คุณคือของขวัญจากฟ้า นิยาย บท 89

"คุณย่า กุ้งอร่อยก็จริง แต่ก็ต้องทานผักด้วยนะคะ ยิ่งทานกับของบำรุง ก็ยิ่งดีต่อสุขภาพ"

ธิกานต์ลุกขึ้น คีบผักวางลงบนจานรองของนายหญิงเนตร จากนั้นก็คีบให้มณิกา "ณิกา เธอเองก็กินด้วยสิ"

การกระทำนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าต้องลดตัวและเสียศักดิ์ศรี

"ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ฉันชอบกินเนื้อ ไม่ชอบกินผัก"

มือที่สวมถุงมือของมณิกาจับตะเกียบ คีบผักที่วางอยู่บนจานขึ้นมา คิดอะไรอยู่สักพัก ก็วางลงบนจานของวายุ "ผักของคู่หมั้นคุณ จะทิ้งก็เสียดาย งั้นให้คุณแทนแล้วกัน"

เธอตั้งใจทำให้วายุรังเกียจ

ชายหนุ่มตวัดตาเย็นชามองมาที่มณิกา บนใบหน้าหล่อเหลาหมดจรดปรากฏแววลุ่มลึก เขาหลุบตาลง กวาดมองผักสดที่วางอยู่บนจานเงียบๆ

ธิกานต์ใช้ตะเกียบจิ้มข้าวในถ้วย รู้สึกว่ามณิกาไม่รู้จักแยกแยะถูกผิดเอาเสียเลย แต่เพราะอยู่ต่อหน้านายหญิงเนตรเธอจึงไม่กล้าโวยวายออกมา ทำได้เพียงยิ้มแหยๆ "กินเนื้อเยอะๆ ก็ดีเหมือนกันนะ"

ตลอดมื้อเย็น มณิกากับนายหญิงเนตรคุยกันอย่างออกรส แต่วายุกับธิกานต์ที่นั่งตรงข้ามกลับเงียบกริบ ราวกับว่าอยู่คนละโลก

จนเมื่อมื้อเย็นสิ้นสุดลง วายุก็ไม่ได้แตะต้องผักชิ้นนั้นบนจานของเขาเลยแม้แต่นิด

หลังจากทานเสร็จ ธิกานต์ก็ลุกขึ้นเก็บถ้วยจาน เอ่ยพูดว่า "คุณย่า ฉันทำอาหารไม่เป็น งั้นฉันขอล้างจานแทนแล้วกันนะคะ"

ซึ่งเรื่องล้างจาน ตอนอยู่ที่ตระกูลธนัตถ์โชติเธอก็ไม่เคยทำเหมือนกัน

เธอผู้ซึ่งไม่เคยซักผ้าถูบ้าน ต้องมาทำทุกวิถีทางเพื่อเอาใจนายหญิงเนตร

นายหญิงเนตรพยักหน้า "อืม ได้"

ดังนั้น ธิกานต์กับคนใช้จึงเริ่มเก็บกวาดจานชามไปล้างในห้องครัว

มณิการู้สึกว่าธิกานต์อยากเอาชนะมากเกินไป แล้วเธอก็ขี้เกียจสนใจอีกฝ่ายแล้วด้วย

"คุณย่า อิ่มแล้วใช่ไหมคะ งั้นเราไปเดินเล่นที่สวนกันเถอะค่ะ"

"อืม ฉันก็กำลังคิดอย่างนี้อยู่พอดี" นายหญิงเนตรลุกขึ้น ส่งซิกทางสายตาให้วายุ แม้ว่าวายุจะรู้สึกจนใจ แต่ก็ทำได้เพียงเดินตามหลังสองคนนั้นไป

เมื่อเดินเข้ามาในสวน มณิกาก็คล้องแขนของนายหญิงเนตรเอาไว้ ชี้ไปทางทิศตะวันตกยามท้องฟ้ากำลังโพล้เพล้ "ดวงอาทิตย์ตกยามโพล้เพล้ดูสวยจริงๆ นะคะ คุณย่าดูสิ"

นายหญิงยืนนิ่งอยู่กับที่ ยืนมองดวงอาทิตย์ตกอยู่ตรงนั้น อดอุทานออกมาไม่ได้ว่า "ใช่ แสงท้องฟ้าตอนดวงทิตย์ตก มันสวยมากจริงๆ "

จู่ๆ เธอก็นึกถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตาแก่ ตาแก่มักจะพาเธอเดินออกมาดูดวงอาทิตย์ตกข้างนอกเป็นประจำ ภาพเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นความทรงจำที่สวยงาม

น่าเสียดายหลังจากที่ตาแก่เสียไป เธอก็ต้องแบกรับภาระคนเดียว ไม่มีอารมณ์มาชื่นชมดวงอาทิตย์ตกอย่างนี้หรอก

เธอตกอยู่ในความคิด มณิกามองเห็นทุกสีหน้าของนายหญิงเนตร เธอมุ่นคิ้วอย่างไม่เข้าใจ จึงหันไปมองวายุ แล้วหันมาพูดกับนายหญิงเนตรว่า "ถ้าคุณย่าชอบดูดวงอาทิตย์ตก เดี๋ยววันหลังฉันจะพาไปดูที่ภูเขาหมอกลอยไม่ก็ทะเล เราไปสัมผัสบรรยากาศที่นั่นกันเป็นไงคะ?"

"ดีเลยๆ เฮ้อ......"

นายหญิงเนตรพยักหน้า พรูลมหายใจออกมาอย่างมีอะไรในใจ จากนั้นก็เดินไปข้างหน้ากับเธอต่อ เดินไปพลางทอดถอนหายใจไปพลาง "เมื่อก่อนตอนที่ตาแก่ยังอยู่ ก็ชอบพาฉันออกมาดูดวงอาทิตย์ตกแบบนี้แหละ ตอนนี้เขาจากไปสิบกว่าปีแล้ว ฉันเลยไม่ได้มาดูอะไรแบบนี้อีกเลยนับตั้งแต่นั้น"

"ไม่เป็นไรนะคะคุณย่า ฉันจะดูเป็นเพื่อนเอง"

มณิกาตบอกปุๆ พร้อมกับยิ้มหวานออกมา

"ฮ่าๆๆ ดี ย่าจะรอแกนะ"

"ได้เลยค่ะ"

มณิกาพยักหน้าหงึกหงัก

ทั้งสองจูงมือกันเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

วายุที่เดินตามหลังนัยน์ตาพลันทอแววลึกล้ำ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของทั้งสอง และได้เห็นรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานานบนใบหน้าของคุณย่า จู่ๆ เขาก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า