู่ ในมือถือไฟแช็กเอาไว้ เตรียมที่จะจุดบุหรี่

แต่เพราะคำถามของมณิกามาขัดจังหวะ เขาจึงชะงัก เงยหน้าขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

"เรื่องของคุณฉันพอจะเคยได้ข่าวมาบ้าง แต่ถ้าตอนนี้คุณปล่อยปละละเลยอย่างนี้ต่อไป อนาคตแม้แต่ความสามารถที่จะปกป้องคนสักคนหนึ่งของคุณก็จะไม่เหลือ ได้แต่เสียใจภายหลังที่ไม่พยายามจะทำอะไรเลยในตอนนี้"

แรงกดดันที่มาจากศัตรูที่แข็งแกร่งทรงพลัง ทำให้มณิกาแทบจะหายใจไม่ออก

แต่เพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ เธอต้องก้าวไปข้างหน้า

เมื่อสืบหาสาเหตุแล้ว เพียงเพราะว่าตนเองไร้พลัง ไร้อำนาจ ไร้ความสามารถ

ดังนั้นในฐานะ'ผู้มาเยือน'มณิกาไม่อยากให้เหนือเมฆทำผิดซ้ำซาก

เธอเดินออกมาจากห้องทำงาน ปิดประตู

เหนือเมฆที่ยืนอยู่ที่เดิมในหัวนึกถึงคำถามที่มณิกาถามเมื่อครู่'คุณมีคนที่อยากปกป้องมั้ย'

มี

คนหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวสมองไม่ใช่ใครอื่น ก็คือมณิกา

แครก----

ทันใดนั้น ไฟแช็กแบบกันลมที่มีลวดลายแกะสลักในมือก็ลื่นหลุดจากมือ ตกลงบนพื้น

เขาเดินกลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ผู้บริหารอย่างตกตะลึงไร้สติ

หลายปีมานี้ คนที่หัวเราะเยาะ ด่าว่า ดูถูกเหยียดหยามเขามีมากมายนับไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่รู้สึกละอายใจ หรือว่าไร้เกียรติศักดิ์ศรี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า