คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 412

บทที่ 412 แผนการกอบกู้สมาคมฟุตบอลหัวเซี่ย

“ขึ้นเรือสำราญไปกันเถอะ จากจงไห่ไปถึงตงอิ๋งไม่ไกลมากนัก” เฉินชูหรันมองหน้าลู่เฉินด้วยความคาดหวังเพราะเธอเกิดที่ยวี่โจวจึงไม่ค่อยเห็นทะเล เธออยากใช้โอกาสนี้เพื่อสัมผัสถึงความงดงามของทะเล

เมื่อเห็นท่าทางของเฉินชูหรัน ลู่เฉินก็เดาความคิดขอองเฉินชูหรันได้ทันที เขาพยักหน้าตกลง

เฉินชูหรันจึงจองตั๋วไปจงไห่รวมไปถึงเรือสำราญของตงอิ๋งโดยจองเป็นวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย

“ใช่สิ ช่วงนี้ทีมซาเวนเป็นยังไงบ้าง?” หลังจากที่เฉินชูหรันจองตั๋วเสร็จเรียบร้อย จู่ๆลู่เฉินก็ถามขึ้นมา

เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับทีมฟุตบอลมาหลายวันแล้ว พอนึกขึ้นได้ก็ถามเฉินชูหรัน

หลังจากที่เฉินชูหรันเข้าซื้อหุ้น 40% ลู่เฉินก็ให้เธอรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง

“ผลงานในฤดูกาลนี้ดีมาก หลังจากที่ทีมซาเวนของเราประสบความสำเร็จในการรักษาอันดับเมื่อฤดูกาลที่แล้วก็ซื้อตัวผู้เล่นที่โดดเด่นมาอีกหลายคน ฤดูกาลนี้ก็ได้ครองอันดับหนึ่งในห้า จริงด้วย ทีมจงไห่ที่คุณซื้อมาติดอันดับหนึ่งแน่ะ ฤดูกาลนี้ยังไม่เคยแพ้เลยและยังเป็นทีมเดียวในซูเปอร์ลีกที่ไม่แพ้ใครอีกด้วย ส่วนทีมฮอนด๋าอยู่อันดับสองมีคะแนนอยู่ 8 แต้ม ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทีมจงไห่จะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้อย่างราบรื่นไร้ปัญหา” เฉินชูหรันพูด

“ทีมระดับเยาวชนล่ะ? มีพัฒนาการเป็นยังไงบ้าง?” เพื่อส่งเสริมการพัฒนาฟุตบอลในประเทศ ลู่เฉินรู้ดีว่าการพัฒนาทีมระดับเยาวชนมีความสำคัญมาก ดังนั้นเขาจึงกำชับกับเฉินชูหรัน

“ทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เราได้คัดเลือกผู้เล่นดาวรุ่งที่มีความสามารถจำนวนมาก แต่การแข่งขันฟุตบอลลีกประเทศของเรามีแค่ลีกวันและซูเปอร์ลีก และทีมฟุตบอลก็ยังน้อยมากอีกด้วย การเข้าสู่ลีกของนักฟุตบอลเหล่านี้ในอนาคตจึงมีการแข่งขันสูงมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่พ่อแม่หลายคนไม่อยากให้ลูกของพวกเขาเตะฟุตบอล” เฉินชูหรันกล่าว

คำพูดของเฉินชูหรันทำให้ลู่เฉินผงะไปชั่วขณะ ทันใดนั้นก็สั่นเล็กน้อย

ในตอนแรกเขาก่อตั้งกองทุนฟุตบอลขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงสภาพการณ์ฟุตบอลในประเทศให้ดีขึ้น จุดเริ่มต้นเป็นไปด้วยดี แต่ท้ายที่สุดเขาก็เป็นแค่แฟนบอล เขาจึงไม่ได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพที่เป็นอยู่อย่างลึกซึ้ง

นั่นมันก็ถูก ถ้าครอบครัวมองไม่เห็นอนาคตของลูก ใครจะให้ลูกไปเตะฟุตบอลล่ะ

นั่นทำให้เสียเวลาเรียนของเด็กๆ

นอกจากนี้การฝึกซ้อมฟุตบอลยังเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หากไม่สามารถเล่นเป็นมืออาชีพได้ในอนาคต การรักษาอาการบาดเจ็บเหล่านั้นก็ดูจะไม่คุ้มเอาเสียเลย สถานการณ์ทางการเงินจะแย่ลง และยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่อาจแบกรับค่ารักษาพยาบาลที่มีราคาสูง

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของผู้เล่นด้วยการฝึกฝนเพียงอย่างเดียว ดังนั้นการบ่มเพาะความสามารถของนักฟุตบอลจึงดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่

“ความหวังสำหรับเยาวชนที่ชอบเล่นฟุตบอลเหล่านั้นคือกุญแจสำคัญ” ลู่เฉินพยักหน้าและจู่ๆก็พูดออกมา

“แต่ประเทศของเรามีเพียงทีมฟุตบอลมืออาชีพเท่านั้น อีกอย่างการเข้าสู่ทีมมืออาชีพของพวกนักฟุตบอลก็มีการแข่งขันที่สูงมากด้วย หลายคนอาจจะยอมแพ้ เว้นแต่จะมีการเพิ่มทีมอีกจำนวนมาก แต่นั่นก็เป็นไปได้ยาก” เฉินชูหรันพูด

“ใช่ ต้องสร้างทีมฟุตบอลมืออาชีพเพิ่ม” ลู่เฉินพิงโซฟาแล้วหยิบบุหรี่ออกมาพลางมองไปทางเฉินชูหรันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

หากไม่เป็นเพราะเฉินชูหรันเตือนสติเขา เขาคงไม่คิดถึงจุดนี้

“การเพิ่มทีมฟุตบอลมืออาชีพจะทำให้การแข่งขันลีกยุ่งยากจนชะงักหรือเปล่า เพราะทุกคนคุ้นเคยกับวิธีการแข่งขันแบบนี้ การปรับเปลี่ยนขอบข่ายใหญ่ๆกะทันหันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับสมาคมฟุตบอล”เฉินชูหรันพูด