ตอนที่ 4 หนุ่มน้อย
เมื่อเธอก้าวขึ้นรถ เธอก็กลับมาเป็นโศภิตาที่สง่างามและมั่นใจอีกครั้ง ณานหัวเราะ “วันนี้มีผู้ชายหน้าตาดี 2-3 คนมาที่ซิเลสเชียล เธออยากไปดูหน่อยไหม” ชื่อ ‘ซีเลสเชียล’ เอามาจากคำว่า ‘Celeste’ ที่แปลว่า ‘สวรรค์’ ซีเลสเชียลคือสถานที่สำหรับความบันเทิงและความสุข เป็นสถานที่ที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์ โศภิตาพูดไม่ออก “นายจะบ้าเหรอ ฉันเพิ่งจะได้สถานะโสดคืนมานะ” เขากระพริบตา แสร้งทำเป็นลึกลับ “เอาน่า จริง ๆ แล้วมีคนอยากเจอเธอน่ะ” “ใคร” “เธอเองก็รู้จักคน ๆ นี้เหมือนกัน และเธอจะได้รู้ว่าเขาเป็นใครเมื่อเราไปถึงที่นั่น” โศภิตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพยักหน้า “ไปก็ได้” ณานมีห้องส่วนตัวสุดพิเศษในซีเลสเชียล หลังจากที่ทั้งสองเข้ามาแล้ว คนที่นั่งอยู่บนโซฟาจึงลุกขึ้นยืนและมองมาที่พวกเขาทั้งคู่ เขาอายุยี่สิบต้น ๆ เขาเป็นผู้ชายที่สูงมากและมีใบหน้าที่แหลมคมพร้อมด้วยคิ้วที่ตรงเฉียบ มีแสงสว่างวาบผ่านดวงตาของเขา หลังจากที่เขาได้เห็นเธอ “สวัสดี คุณโศภิตา ในที่สุดเราก็ได้พบกันอีกครั้ง” โศภิตารู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าเธอดูคุ้นเคย แต่เธอจำไม่ได้ว่าเธอเคยพบเขาที่ไหน “เธอลืมไปแล้วเหรอ เมื่อหกปีก่อน ตอนที่เธอกับพ่อของเธออยู่จอร์แดน เธอได้อุปถัมภ์นักเรียนยากจนคนหนึ่ง” หลังจากณานช่วยรื้อฟื้นความทรงจำ โศภิตาก็จำได้ทันทีว่าเขาเป็นใคร “คุณคือคราม ลี ใช่ไหม” คิ้วของชายหนุ่มผ่อนคลายลงทันทีและรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ก็ยกขึ้นที่มุมปากของเขา “ครับ ผมเอง” ครามเป็นคนช่างพูด โศภิตาได้รู้จากณานว่าตอนนี้ครามคือนายแบบที่กำลังได้รับความนิยม เขาหลุดพ้นออกจากสลัมมานานแล้ว และกลายเป็นคนดังที่มักปรากฏตัวบนนิตยสารชื่อดังทุกประเภทในซีฟิลด์ ครั้งหนึ่งชีวิตของโศภิตาเคยเต็มไปด้วยครอบครัวฟากฟ้า ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยสนใจข่าวคราววงการบันเทิง ตอนนี้เธอได้ละทิ้งอดีตอันน่าสมเพชของตัวเองไปแล้ว เธอจึงรู้สึกพอใจและภูมิใจในตนเอง ทั้งสามคนก็กำลังจะกลับหลังจากพูดคุยกันได้สักพัก แต่ทันทีที่พวกเขาเดินผ่านบาร์ ขวดไวน์สีเขียวก็ลอยมาที่หัวของโศภิตา และไม่ทันได้ตั้งตัว ครามเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่เธอทำ เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา จากนั้นจึงได้ยินเสียง โครม ขวดไวน์กระแทกหลังเขาอย่างแรง “คุณโอเคไหม โศภิตา” โศภิตารู้สึกขอบคุณ เธอรีบตรวจดูแผ่นหลังของเขาอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเธอจึงหันมองไปยิงทิศทางที่ขวดลอยผ่านด้วยใบหน้าเย็นชา เป็นทินกร! “นังแพศยา! กล้าดียังไงมานอกใจพี่ชายฉัน!” ทินกรกำลังดื่มเหล้าอยู่กับกลุ่มเพื่อน และเขาเห็นโศภิตาเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวพร้อมกับผู้ชายอีกสองคน และผ่านไปตั้งนานกว่าที่พวกเขาจะออกมา ใครจะไปรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรที่พูดไม่ได้อยู่ในห้องนั้นบ้าง! การที่ได้เห็นพวกเขาพูดคุยและหัวเราะอยู่ในนั้น ความกรุ่นโกรธก็ปะทุขึ้นในใจของทินกร ดังนั้นเขาจึงโยนขวดที่เขาถือไปทางคนเหล่านั้น เห็นเหตุการณ์เป็นแบบนี้ ฌานจึงพับแขนเสื้อขึ้นและกำลังจะก้าวไปข้างหน้า "นี่! ดูเหมือนนายจะอยากมีเรื่องนะ ใช่ไหม” แทบจะทันที โศภิตารั้งฌานไว้ข้างหลัง “ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง” พอพูดจบ เธอจึงเดินไปหาทินกรทีละก้าว ทินกรเบ้ปาก “ยังไงขวดก็ไม่โดนเธออยู่ดี!” ใบหน้าของโศภิตาไร้ความรู้สึก เธอจ้องทินกรอย่างสงบจนน่ากลัว “ฉันมีบางอย่างจะพูดกับนาย” “อะไร” “นายรู้ไหมว่าตัวเองน่ารำคาญแค่ไหน ฉันแต่งงานกับพี่ชายของนายมา 6 ปีแล้ว แต่นายไม่เคยเรียกฉันว่าพี่สะใภ้เลย เธอเอาแต่เรียกฉันว่า ‘นังแพศยา’ ฉันต้องคอยดูแลนายก่อนไปโรงเรียนและหลังเลิกเรียน! แต่สิ่งที่นายทำคือชี้นิ้วมาที่ฉันและพูดจาน่ารังเกียจกับฉัน ให้ตายเถอะ นายไปโรงเรียนมา 17 ปีแล้ว นายไม่ได้อะไรเลยเหรอ” ทินกรขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเธอด่าเขา “นี่เธอ—” “หุบปาก” โศภิตาขัดจังหวะเขาอย่างเคร่งขรึม “ฉันหย่ากับพี่ชายของนายแล้ว และฉันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับครอบครัวของนายอีกต่อไป จากนี้ไป ฉันจะอยู่กับใครก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฉัน และนายไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามายุ่ง ถ้านายยังเอาแต่ยั่วโมโหฉันแบบนี้อีกต่อไป ขอโทษนะ แต่ผู้เยาว์อย่างนายคงต้องเข้าไปนอนในคุกเพราะดื่มสุราทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ” ทินกรหน้าแดงด้วยความอับอาย ทุกคำที่เขาต้องการจะพูดติดอยู่ในลำคอของเขา โศภิตาจึงหันหน้าหนีและหันหลังเดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณสามี ครั้งนี้ฉันต้องหย่าให้ได้