ตอนที่ 6 ดำเนินการหย่าที่สำนักงานเขต
“ผมคิดว่ามันชื่อคราม แล้วก็ยังมีไอ้ฌานอยู่ข้าง ๆ ด้วย” “ว่าไงนะ นังนั่นกล้าดียังไงถึงมานอกใจลูกชายฉัน!” ใบหน้าของจารุณีเปลี่ยนเป็นดำคล้ำ เธอก่นด่าโศภิตาอย่างแรง “ไร้ยางอายจริง ๆ! ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน นังสารเลวนั่น!” “โศภิตาบอกว่าเธอหย่ากับแทนไทยแล้ว!” พอเห็นสีหน้ามืดครึ้มและน่ากลัวของพี่ชาย ทินกรจึงถามอีกครั้ง “โศภิตาพูดจริงเหรอ” แทนไทยเม้มริมฝีปากเงียบในขณะที่แสดงสีหน้าเคร่งขรึมออกมา เห็นได้ชัดว่าเขายอมรับโดยปริยาย จารุณีเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างตอนที่เธอเห็นแทนไทยแสดงอาการแบบนั้น ตอนแรกเธอรู้สึกตกใจ แต่แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “ดีแล้วที่ลูกหย่ากับหล่อน! อย่างน้อยหล่อนก็ได้ทำอะไรดี ๆ บ้างสักครั้ง! ในใจฉัน มีแค่ทักษอรที่เป็นลูกสะใภ้ของฉัน ในขณะที่โศภิตาไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับฉัน!” แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ การก่นด่าโศภิตาของจารุณีนั้นออกจะฟังดูรุนแรงเป็นพิเศษในความรู้สึกของแทนไทย “พอเถอะครับ” เขาหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาหลังจากพูดจบ และเดินออกจากบ้านไป ทินกรจ้องไปที่แผ่นหลังของพี่ชายด้วยความสับสน “แม่ โศภิตาจะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ” จารุณีแค่นเสียงอย่างเย็นชา “หล่อนไม่กล้าหรอก! ต่อให้หล่อนจะต้องการหย่า แต่หล่อนก็จะไม่ได้เงินแม้แต่แดงเดียวจากลูกชายฉัน!” ทินกรไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงก้มหน้าลงและจมอยู่ในความคิดของตนเอง ทันใดนั้น เขารู้สึกเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองมาที่เขา เขาจึงมองขึ้นไปโดยไม่รู้ตัว ทินกรเห็นทักษอรยืนเงียบ ๆ อยู่หน้าราวบันได เขาไม่แน่ใจว่าเธออยู่ที่นั่นมานานแค่ไหนแล้ว พอเห็นทินกรมองมาอย่างประหลาดใจ ทักษอรจึงยิ้มอย่างนุ่มนวล เสียงของเธออ่อนโยนมาก “สวัสดี ทินกร” ทินกรได้ยินมาจากแม่ของเขาว่าทักษอรเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของนักธุรกิจที่คอยช่วยเหลือด้านการงานของพี่ชายของเขาเป็นอย่างมาก ในขณะที่โศภิตาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อแม่ และเธอรู้เพียงว่าจะใช้เงินของพี่ชายของเขาอย่างไร สำหรับทุกคนแล้ว ความแตกต่างนั้นเห็นได้อย่างชัดจน ทินกรยิ้มให้ทักษอรอย่างเป็นมิตร “สวัสดีครับ พี่ทักษอร” …… วันรุ่งขึ้น โศภิตาตื่นแต่เช้าเพื่อแต่งตัวเป็นพิเศษสำหรับวันนี้ เธอหยิบชุดเดรสรัดรูปสีดำออกจากตู้เสื้อผ้าก่อนจะสวมมัน โศภิตาจำได้ว่าเธอเคยใส่มันครั้งหนึ่งตอนอยู่กับแทนไทย แต่เขาบอกว่ามันน่าเกลียด เธอจึงไม่เคยใส่มันอีกเลยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ในวันนี้ โศภิตาไม่เพียงแต่สวมชุดเดรสที่แทนไทยเคยบอกว่ามันน่าเกลียด เธอยังแต่งหน้าอย่างประณีตและทาปากสีแดงอีกด้วย ความมั่นใจของเธอสูงเสียดฟ้า แทนไทยมาถึงสำนักงานเขตพร้อม ๆ กับโศภิตา โศภิตายกยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา “คุณแทนไทย ฉันค่อนข้างยุ่งมาก เพราะฉะนั้นรีบไปทำให้จบ ๆ เถอะ” แทนไทยเหลือบมองเธอพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า เขาจ้องมองลึกลงไป “ใจร้อนจังนะ เป็นเพราะนายแบบคนนั้นเหรอ” โศภิตาอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะรู้ว่าแทนไทยกำลังเข้าใจผิด แต่ในเมื่อเขาเข้าใจแบบนั้น โศภิตาจึงไม่ได้อธิบายอะไร ในทางตรงกันข้าม เธอเลิกคิ้วขึ้นพร้อมยิ้มและพูดว่า “นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน ฉันคิดว่าคุณไม่มีสิทธิ์ถามนะคะ” แทนไทยไม่ชอบท่าทางแบบนั้นเลย โศภิตาทำราวกับว่าเขาเป็นคนที่ได้ไม่สำคัญอะไรสำหรับเธอ “เธอรักเขางั้นเหรอ” เห็นเขายังคงพูดเรื่องนี้ต่อ โศภิตาค่อนข้างจะหมดความอดทน "ใช่ ฉันรักเขา พอใจหรือยัง เพราะฉะนั้นเราไปหย่ากันตอนนี้เลยได้ไหม” แทนไทยเม้มปากจนเป็นเส้นตรง พร้อม ๆ กับมีชั้นน้ำแข็งค่อย ๆ ปกคลุมใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ในเมื่อเธอร้อนใจขนาดนี้ เขาจึงคิดว่าเขาควรจะทำตามความปรารถนาของเธอ สำนักงานเขตใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการดำเนินการตามขั้นตอน เมื่อโศภิตามองดูใบหย่าในมือ ดวงตาของเธฮก็คลอไปด้วยน้ำทันที นับจากนี้เป็นต้นไป พวกเขาทั้งคู่ไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันอีกแล้ว และเธอก็ไม่จำเป็นต้องคอยประนีประนอมกับเรื่องต่าง ๆ เพื่อเขาอีกต่อไป! โศภิตาสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะกลืนก้อนความเจ็บปวดทั้งหมดลงไป แล้วเงยหน้าขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ และในตอนนี้เอง รถมายบัคสีดำแวววาวก็ขับมาจอดอยู่ข้าง ๆ เธอ ขายาวคู่หนึ่งก้าวลงจากรถ เป็นครามที่อยู่ในชุดเสื้อแจ็กเก็ต หลังจากที่ชายหนุ่มรูปงามเห็นเธอ รอยยิ้มทรงเสน่ห์ก็เติมเต็มที่มุมปากของเขา “ผมมารับคุณ” โศภิตาชะงักไปครู่หนึ่ง “ฌานบอกว่าจะมารับฉันไม่ใช่เหรอ” “คุณฌานไปจองสถานที่ที่ซีเลสเชียลเพื่อฉลองให้คุณเย็นนี้ ก็เลยให้ผมมารับคุณแทน” ครามช่วยถือกระเป๋าให้เธอ “ขึ้นรถก่อนสิครับ ผมจะพาคุณไปที่ดี ๆ สักที่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณสามี ครั้งนี้ฉันต้องหย่าให้ได้