คุณสามี ครั้งนี้ฉันต้องหย่าให้ได้ นิยาย บท 5

ตอนที่ 5 ใครเขียนไดอารี่

หลังจากบอกลาฌานและครามแล้ว โศภิตาก็กลับไปที่บ้านเก่าของพ่อเธอ ในบ้านมีฝุ่นอยู่ทุกที่ ซึ่งนั่นหมายความว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้ทำความสะอาดมาเป็นเวลานานแล้ว โศภิตาสวมผ้ากันเปื้อนและเริ่มทำความสะอาดทันที ที่ใต้โซฟา เธอเจอรูปถ่ายตอนแต่งงานกับแทนไทย เธอยิ้มราวกับดอกไม้อยู่ในรูป ในขณะที่แทนไทยซึ่งยืนอยู่ข้างเธอกลับมีใบหน้าเฉยเมยพร้อมกับคิ้วที่ขมวดอย่างร้อนรน และยังมีไดอารี่ของเธอวางอยู่ข้าง ๆ รูปภาพ ในไดอารี่ มีบันทึกสิ่งที่แทนไทยชอบกิน ชอบใช้ และรายการงานอดิเรกของเขา ก่อนหน้านี้ ชีวิตของเธอหมุนรอบแทนไทย เธอพยายามอย่างหนักที่จะจัดการชีวิตแต่งงานที่เธอชนะรางวัลมาอย่างยากลำบาก แต่ความจริงกลับกระแทกเธอจนก้องไปหมด เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โศภิตาเงยหน้าขึ้นและบังคับตัวเองให้กลั้นน้ำตาไว้ ในวินาทีต่อมา เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น และเมื่อเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็พบว่าเป็นครามที่ส่งข้อความมา ‘คุณโศภิตา คุณช่วยผมไว้เมื่อ 6 ปีก่อน เพราะฉะนั้นตอนนี้ ผมจะช่วยคุณเอง ละทิ้งอดีตและทำทุกอย่างที่คุณอยากทำ ผมจะคอยเป็นผู้สนับสนุนของคุณ’ ความอบอุ่นปกคลุมหัวใจของโศภิตาขณะที่เธออ่านข้อความ ถึงแม้เธอจะรู้ว่าครามพูดออกมาเพราะความปรารถนาดีและเขาเพียงแค่ต้องการตอบแทนเธอ แต่เธอไม่ต้องการที่จะพึ่งพาใครอีกต่อไป ตั้งแต่แต่งงานกับแทนไทย เธอได้ละทิ้งทั้งพื้นอารมณ์และบุคลิกภาพทั้งหมดของเธอเพื่อเป็นภรรยาที่ดีของเขา ดังนั้นเธอจึงเกือบลืมไปแล้วว่าเธอเคยเจ๋งและไร้ซึ่งความกังวลขนาดไหน โศภิตาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดหมายเลขโทรออก “โศภิตา เธอยังต้องการอะไรอีก” น้ำเสียงเฉยเมยของแทนไทยดังขึ้นที่ปลายสายอีกด้าน เสียงของเธอเองก็เย็นชาราวกับว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า “พรุ่งนี้วันจันทร์ อย่าลืมไปที่สำนักงานเขตเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการหย่าร้าง” แทนไทยขมวดคิ้ว “นี่เธอ—” เธอวางสายโทรศัพท์ก่อนที่เขาจะพูดจบ ทิ้งให้แทนไทยจับโทรศัพท์แน่นพร้อมกับดวงตาเย็นชาที่จ้องมองอย่างว่างเปล่าไปยังพื้นที่ว่าง “แทนไทย ใครโทรมาเหรอคะ” บนเตียงในห้องนอน ทักษอรมองดูระเบียงที่แทนไทยยืนอยู่อย่างสงสัย เมื่อได้ยินทักษอรถาม แทนไทยจึงวางโทรศัพท์และแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเดินอย่างเฉยเมยมาหาเธอ พร้อมยัดมุมผ้าห่มให้ “ไม่มีอะไร กินยาก่อนนะ” ใบหน้าซีดเซียวของทักษอรดูแล้วน่าเห็นใจ เธอจับมือชายหนุ่มและทำหน้ามุ่ยอย่างน่าสงสาร “ยาขมเกินไป และรสชาติก็แรงมากจนทำให้ฉันรู้สึกไม่สบาย” แทนไทยเลิกคิ้ว “แต่ตอนที่เราเป็นเพื่อนทางจดหมาย ไม่ใช่คุณบอกว่าคุณไม่กลัวความขมของยาเหรอ กินยาซะ คุณจะได้หายเร็วขึ้น” แทนไทยพูดอย่างไม่ใส่ใจ โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นบางสิ่งแวบผ่านดวงตาของทักษอร ในไม่ช้า เธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ดวงตากลมโตของเธอมีน้ำใส ๆ คลออยู่ในขณะที่พูดว่า “โอเคค่ะ คุณก็รู้ว่าฉันเชื่อฟังคุณเสมอ” ทักษอรอยู่ในอาการโคม่ามา 6 ปีแล้ว ร่างกายเธอผ่ายผอมและใบหน้าซีดเซียว แต่บุคลิกของเธอยังคงเหมือนสมัยเรียน พอเห็นเธอเป็นแบบนี้ แทนไทยก็รู้สึกสงสารเธอ “คราวหน้าฉันจะให้ธนากรเปลี่ยนเป็นยาเม็ด” ทักษอรยิ้มหวานก่อนจะคล้องแขนเขาและทำตัวเหมือนเด็ก ๆ “คุณดีที่สุด!” หลังออกจากห้อง แทนไทยลงไปชั้นล่างและเห็นจารุณีเดินมาพร้อมกับชามซุปโสมในมือ “ทักษอรรู้สึกดีขึ้นหรือยัง” “เธอเพิ่งกินยาเสร็จและกำลังคุยโทรศัพท์กับพ่อแม่ของเธอ” จารุณียิ้ม “แทนไทย พ่อของทักษอรคือประธานบริษัท ไตรฟอร์ส เอ็นเตอร์ไพรส์ ในเมื่อเขายอมให้เราพาทักษอรมาอยู่ที่นี่ นั่นก็หมายความว่าเขาเห็นด้วยกับการแต่งงานระหว่างเธอทั้งคู่ ดังนั้นเราต้องปฏิบัติต่อเธออย่างดีและอย่าขัดใจเธอ” เห็นแม่ของเขาดูแลทักษอรแบบนี้ ทำให้แทนไทยนึกถึงช่วงเวลาที่โศภิตาป่วยเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้น จารุณีโกรธมากและทำลายข้าวของที่ชั้นล่างเพราะต้องการให้โศภิตาเตรียมอาหารเย็น โศภิตาจึงทำได้เพียงลากร่างที่ป่วยของเธอลงมาทำอาหาร ทันทีที่แทนไทยเกิดความรู้สึกสับสนเพียงเล็กน้อย ความรู้สึกนั้นก็หยุดลงเมื่อเขานึกได้ว่าเธอคือคนที่ขับรถชนทักษอรและใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้เพื่อแต่งงานกับเขา เธอทำทุกอย่างด้วยตัวเธอเอง ขณะที่แทนไทยกำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง จารุณีมองซ้ายมองขวา “ทินกรไปไหน ฉันไม่เห็นเขาเลยทั้งวัน” ทันทีที่เธอพูดจบ ประตูก็ถูกผลักเปิดเสียงดัง ปัง ทินกรปรากฏตัวด้วยใบหน้ามืดครึ้มและกรุ่นโกรธ “ทินกร! เกิดอะไรขึ้นกับลูก" จารุณีวางชามซุปลงทันทีและรีบไปดูลูกชายคนเล็กของเธอ ทินกรปัดมือเธอออก “ผมไม่เป็นไรครับแม่” ทินกรมองไปที่แทนไทยด้วยท่าทางลังเลและพูดว่า “พี่ครับ ผมเห็นโศภิตาที่บาร์วันนี้ เธอดูสนิทสนมกับนายแบบคนหนึ่งมาก และดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่ธรรมดา” ใบหน้าของแทนไทยกลายเป็นเย็นชา “มันเป็นใคร"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณสามี ครั้งนี้ฉันต้องหย่าให้ได้