บทที่ 286 ก่อนเปิดตัวเทคโนโลยีอี้ฉี – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณพ่อสายเปย์
ตอนนี้ของ คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 286 ก่อนเปิดตัวเทคโนโลยีอี้ฉี จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 286 ก่อนเปิดตัวเทคโนโลยีอี้ฉี
เป็นสายจากวังชิจู เขาได้เชิญชวนลู่เฉินไปร่วมดื่มชาด้วยกัน และถามว่าเขามีเวลาหรือไม่?
“ไปที่ซากุระคลับเถอะ” ลู่เฉินพูดจบก็วางสายไป
เมื่อสองวันก่อนตู้เฟยบอกกับเขาว่าวังชิจูกับจั่วชิงเฉิงเป็นพวกเดียวกัน เขาคิดว่าวังชิจูจะรนหาที่ตายเสียอีก นึกไม่ถึงว่าแท้จริงแล้ววังชิจูเพียงแต่ทำความร่วมมือกับตระกูลจั่วเท่านั้น เขาไม่ได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้
ลู่เฉินจึงได้ปล่อยตระกูลวังไป
ตัวละครเล็กๆอย่างบ้านตระกูลวังนี้ เขาตั้งใจว่าจะให้อู๋เล่ยจัดการแก้แค้นด้วยตัวเอง
เมื่อเดินทางมาถึงซากุระคลับ ลู่เฉินและวังซิงรอเขาอยู่ 10 กว่านาทีแล้ว
ตู้เฟยนำทางลู่เฉินมายังห้องวีไอพีห้องหนึ่ง
“ท่าน ท่านประธานลู่ครับ” วังชิจูและวังซิงลุกขึ้นทักทาย
สองคนพ่อลูกท่าทางไม่เป็นตัวของตัวเองสักเท่าไหร่
ลู่เฉินมองไปยังพ่อลูกสองคนนั้นแล้วถามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ว่า “ท่านหัวหน้าตระกูลวังช่างเห็นความสำคัญกับสุขภาพจริงๆนะครับ เชิญผมร่วมดื่มน้ำชาแต่เช้าเชียว”
วังชิจูยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านประธานลู่เป็นคนน่าขันเสียจริงนะครับ ใช่แล้วครับท่านประธานลู่ ครั้งที่แล้วที่ลูกชายของผมติดเงินคุณจนบัดนี้ยังไม่ได้คืน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ก่อนหน้านี้บ้านตระกูลวังของเราติดขัดเล็กน้อยจึงทำให้เงินหมุนไม่ทัน ขอคุณเข้าใจพวกเราด้วย”
วังชิจูไม่อยากอยู่ในที่นี้กับลู่เฉินนานเท่าไหร่นัก เนื่องจากเหตุการณ์ที่สามตระกูลใหญ่คุกเข่าต่อหน้าลู่เฉินเมื่อวานนี้ ยังจดจำอยู่ในสมองของเขา และบัดนี้เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับลู่เฉินจึงทำให้จิตใจเริ่มหวาดกลัว
แม้แต่สามตระกูลใหญ่ร่วมมือกันเพื่อจัดการเขาเพียงคนเดียวก็ยังทำไม่สำเร็จ แล้วเขาเป็นแค่หัวหน้าตระกูลวังจะทำอะไรได้ ?เขาเป็นเพียงแค่ตัวประกอบเล็กๆเมื่ออยู่ต่อหน้าลู่เฉินเท่านั้น
นี่คือเหตุผลที่เขาต้องรีบเข้ามาพบลู่เฉินในวันนี้
หากรอให้วันไหนลู่เฉินนึกเรื่องเงินได้ด้วยตนเองและมาทวงหนี้กับเขาถึงที่บ้าน เขาสามารถเดาได้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นคงไม่ได้เป็นแค่เพียงการทวงหนี้ธรรมดาๆแล้ว
“เรื่องนั้นเป็นเรื่องของครอบครัวคุณ ผมรู้เพียงแค่ว่าการยืมเงินต้องมีดอกเบี้ย” ลู่เฉินพูดออกมาเบาๆ
“คุณลู่ครับ ถ้าเช่นนั้นเรายึดดอกเบี้ยตามธนาคารได้หรือไม่?” วังชิจูรู้ว่าลู่เฉินจะไม่ยอมให้พวกเขาจ่ายแค่เงินที่ยืมไปอย่างแน่นอน
“ผมไม่ได้เปิดธนาคารนะ ทำไมถึงจะต้องให้พวกคุณจ่ายดอกเบี้ยตามธนาคารล่ะ?” ลู่เฉินถามด้วยความเจ้าเล่ห์
วังชิจูสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ลู่เฉินจะเล่นเกมกับพวกเขาแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นคุณลู่คิดว่า ควรจะเก็บดอกเบี้ยเท่าไหร่ดี?” วังชิจูถามด้วยความระมัดระวัง
“ดอกเบี้ยพันละห้าต่อวัน ไปคิดดูเอาเองแล้วกัน” ลู่เฉินตอบ
วังชิจูสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจน การที่ลู่เฉินเก็บดอกเบี้ยเช่นนี้ไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือ?!
“ประธานลู่ครับ พวกท่านเองก็มีธุรกิจมากมายไม่ขาดแคลนเงินจำนวนนี้ใช่หรือไม่? ท่านลองคิดดูอีกสักหน่อยว่าดอกเบี้ยนี้พอจะลดให้พวกเราอีกสักหน่อยได้ไหม? หลายเดือนมานี้ตระกูลวังของเราพบกับปัญหามากมายจริงๆ ไม่อาจนำเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาให้คืนได้” วังชิจูยิ้มและพูดอย่างเขินอาย
ลู่เฉินหยิบน้ำชาขึ้นมาดื่มแล้วตอบว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณมีเงินครบค่อยมาคืนผมก็ได้ ยังไงซะผมก็ไม่รีบร้อนใช้เงินก้อนนั้นอยู่แล้ว”
เขาพูดด้วยท่าทางคล้ายกับกำลังหาวิธีแก้ไขให้กับบ้านตระกูลวัง แต่วังชิจูและวังซิงนั้นสีหน้าไม่น่าดูเอาเสียเลย
ข่าวสารที่เทคโนโลยีอี้ฉีจะเปิดทำการนั้นได้เผยแพร่ออกไปและดึงดูดผู้คนจำนวนมาก
เทคโนโลยีอี้ฉีไม่เป็นเพียงหน้าตาของยวี่โจวเท่านั้น แต่ยังเป็นหน้าตาของเขตซีหนานทั้งหมด ทุกคนล้วนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
ช่วงที่ผ่านมานี้เซ่ซูเจี๋ยได้เชิญลู่เฉินไปร่วมรับประทานอาหารด้วยตนเองถึงสองครั้ง ก็เพื่อยืนยันว่าเทคโนโลยีอี้ฉีพร้อมที่จะเริ่มทำงานแล้วหรือไม่
แน่นอนว่าลู่เฉินเองก็ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีอี้ฉีโดยตลอด ในระยะเวลา 1 เดือนนี้เขาแทบจะเดินทางมาที่นี่ทุกวัน
“ทำไมยังไม่นอนอีกคะ? พรุ่งนี้จะเปิดตัวบริษัทวันแรกแล้ว คุณต้องใช้พลังงานมากเลยนะคะ พักผ่อนเถอะ” อี้จุนอาบน้ำออกมาพบว่าลู่เฉินยังนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่ห้องรับแขกก็พูดออกมาด้วยความเป็นห่วง
“นั่นสินะครับ พรุ่งนี้ก็จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ผมยังนั่งกังวลอะไรอยู่เนี่ย!” ลู่เฉินเอามือลูบหัวตนเอง
เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรจิตใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลากลางคืน ความรู้สึกมีก็ยิ่งชัดเจนขึ้น
เขามีความรู้สึกว่าหลังจากพิธีเปิดในวันพรุ่งนี้จะเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
“คุณตื่นเต้นมากเกินไปหรือเปล่าคะ? ช่วงนี้ร่างกายของคุณจะต้องพักผ่อนอย่างเต็มที่ถึงจะเพียงพอ แต่ละวันคุณใช้สมองมากเกินไป รีบพักผ่อนเถอะค่ะไม่ต้องคิดอะไรแล้ว” หลินอี้จุนพูดกับเขา
ลู่เฉินไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโยนทิ้งในที่เขี่ยบุหรี่จากนั้นลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ผมจะพูดไปหาตู้เฟยหน่อย คุณนอนก่อนเลยนะครับ ผมจะรีบกลับมา”
ลู่เฉินพูดจบก็เดินออกไปข้างนอก เขาเชื่อในความรู้สึกของเขานี้ว่าพรุ่งนี้จะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
อีกทั้งเรื่องนี้เกี่ยวกับเทคโนโลยีอี้ฉีของเขาแน่นอน......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์