บทที่ 493 สู้
ข้อเสนอของเขาอันนี้บ้าพอดูเลย
สำหรับผู้บริหารระดับสูงที่นั่งอยู่ในที่นั่น ลู่เฉินในตอนนี้บ้าไปแล้ว
ประชาชนทั้งหมดแสนกว่าคน ทหารแค่สองหมื่น
ลู่เฉินกลับคิดจะให้ทหารสองหมื่นนี่ไปสู้กับดาวดวงหนึ่ง
ต่อให้คนบนพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbมีไม่มากเท่ามนุษย์ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ต้องไม่ต่ำกว่าหลายพันล้านแหละ
ฝ่ายโน้นใช้จำนวนคนมากกว่ามาสู้ แค่ทุกคนถุยน้ำลายใส่คนละคำ ก็ทำพวกเขากว่าแสนคนนี้จมน้ำลายตายแล้ว
อีกอย่างตอนนี้พวกเขาอยู่บนยานอวกาศซี-หวั้ง ถ้าอีกฝ่ายยิงระเบิดมาใส่ยานอวกาศซี-หวั้ง งั้นพวกเขาก็ไม่รอดแล้ว
ดังนั้นหลังจากลู่เฉินพูดจบ ไม่มีใครพูดอะไรเลย
ทุกคนเงียบกริบ
แต่ในใจพวกเขากำลังสับสนมาก
หลังจากไปจากพร็อกซิมาคนครึ่งม้าb พวกเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบปีถึงจะหาดาวเคราะห์อยู่ได้ใหม่
ถึงแม้ว่าตอนนี้ฝ่ายวิจัยจะสามารถผลิตยาวิวัฒนาการยีนที่ช่วยเพิ่มอายุขัยมนุษย์ออกมาได้แล้ว อายุขัยมนุษย์สามารถยืดไปได้มากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบปี
แต่เวลาสิบปีสำหรับมนุษย์ที่มีช่วงอายุขัยหนึ่งร้อยห้าสิบปี ก็ยังถือว่ามากอยู่ดี
“ถ้าพลาดจากพร็อกซิมาคนครึ่งม้าb พวกเรายังต้องอยู่บนจากพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbไปอีกอย่างน้อยสิบปี แถมดาวเคราะห์ดวงต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะมีอารยธรรมต่างดาวอื่นอยู่หรือเปล่า ถ้ามี พวกเราก็จะยอมแพ้ต่อหรอ? ถ้าอีกฝ่ายมีระดับเทคโนโลยีสูงกว่าเรา พวกเราจะหนีได้หรือเปล่ายังเป็นเรื่องที่ตอบยากเลย”
พอเห็นทุกคนต่างเงียบ ลู่เฉินก็พูดขึ้นอีก
“สู้เถอะ!”
จู่ๆเซ่เว่ยเหาก็พูดขึ้น
ทุกคนพากันหันไปมองเขา
“หัวหน้าพูดถูก ครั้งนี้พวกเรามีโอกาสที่จะชนะ ถ้าล้มเลิกไป ก็ต้องรออีกสิบปี
แถมอีกสิบปีถ้าพวกเราเจอดาวเคราะห์ดวงอื่น โอกาสที่จะเจออารยธรรมต่างดาวบนดาวดวงนั้นก็มีมาก
ถ้าอารยนั้นแกร่งกว่าเรามาก พวกเราไม่แน่ว่าจะมีโอกาสหนีด้วยซ้ำ”
เซ่เว่ยเหาพูดพลางมองทุกคน เขาเว้นช่วงนิดหนึ่งก่อนพูดต่อ: “ผมคิดว่าพวกคุณส่วนมากที่นั่งอยู่ที่นี่เคยได้ยินทฤษฎีป่ามืดกันใช่ไหม
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นทฤษฎีกาแล็คซี่ที่มักพูดอยู่ในนิยายวิทยาทาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ผมก็คิดว่า มนุษย์เราควรจะมีสติตลอดเวลา
ควรเชื่อว่ามีไว้ก่อน
ดังนั้นถ้าพวกเราไปเจออารยที่แกร่งกว่าเราจริง โอกาสที่มนุษย์เราจะโดนทำลายมีสูงมาก
ถ้าอย่างนั้น เทียบกับการที่จะเปิดศึกกับพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbเพื่อแย่งอำนาจในการอยู่รอดของดาวดวงนี้ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเราแล้ว”
“อืม” หวังเหวยพยักหน้า เขาเองก็เข้าใจความหมายของลู่เฉิน
เขาพูดต่อว่า: “ที่จริงแล้วพอมาคิดดูดีๆ การที่จะเปิดศึกกับพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbในครั้งนี้ ทั้งเป็นการทดสอบฝีมือรบของพวกเรา และยังเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการที่มนุษย์เราจะสามารถหนีจากชีวิตบนยานแบบนี้ด้วย บางทีพวกคุณอาจจะไม่รู้ ผมสามารถบอกทุกคนได้เลยว่า มีประชาชนจำนวนมากคาดหวังว่าจะสามารถไปใช้ชีวิตบนดาวเคราะห์และออกจากยานอวกาศได้ซักที ตอนนี้มีหลายคนเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว ถึงยานอวกาศซี-หวั้งของเราจะปิดจอทำเสมือนว่าเป็นบรรยากาศการใช้ชีวิตบนโลก แต่มันก็แค่ภาพจำลอง ทุกคนยังไม่รู้สึกถึงความปลอดภัยคุ้นเคยที่เท้าได้สัมผัสพื้นดินอยู่ดี รอไปอีกสิบปี? ผมว่า ต่อให้ใช้ชีวิตบนยานไปอีกห้าปี อย่างน้อยมีประชาชนไม่ต่ำกว่าพันคนหรือหมื่นคนล่ะที่บ้าไปซะก่อน”
คำพูดของหวังเหวยทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
ในฐานะรองหัวหน้าของรัฐบาลมนุษย์ใหม่ คำพูดของหวังเหวยทุกคนยังให้ความเชื่อถืออยู่
ที่จริงพวกเขาเองก็อยากลงจากยานอวกาศซี-หวั้งไปสัมผัสความรู้สึกที่เท้าได้สัมผัสพื้นดินเหมือนกัน
แต่พวกเขากลัวว่าจะผิดพลาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์