บทที่ 82 คลาดเคลื่อน7กรัม
เมื่อทุกคนเห็นกับตาว่าลู่เฉินนั้นได้รูดบัตรไปจริงๆ พวกเขาก็แทบไม่เชื่อ
จะมองอย่างไรลู่เฉินก็ไม่เหมือนกับคนที่มีเงินมากมายขนาดนี้
ณ วินาทีนั้นหยูเจิ้งเทาและศาสตราจารย์อีกสามคนก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าว
เมื่อสักครู่พวกเขาคิดว่าลู่เฉินเพียงต้องการขู่ให้พ่อค้าเพชรพลอยแห่ง ที่ราบภาคกลางตกใจเท่านั้น
คาดไม่ถึงว่าผ่านไปเพียงไม่กี่สิบวินาทีจะถูกตบหน้าเข้าจริงๆ
นอกเหนือจากนี้แล้ว พวกหลี่เหวินกวงเองก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ลู่เฉินเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับพวกเขามาตั้ง4ปี เขารู้ดีว่าลู่เฉินไม่ได้ยากจน แต่ก็ไม่ใช่เศรษฐีอย่างแน่นอน
เพียงระยะเวลาไม่กี่ปี เขาสามารถนำเงินกว่าพันล้านมาพนันอัญมณีได้อย่างไร?
พันล้านเชียว!
สำหรับบรรดาผู้ที่อยู่ในงานนั้น เงินจำนวนนี้มากมายจนพวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้
แม้หลายๆคนอาจจะมีฐานะไม่แย่นัก แต่พวกเขาพยายามทั้งชีวิตก็ไม่สามารถนำเงินขนาดนี้ออกมาใช้จ่ายง่ายๆได้
คนที่มีหลักทรัพย์มากกว่าพันล้าน ในเมืองยวี่โจวนับว่าเป็นเถ้าแก่ใหญ่ทีเดียว
แววตาอันอิจฉาริษยาของตี๋ฟู่ จ้องเขาจนแดงเป็นเส้นเลือด
จากเดิมเขาตั้งใจว่าจะจีบหลินอี้เจียให้ได้ เพื่อสืบมรดกนั่นของหลินดาไห่ คาดไม่ถึงว่าลูกเขยของเขา พี่เขยของหลินอี้เจียจะเป็นเถ้าแก่ใหญ่มีเงินมากกว่าพันล้าน
เมื่อเขามองเห็นลู่เฉินแลกเงินจำนวนพันล้าน ภายในใจเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ
ก่อนหน้านี้เขายังดูถูกหัวเราะเยาะเย้ยลู่เฉินอยู่เลย ตอนนี้นึกคิดทบทวนดูแล้วเขารู้สึกว่าตัวเองช่างน่าขำยิ่งนัก
ต่อหน้าลู่เฉิน เขาถึงเป็นไอ้กระจอกอย่างแท้จริง
โจวเจินเฟ่ยและพรรคพวกก็ตกใจเช่นกัน เขาไม่คิดว่าลู่เฉินจะสามารถนำเงินพันล้านออกมาได้
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นมากกว่านั้นก็คือ เงินพันล้านนี้ต้องอยู่ในมือของพวกเขาอย่างแน่นอน
ในตลาดอัญมณีแห่งยวี่โจวนั้นมีใครจะสามารถสู้กับอาจารย์เจิ้งได้อีก
อย่าว่าแต่ในเมืองยวี่โจวเลย ต่อให้ในประเทศหากศาสตราจารย์อีกสองคนนั้นไม่ออกหน้า คนอื่นก็คงไม่สามารถสู้อาจารย์เจิ้งได้
โจวเจินเฟ่ยให้ทนายนำหนังสือสัญญา ลู่เฉินเองก็โทรเรียกทนายมาเช่นกัน
ระหว่างที่รอทนายความเดินทางมานั้น พวกเขาทุกคนไม่มีใครออกไปจากสนาม
การพนันด้วยเดิมพันด้วยเงินพันล้าน ใครจะพลาดเหตุการณ์นี้ไปได้!
งานแสดงอัญมณีแบบนี้ 10ปีถึงจะมีครั้งหนึ่งเท่านั้น
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ทนายความของทั้งสองฝั่งก็เดินทางมาถึงสนามพนัน การประลองเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
“อาจารย์ช่วยประเมินของฝั่งคุณล่ะ?”เจิ้งซีเหอเห็นลู่เฉินขึ้นมาเพียงคนเดียวจึงขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น
“แค่พนันกับคุณ ทำไมผมต้องใช้อาจารย์คนอื่นมาช่วยด้วย ผมก็คืออาจารย์” ลู่เฉินไม่ได้รู้สึกดีกับเจิ้งซีเหอเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าเขาพูดจาอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
บรรดาผู้คนได้ยินดังนั้นก็พากันตกใจ หรือเขาผู้นี้ยังมีความสามารถเรื่องของพนันอัญมณีอีกหรือ?
นั่นเป็นจำนวนเงินพันล้านเชียว เขาไม่ใส่ใจเลยหรือไง!
ทุกคนล้วนคิดว่าลู่เฉินนั้นบ้าไปแล้ว เขากล้าท้าพนันกับเจิ้งซีเหอด้วยตัวเอง อีกทั้งมีเดิมพันด้วยเงินพันล้าน
แม้จะเป็นเศรษฐีลู่เอง ที่พึ่งลงจากบัลลังก์มาก็คงไม่กล้าเล่นแบบนี้
พันล้านนะ ไม่ใช่หนึ่งพัน!
“เหอะๆ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” เจิ้งซีเหอพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก เขาขำออกมาเบาๆแล้วให้ลู่เฉินเลือกก่อน
“คุณอายุมากแล้ว ผมกลัวคุณจะรับแรงกดดันไม่ได้ คุณเลือกก่อนเถอะ”ลู่เฉินพูดออกมา
เจิ้งซีเหอโมโหเสียจนตัวสั่น เขาหัวเราะออกมาและไม่เกรงใจอีกต่อไป เดินเข้าไปหยิบอัญมณีก้อนหนึ่งแล้วยกขึ้นมาดู
ต้องยอมรับว่าเจิ้งซีเหอนั้นเป็นคนที่มีความรู้ เหมาะสมกับตำแหน่งมือวางอันดับสามของประเทศจริงๆ ขั้นตอนและวิธีเทคนิคการดูอัญมณีนั้นหวงยาวจุนไม่สามารถสู้ได้เลยแม้แต่น้อย
“ข้างในนี้เป็นหยกพม่าของแท้ น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 210 กรัม” เจิ้งซีเหอพูดออกมาหลังพิจารณาอยู่ชั่วครู่
เมื่อเขาพูดจบ เจ้าหน้าที่ก็นำหินนั้นไปผ่าออกเพื่อชั่งน้ำหนัก
“น้ำหนัก 197กรัม คลาดเคลื่อนไป13กรัม” หลังจากชั่งเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ประกาศออกมา
ความคลาดเคลื่อนน้อยมากจริงๆ สมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อพวกเขาทั้งหลายมองเห็นตัวเลขนั้นก็พากันตื่นเต้น และกังวลใจ
“คราวนี้เจ้านั่นแพ้แน่นอน ดูสีของอัญมณีนั้นสิมองยังไงก็เป็นหยก”
“นั่นน่ะสิ เป็นพวกจอมล้างจองผลาญจริงๆ ต่อให้บ้านเขาจะร่ำรวยขนาดไหนโดนเขาเอาไปล้างผลาญไม่กี่ครั้งก็คงจะล้มละลาย”
เมื่อเห็นว่าเจิ้งซีเหอได้ทำการคาดเดามาค่อนข้างแม่นยำเช่นนั้น พวกเขาจึงพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่าลู่เฉินเป็นคนล้างผลาญตระกูล
นี่เขากำลังจะมอบเงินพันล้านให้กับอีกฝั่งหนึ่งอย่างนั้นหรือ?
“เป็นหยกเหล่าเคิง” หลังจากได้ทำการจำแนกเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เอ่ยออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์