คุณสามี ครั้งนี้ฉันต้องหย่าให้ได้ นิยาย บท 7

ตอนที่ 7 เธอทรยศเขาก่อน

ความอยากรู้ของโศภิตาถูกกระตุ้น เมื่อเห็นท่าทางมีลับลมคมในของคราม “บอกมามาก่อนว่าเราจะไปไหน แล้วฉันถึงจะตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ไป” ครามถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “แล้วมันจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์ได้ยังไงถ้าผมบอกคุณก่อน” โศภิตาหัวเราะเสียงดังอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากได้เห็นท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเขา และในตอนนี้เองที่แทนไทยเดินออกมาจากประตู เขาบังเอิญเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งก้มลงกระซิบที่ข้างหูของโศภิตา เขาไม่รู้ว่าคนทั้งคู่กำลังคุยเรื่องอะไรกัน โศภิตายิ้มอย่างมีความสุข ดวงตาของเธอเป็นประกายเจิดจ้า แทนไทยกำลังจะก้าวขึ้นรถ แต่เขาหยุดการกระทำนั้นและหันกลับมาจ้องที่ชายหญิงคู่นั้นอย่างเย็นชา สายตาของเขาเยียบเย็นราวกับน้ำแข็ง หลังจากที่เขาและโศภิตาแต่งงานกัน เธอไม่เคยหัวเราะแบบนี้เลย ในหูของเขาก้องไปด้วยเสียงบ่นอันไม่รู้จบของเธอเกี่ยวกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และดวงตาของเธอยังดูระแวดระวังทุกครั้งที่มองมาที่เขา จริง ๆ แล้ว เขาไม่ชอบเลยที่เห็นเธอมีความสุขขนาดนี้ มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด ใครจะคิดว่าหลังจากที่พวกเขาหย่ากัน เธอจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงขนาดนี้ เธอดูเปล่งประกายระยิบระยับออกมาจากข้างใน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นเหรอ แทนไทยยกยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากของเขา ผู้หญิงนอกใจที่ไม่รักตัวเองแบบเธอไม่คุ้มค่ากับเวลาของเขาเลย! “คุณแทนไทยครับ” เมื่อเห็นว่าเจ้านายไม่ยอมขึ้นรถ ธนากร บุญทิวา จึงเอ่ยเรียกเขาอย่างระมัดระวัง เมื่อได้ยินเสียงเรียก แทนไทยจึงถอนสายตากลับมาและก้าวขึ้นรถ “กลับออฟฟิศ” ธนากรไม่แน่ใจว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า แต่เขารู้สึกว่าแทนไทยกำลังโกรธจัด และท่าทางของเขาก็น่ากลัวมาก... โศภิตาเพิ่งเข้าไปนั่งยังที่นั่งผู้โดยสาร ก่อนจะเห็นแทนไทยผ่านหางตาของเธอ ขณะที่รถกำลังแล่นไปข้างหน้า โศภิตาเพียงแค่มองดูต้นไม้ที่ผ่านไปมาอย่างรวดเร็วด้วยความสับสน ครามมองเห็นความอ้างว้างในดวงตาของเธอ เขาจึงต้องระงับอารมณ์ในดวงตาของเขาอย่างใจเย็น “คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ” โศภิตาได้สติและยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอก” โศภิตามองไปที่ใบหน้าด้านข้างของคราม เธอคิดว่าด้วยรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างจะเป็นลูกผสมของเขา สิ่งนี้ทำให้เขาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น สมัยเรียน แทนไทยเป็นคนหน้าตาดีที่ได้รับความนิยมคนหนึ่ง แต่รูปลักษณ์ของครามก็ไม่ได้ด้วยไปกว่าเขาเลย ด้วยไหล่ที่กว้าง เอวเรียวบาง และขายาว ๆ ของเขา ทำให้เขาเปรียบได้กับนายแบบระดับโลกเลยทีเดียว “เอ่อ… ทำไมนายถึงเลือกที่จะเป็นนายแบบเหรอ” โศภิตาเคยคิดว่าด้วยผลการเรียนที่ดีของเขา ครามน่าจะสนใจงานด้านวิชาการ “อืม ตอนแรกผมก็ลองออดิชั่นไปเรื่อย ไม่คิดเหมือนกันว่าหลังจากนั้นผมจะได้เข้ามาสู่วงการนี้” ครามมองกระจกและเหลือบมองไปที่โศภิตา เขาแกล้งถามอย่างเป็นกันเองว่า “ทำไมเหรอครับ คุณไม่ชอบวงการนายแบบเหรอ” โศภิตาส่ายหัว สายตาของเธอดูนุ่มนวล “ก็ไม่เชิงหรอก ตราบใดที่นายมีชีวิตที่ดีและเปล่งประกายในเส้นทางของตัวเอง สำหรับฉันแล้ว ไม่ว่านายจะทำอะไรก็ล้วนดีทั้งนั้น” ได้ยินโศภิตากล่าวเช่นนั้น ครามยิ้มและหยุดรถอย่างมั่นคง “ถึงแล้วครับ” ตรงหน้าของพวกเขาคืออาคารย้อนยุคสไตล์ตะวันตกขนาดเล็กสองชั้น ชายชราผมขาวนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายกำลังจิบชาของเขาอยู่ ชายชราหันมาและส่งยิ้มบาง ๆ ให้เธอ “สวัสดี เด็กน้อยของปู่” โศภิตาตกตะลึง แทบไม่อยากเชื่อว่าใครยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ชายชราถอนหายใจ “ปู่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เด็กน้อยผู้น่าสงสาร” โศภิตาที่น้ำตาคลอเบ้าก้มตัวอยู่แทบเข่าของชายชรา “คุณปู่! คุณปู่หายไปไหนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาคะ” เมื่อหกปีก่อน เงินทุนของบริษัท พาราไดม์ ถูกขโมยไป และหลักฐานทั้งหมดชี้เป้าไปที่พ่อของเธอ และเพราะเรื่องนี้ นอกจากพ่อของเธอจะถูกไล่ออกจากคณะกรรมการบริหารแล้ว เขายังต้องติดคุกอีกด้วย หลังจากนั้น แม่เลี้ยงและน้องสาวบุญธรรมของเธอก็หนีไปพร้อมกับเงินที่เหลืออยู่ เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้พ่อของเธอตัดสินใจปลิดชีพตัวเองลง ชายชราอธิบายว่า “หลายปีที่ผ่านมา ปู่พยายามตรวจสอบการขโมยเงินทุนของบริษัทในตอนนั้น และปู่ก็พบว่ามันเกี่ยวข้องกับไตรฟอร์ส เอ็นเตอร์ไพรส์ พ่อของหลานถูกทำให้เป็นแพะรับบาป” ไตรฟอร์ส เอ็นเตอร์ไพรส์คือบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ผู้ที่เป็นประธานบริษัทคือ ทวีรัชต์ กิตติพงศ์ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกล เพราะเขาคือพ่อของทักษอรนั่นเอง ขณะที่โศภิตากำลังครุ่นคิด ชายชราหยิบเอกสารออกมาแล้วยัดมันใส่มือของเธอ “โศภิตา นี่คือหุ้น 51% ของพาราไดม์ อย่าถามว่าปู่ได้มันมาได้ยังไง ปู่รู้ว่านี่คือสิ่งที่หลานกำลังต้องการในตอนนี้” ได้ยินปู่ของเธอกล่าวเช่นนั้น โศภิตาเม้มริมฝีปากด้วยท่าทางจริงจัง “หนูจะตามหาคนที่ใส่ร้ายคุณพ่อและจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ท่าน หนูไม่ทำให้คุณปู่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณสามี ครั้งนี้ฉันต้องหย่าให้ได้