คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 530

บทที่ 530 ศึกใหญ่ใกล้เข้ามา

สามวันให้หลัง ยานอวกาศซี-หวั้งเดินทางออกจากดาวเอปไซลอนเอริดานี แอ ตามแผนเดิม

จากนั้นขับเคลื่อนด้วยความเร็ว0.6เท่าของปีแสงไปยังตำแหน่งพระอาทิตย์ของเอปไซลอนเอริดานี และหยุดยานลงตรงนั้น

แน่นอนว่า ยานอวกาศซี-หวั้งที่หยุดอยู่ตรงนี้ได้เปิดระบบหลบซ่อนตัวสุดยอดECS อารยธรรมต่ำกว่าระดับสี่ยากจะที่มองเห็นการคงอยู่ของยานอวกาศซี-หวั้งได้

ในระยะที่ห่างไกลขนาดนี้ อารยธรรมระดับสี่ก็ยากที่จะมองเห็นได้แล้ว

อีกสองวันผ่านไป ดาวเทียมดวงหนึ่งที่บรรดานักวิทยาศาสตร์จัดวางไว้ในระบบดาวเอปไซลอนเอริดานี ได้จับคลื่นสัญญาณแปลกๆกลุ่มหนึ่งได้

พวกลู่เฉินเห็นว่า ในวงแหวนที่อยู่ห่างจากดาวเอปไซลอนเอริดานีไปราวหนึ่งหมื่นห้าพันล้านกิโลเมตร จู่ๆก็ปรากฏยานบินลักษณะแปลกๆขึ้นมาลำหนึ่ง

ยานบินลำนี้มีความยาวราวหนึ่งพันสามร้อยเมตร ใหญ่กว่ายานอวกาศซี-หวั้งซะอีก

ยานบินลำนี้รูปร่างแปลก มีสีเขียวเข้ม

วินาทีที่ปรากฏออกมา มันไม่ได้รีบจากไป แต่กลับเปิดระบบป้องกันอยู่ในพื้นที่ว่างก่อน

และในจุดว่างนี้ กลับมียานบินลำใหม่ออกมาเรื่อยๆ

หนึ่งลำ สองลำ สิบลำ หนึ่งร้อยลำ...ออกมาเต็มๆหนึ่งพันลำ

ยานบินพวกนี้มีเล็กมีใหญ่ ลำใหญ่ที่สุดมีขนาดใหญ่กว่ายานอวกาศซี-หวั้งเท่าหนึ่งเลยทีเดียว

ลำเล็กที่สุดก็เล็กกว่ายานบินระดับหมู่บ้านซะอีก

ในจำนวนนั้น ยานบินลำใหญ่ที่สุดมีห้าลำ พวกลู่เฉินที่มองเห็นฉากนี้ผ่านทางดาวเทียม คาดว่าน่าจะเป็นยานบินหลักของอารยธรรมลู๋ข่า

หลังผ่านการพัฒนาปรับปรุงหลายปีมานี้ ยานอวกาศซี-หวั้งถือว่าถึงระดับอำเภอแล้ว

ยานบินของชนเผ่าแคระสองลำก็พัฒนาจนถึงระดับเขตแดน

หลังจากการปรากฏตัวของยานบินพันกว่าลำ พวกมันก็เริ่มเพิ่มความเร็วในการขับยาน

ลู่เฉินเห็นว่า ที่ภายนอกของยานบินปรากฏแสงสีเขียวเข้มขึ้นมาเหมือนเป็นเกราะ คลุมยานบินทั้งลำเอาไว้

ผ่านไปสักพัก ลู่เฉินก็ไม่เห็นภาพยานบินพวกนี้อีก

“พวกมันทำลายดาวเทียมของพวกเรา” ติงต้าเฉิงพูด

ลู่เฉินพยักหน้า ระหว่างเอปไซลอนเอริดานี แอ กับเอปไซลอนเอริดานี บี ยังมีดาวเทียมและเครื่องสำรวจจำนวนนับไม่ถ้วนรอพวกเขาอยู่แน่ะ

ระหว่างทาง ลู่เฉินก็ไม่ได้เห็นภาพยานบินพวกนี้อีกเลย

แต่ดูจากตำแหน่งดาวเทียมที่โดนทำลาย เขายังพอวิเคราะห์ออกมาได้ถึงตำแหน่งยานบินพวกนี้ได้

“หนึ่งวันให้หลัง พวกมันจะถึงรอบวงแหวนของเอปไซลอนเอริดานี บี พอถึงที่นั่นพวกเราต้องทำการโจมตีได้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะทำให้พวกมันสงสัยได้”

ลู่เฉินพูดต่อ “ไม่ต้องถามเลย พวกมันมีเกราะป้องกันแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่า นอกจากเทคโนโลยีเกราะป้องกันนี่แล้ว พวกมันยังมีอาวุธอะไรที่พวกเราคาดไม่ถึงอีก

ก่อนนี้ที่พวกเราเจอมา เครื่องยิงเลเซอร์ขั้นสูง อาวุธพลังงานระดับสูงกับเกราะป้องกัน พวกมันน่าจะมีอาวุธสองชนิดนี้

นอกนั้น น่าจะยังไม่มีอาวุธทำลายสสาร หรืออาวุธทำให้ดาวเคราะห์สิ้นอายุขัย ก็หมายความว่า ยานบินของพวกมัน น่าจะมีกำลังรบมากว่าพวกเราสองถึงสามเท่า

งั้นอารยธรรมของพวกมันน่าจะเป็นช่วงปลายระดับสาม หรือเป็นไปได้ว่าจะเป็นช่วงต้นระดับสี่”

“แต่ว่า ขอเพียงล่อพวกมันไปที่วงแหวนของเอปไซลอนเอริดานี แอได้ พวกเราก็จะจัดงานเลี้ยงกินโต๊ะพวกมันสักครั้งแบบให้พวกมันบ้าคลั่งหรือสิ้นหวังไปเลย” ลู่เฉินพูด

“แต่ว่า! พวกมันมียานบินเป็นพันลำ ส่วนพวกเรา รวมกับเครื่องบินรบอวกาศเข้าไป พึ่งจะแค่หนึ่งพันห้าร้อยลำเองนะ! ถ้าล่อพวกมันเข้าไปในเอปไซลอนเอริดานี แอได้จริง พวกเรามีโอกาสชนะอย่างมาก!” ตู้เฟยบอก

ตอนนี้ติงต้าเฉิงกับตู้เฟยอยู่ที่ห้องบังคับการด้วย

หนึ่งวันให้หลัง ยานบินของอารยธรรมลู๋ข่าปรากฏขึ้นในภาพที่ดาวเทียมบนเอปไซลอนเอริดานี บีอีกครั้ง

พวกมันกำลังมุ่งไปที่เอปไซลอนเอริดานี แอจริงๆ และไปถึงวงแหวนรอบนอกของเอปไซลอนเอริดานี บีแล้ว

“อยากจับมนุษย์เรา แล้วจับเรากักบริเวณ ฝันไปเถอะพวกแก”

ลู่เฉินคิดอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขาจ้องมองภาพยานบินในหน้าจอกำลังเริ่มค้นหารวมทั้งทำลายดาวเทียมชนิดต่างๆด้วยสายตาเย็นชา

ศึกใหญ่กำลังจะมาถึงแล้ว

ศึกนี้เป็นไปได้ว่าจะเป็นศึกที่ชี้ชะตาชีวิตมนุษย์อีกครั้ง

ถ้าอารยธรรมลู๋ข่าไม่ติดกับ

ถ้าพวกมันแข็งแกร่งมากพอ และค้นพบยานอวกาศซี-หวั้งเข้า

เป็นไปได้อย่างมากที่ยานอวกาศซี-หวั้งจะหนีไม่รอด

ดังนั้นศึกนี้

เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นศึกชี้ชะตาเป็นตาย

“สั่งการลงไป เริ่มโจมตีได้!” จู่ๆลู่เฉินก็หันมาพูดกับตู้เฟย

อีกฝ่ายเริ่มกระหน่ำทำลายดาวเทียมบนเอปไซลอนเอริดานี บี ถ้ายังไม่เริ่มโจมตีอีก คงจะดูแปลกเกินไปหน่อยแล้ว

ลู่เฉินมั่นใจมากว่า อารยธรรมลู๋ข่านี้ต้องเป็นขาโจ๋ของสงครามอวกาศแน่

ต่อหน้าพวกมัน มนุษย์เองจะเพลี่ยงพล้ำไม่ได้

ไม่งั้นทั้งหมดที่เตรียมมา จะสูญเปล่า

ตู้เฟยรับคำ สั่งการลงไปโดยตรงถึงฝ่ายบังคับการรบของทหาร

พอเล็งพิกัดเรียบร้อย เป็นระเบิดขนาดย่อยที่เล็กกว่าระเบิดธรรมดาหลายเท่านั้น!

ผ่านเทคนิคเพิ่มความเร็วด้วยกระแสไฟฟ้า ระเบิดขนาดย่อมนี้สามารถเพิ่มความเร็วได้ถึงหกพันกิโลเมตรต่อวินาทีได้เลยทีเดียว!

บนวงแหวนรอบนอกของเอปไซลอนเอริดานี บี มียานบินระดับยานป้องกันสองลำ เครื่องบินรบอวกาศสามร้อยลำ ยังมีกระสวยอวกาศอีกยิ่สิบกว่าลำ

รวมกับดาวเทียมที่บรรจุอาวุธหกดวงนอกเอปไซลอนเอริดานี บี บวกกับระเบิดอื่น วินาทีนี้ มีระเบิดขนาดย่อมกว่าสามสิบล้านลูกถูกยิงออกไป

เป้าหมาย---

ยานบิยอวกาศพันกว่าลำของอารยธรรมลู๋ข่า

ในแผนการรบของลู่เฉิน ระเบิดขนาดย่อมพวกนี้จะช่วยทำลายเกราะป้องกันของอีกฝ่าย

นี่เป็นข้อดีของระเบิด

วิธีนี้เรียกได้ว่ากลยุทธ์ลดพลังงาน

พูดอย่างไม่โอเวอร์เลยนะ

ระเบิดพวกนี้เพียงพอจะทำลายยานอวกาศทั้งหมดของอารยธรรมอวกาศระดับสองได้เลยทีเดียว!

แต่กลับออกมาเหนือความคาดหมายของทุกคน

ระเบิดพวกนี้ไม่ได้ทำอะไรอีกฝ่ายมากมายเท่าไหร่เลย

ดาวระยะห่างสุดยอดที่มนุษย์จัดวางไว้ก่อนส่งภาพแบบนี้มาให้

ระเบิดพวกนี้หลังจากเข้าใกล้ยานบินอารยธรรมลู๋ข่าในระยะหนึ่งแสนกิโลเมตรแล้ว ระเบิดทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำกันหมด และระเบิดบึ้มในเวลาไม่ถึงยี่สิบวินาทีหลังจากนั้น

มองจากที่ห่างไกล ปรากฏแสงสว่างจ้า เหมือนดาวหางในอากาศ

“นี่มันเทคโนโลยีอะไรเนี่ย! ผมจับภาพอาวุธเลเซอร์อะไรไม่ได้เลย! ระเบิดพวกนี้ทำไมอยู่ดีๆระเบิดขึ้นมาเองซะงั้น!” ลู่เฉินพูดอย่างตกใจ คนอื่นเองก็สีหน้าตกตะลึงไม่แพ้กัน

เห็นได้ชัดว่าทุกคนดูจะประเมินเทคโนโลยีของอีกฝ่ายต่ำไปหน่อยแล้ว

ระเบิดสามสิบล้านลูก เพราะมาตรการยับยั้งที่ไม่มีที่มานี่ อย่างน้อยระเบิดไป99%แล้ว

ที่เหลืออีก1% หลังจากโดนยับยั้งไว้ ก็ได้เข้าไปสู่ภายในยานบินของฝ่ายศัตรู และหลังจากโดนเลเซอร์ยับยั้งไว้หนึ่งครั้ง ระเบิดที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดนี่สุดท้ายได้ทำหน้าที่ของพวกมันพุ่งชนเป้าหมายซะที

ลู่เฉินเห็นภาพระเบิดสุดท้ายพวกนี้หลังจากปะทะเป้าหมาย เกิดแสงสีเขียวเข้มขึ้นกลุ่มหนึ่งที่รอบนอกยานบินอีกฝ่าย และตรงเข้าปะทะกับแสงสีขาวของระเบิด จากนั้นมลายหายไป

ผลสงครามออกมาแล้ว

ลู่เฉินเห็นระเบิดสามสิบล้านลูกที่มีพลังเพียงพอทำลายล้างอารยธรรมต่างดาวระดับสอง กลับสามารถทำลายยานบินอารยธรรมลู๋ข่าได้เพียงสามลำ เป็นยานบินลำเล็กที่สุด เล็กกว่ายานบินระดับหมู่บ้านของเซียวหวี่ซะอีก แถมยังทำลายได้เพียงแค่สามลำ!

ลู่เฉินตะลึงอึ้ง แต่ยังไม่ทันได้วิเคราะห์สาเหตุ

เพราะเขาสังเกตเห็นว่า ยานบินอารยธรรมลู๋ข่าเริ่มโจมตีแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์