อ่านสรุป บทที่ 30 สองแม่ลูกหวังเสวี่ยเริ่มสงสัยลู่เฉิน จาก คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่
บทที่ บทที่ 30 สองแม่ลูกหวังเสวี่ยเริ่มสงสัยลู่เฉิน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต คุณพ่อสายเปย์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลู่ลู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 30 สองแม่ลูกหวังเสวี่ยเริ่มสงสัยลู่เฉิน
“ ไอ้คนนี้บ้าไม่เบาเลย จนถึงตอนนี้ยังจะเสแสร้ง” เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของลู่เฉิน พวกเขาต่างก็ส่ายหน้า เพราะไม่เคยเห็นใครที่หาเรื่องใส่ตัวได้ขนาดนี้
หวังเสวี่ยและหลินอี้เจียอับอายจนอยากจะซุกแผ่นดินหนี ช่างหน้าขายหน้าจริงๆ
หวังเสวี่ยยืนขึ้น เตรียมที่พาลู่เฉินออกไปเคลัยร์กันด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้เธอและลูกสาวของเธอต้องมาอับอายต่อหน้าผู้คน
หลินอี้เจียเดินตามหวังเสวี่ยไปหาลู่เฉินอย่างรวดเร็ว โดยหวังว่าจะดึงลู่เฉินออกไปก่อนที่เชียวเจี้ยนจะโกรธ
"หือ"เชียวเจี้ยนได้ยินจึงหันไปมองลู่เฉินอีกครั้ง เมื่อเขาโกรธ ในที่สุดเขาก็เห็นใบหน้าของลู่เฉินได้อย่างชัดเจน
"คุณ คุณชายลู่" ทันทีที่เขาเห็นใบหน้าของลู่เฉินอย่างชัดเจน เชียวเจี้ยนก็ตัวสั่นด้วยความตกใจ
นี่คือหัวหน้าที่แท้จริงของกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย และเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของหยก 36 แม้แต่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเจ้านายก็ยังโทรหาลู่เฉิน เขาเป็นเพียงผู้จัดการที่นี่ ถ้าต้องเรียกรปภ.ให้ขับไล่คนตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้ออกไป นี่ไม่เท่ากับวิ่งหาความตายเหรอ
"คุณชายลู่ ผมขอโทษจริงๆ เมื่อกี้ผมไม่เห็นจริงๆว่าเป็นคุณ" เชียวเจี้ยนรีบพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้ม
คุณชายลู่เหรอ
หวังเสวี่ยและหลินอี้เจียที่เพิ่งเดินไปหาลู่เฉินเพื่อจะดึงเขาไว้ถึงกับยืนนิ่ง มองไปทีเชียวเจี้ยนด้วยสีหน้าตกตะลึง
พวกเธอเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของเชียวเจี้ยน
นี่มันเรื่องอะไรกัน
คนไม่มีอะไรคนนี้จะกลายเป็นคุณชายลู่ได้อย่างไร ซ้ำยังทำให้ผู้จัดการของหยก 36 กลัวเขาได้มากขนาดนี้
แขกคนอื่น ๆ ก็ต่างตกตะลึงเช่นกัน
ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่พวกที่ไร้ประโยชน์เหรอ ทำไมจู่ๆเขาถึงกลายเป็นคุณชายลู่ได้
"ผู้ ผู้จัดการเชียว เขาเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จะเป็นลู่เฉินได้ยังไง คุณจำคนผิดรึเปล่า" หวังเสวี่ย ถามด้วยความตกใจ
"ใช่ ผู้จัดการเชียว เรารู้จักเขา เขาเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจริงๆ" ตี๋ฟู่ ก้าวไปข้างหน้าและพูด
"คุณคือใคร" เมื่อเชียวเจี้ยนได้ยิน ตี๋ฟู่ พูดว่าเขารู้จักลู่เฉิน เขาก็หันไปหา ตี๋ฟู่ทันที
"ฉันชื่อตี๋ฟู่ และฉันเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายขายของหยุนเฟยกรุ๊ป" ตี๋ฟู่ พูดอย่างภูมิใจ พลางมองไปที่ลู่เฉินอย่างติดตลก
ลู่เฉินยิ้มจาง ๆ และพูดกับชิวเจี้ยน "ฉันไม่รู้จักเขา คุณเปิดห้องส่วนตัวให้ผมด้วยนะ"
ทันทีที่เชียวเจี้ยน ได้ยินคำพูดของลู่เฉิน เขาก็หยุดพูดกับตี๋ฟู่ ทันที ไม่ต้องบอกว่าเป็นเพียงผู้บริหารของหยุนเฟยกรุ๊ป แม้แต่ CEO ของหยุนเฟยกรุ๊ป ก็ไม่มีความสำคัญต่อหน้าลู่เฉิน เป็นแค่ผู้จัดการก็เท่ากับเป็นอุจาระ
"คุณชายลู่ ผมจะพาท่านไปที่ห้องอิมพีเรียลที่สงวนไว้สำหรับท่าน ตอนท่านไม่อยู่ที่นี่ห้องอิมพีเรียลก็เปิดให้ผู้มีอำนาจในเมืองได้เข้าพักเพียงครั้งคราวเท่านั้น" เชียวเจี้ยนพูดอย่างนอบน้อม
เขาหมายถึงว่าคุณจ้าวเป็นผู้ถือหุ้นรายแรกของตงจ้าวฉวนปิง และตั้งแต่ครั้งนั้นที่กลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยจัดการประชุมเพื่อประกาศตัวตนของลู่เฉิน จ้าวฉวนปิงยกหนึ่งในสามของห้องอิมพีเรียลไว้ ว่านอกจากการให้ความบันเทิงแก่ท่านผู้ใหญ่เป็นครั้งคราว ห้องอิมพีเรียลก็จะไม่เปิดให้ใคร
เสี่ยวจิงที่อยู่ด้านหลังลู่เฉิน มีสีหน้าเรียบเฉย ที่จริงในใจก็ค่อนข้างรู้สึกตกใจ
เขารู้ว่าลู่เฉินไม่ใช่คนแบบที่พนักงานในบริษัทลือกัน
แม้ว่าคุณเซี่ยจะมา เขาเชื่อว่าผู้จัดการที่นี่ก็จะไม่นอบนอมกับเขามากแบบนี้
แต่ตัวตนที่แท้จริงของพี่เฉินเป็นใครกันแน่
เสี่ยวจิงค่อนข้างรู้สึกสับสนอีกครั้ง
เมื่อเห็นลู่เฉินและทั้งสามคนเข้าไปในลิฟต์ หวังเสวี่ยและคนอื่น ๆ ก็ดึงสติกลับมา แต่สีหน้าแววตาที่ตกใจของพวกเขายังไม่หายไป
นี่ยังเป็นลูกเขยจนๆของเขารึเปล่า
หวังเสวี่ยเริ่มสับสนมากขึ้น
“ พี่เขย คุณเป็นใครกันแน่” หลินอี้เจียพึมพำในใจ
ห้างซินเทียนเจ๋อมอบบัตรวีไอพีให้คุณ
คุณจ้าวฉวนปิงแห่งหยก 36 ได้จัดห้องอิมพีเรียลไว้ให้คุณคนเดียว
คุณเป็นแค่รปภ. จริงเหรอ
เธอเปิดเบอร์ของลู่เฉินและลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่สุดเธอก็ยังไม่โทรไป
ในขณะนี้ โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นอีกครั้งและเมื่อหลินอี้จุนเมื่อเห็นแจ้งเตือน หลินอี้จุนจึงรับทันที
“ ผู้อำนวยการหลิน ผมขอโทษจริงๆตอนนี้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ และผมติดอยู่ในรถนานกว่าสิบนาทีแล้ว ผมอาจจะต้องไปสาย” อีกฝ่ายพูดอย่างรู้สึกผิด
"ผู้จัดการวัง ไม่เป็นไร ฉันเพิ่งมาถึง คุณขับรถอยู่ก็ระวังตัวด้วย เดินทางปลอดภัย" หลินอี้จวินพูด
คนที่โทรหาเธอคือผู้จัดการวังเหว่ยที่จัดการโครงการกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเย
วันนี้เธอแค่โทรหาวังเหว่ยเพื่อดูว่าบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียมีโอกาสได้รับโครงการวิลล่าที่ทะเลสาบจิงหลงไหม เธอไม่คิดว่าแค่บอกชื่อและตำแหน่งของเธอ วังเหว่ยก็ขอนัดเธอเพื่อพูดคุยโดยตรงแล้ว
ยิ่งเรื่องที่วังเหว่ยมาสายไปแปบหนึ่ง เขาก็โทรหาเธอและขอโทษ จะไม่ให้เธอประหลาดใจได้ยังไง
ยิ่งไปกว่านั้นทัศนคติของวังเหว่ยยิ่งทำให้เธอค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้น เพราะเหมือนบอกเธอโดยอ้อมว่าบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียมีโอกาสมากที่จะชนะข้อตกลง
หลังจากรอนานกว่าสิบนาที ในที่สุดวังเหว่ยก็มาถึง
กระบวนการเจรจาทั้งหมดดำเนินไปอย่างราบรื่นจนหลินอี้จุนแทบจะไม่อยากเชื่อ
วังเหว่ยไม่ได้กังวลเรื่องราคาและเซ็นสัญญาโดยตรงกับเธอ
หลินอี้จุน ทำสัญญาที่ลงนามด้วยเงิน 27 ล้านหยวน จนกระทั่งเธอเดินออกจากโรงแรม เธอก็ยังรู้สึกเหมือนฝันไป
แต่ตอนแรกเธอเป็นผู้ร่างสัญญานี้ และหวังเหว่ยเพิ่งเซ็นสัญญากับกลุ่มแกรนด์ไฮแอท นี่ไม่ใช่เรื่องหลอกแล้วล่ะ
นอกจากนี้หวังเหว่ยยังสัญญาว่าจะโอนเงินจำนวน 5 ล้านหยวน ไปยังบัญชีของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย ก่อนเลิกงานวันนี้
“ กลับไปบอกคุณเสี้ยจุนก่อนดีกว่า ถ้าพวกเขาโอนเงินมัดจำวันนี้ มันจะต้องเป็นเรื่องจริง” หลินอี้จุน ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอได้ลงนามในโครงการของวิลล่าทะเลสาบจิงหลง
หวังเหว่ยเฝ้าดูหลินอี้จุนจากไปด้วยความสงสัย และมีเพียงรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวภายในใจ
“ คุณชายลู่นะ คุณชายลู่ คุณแสดงละครอะไรอยู่อีก เห็นได้ชัดว่าคุณรักภรรยาของคุณ แล้วทำไมคุณไม่บอกเธอว่าคุณเป็นใคร”
หวังเหว่ยยิ้มและส่ายหน้า ในใจเขาไม่เข้าใจเจ้านายหนุ่มของเขาเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์