ตอนที่ 3 ไปสวรรค์กันเถอะ
ฌานคือเพื่อนสมัยเด็กของเธอ เขาเป็นผู้ชายตามแบบฉบับคนคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เมื่อมองไปที่โศภิตา ณานจึงถามเธออย่างไม่มั่นใจ “ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้แล้วเหรอ” “ฉันไม่เคยแน่ใจขนาดนี้มาก่อน” บนริมฝีปากของเธอมีรอยยิ้มตั้งแต่เธอออกจากบ้านหลังนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยสง่าและงดงามอยู่แล้ว และรอยยิ้มนี้ดูเหมือนจะช่วยขจัดหมอกควันที่ปกคลุมใบหน้าของเธอมานานหลายปีให้หายไป ทำให้ใบหน้าของเธอดูสดใสขึ้นในทันที ณานถอนหายใจ “ฉันนึกว่าเธอจะไม่ยอมตื่นไปตลอดชีวิตซะอีก ฉันเป็นห่วงเธอมากจริง ๆ ในช่วงหกปีที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าเธอชอบอะไรในตัวไอ้เวรนั่น” โสภิตาพยักหน้า “นั่นสินะ ทำไมฉันถึงโง่ขนาดนั้น” “โชคดีที่ตอนนี้เธอตาสว่างแล้ว ขืนเธออยู่กับเขาต่อไปอีก 6 ปี เธอก็จะกลายเป็นยายแก่หน้าเหี่ยว” ณานพูดติดตลก “ฉันคิดไว้แล้วว่าถ้าเธอถูกไล่ออกจากบ้านหลังนั้นตอนแก่ ฉันก็จะฝืนใจแต่งงานกับเธอ เราจะได้อยู่เป็นเพื่อนกัน ฉันหมายความว่ายังไงซะพวกเราก็โตมาด้วยกันนี่นะ” เขากล่าวเสริม โศภิตากลอกตาใส่เขา "หุบปาก" “ช่างเรื่องนั้นก่อน นี่คือข้อตกลงการหย่าที่เธอบอกให้ฉันเตรียมให้ ลองดูสิ” หลังจากรับเอกสารมาแล้ว โศภิตาก็พลิกดูอย่างตั้งใจ “ฉันจะไม่เอาอะไรจากแทนไทยทั้งนั้น ฉันไม่เคยติดหนี้เขาในอดีต และฉันก็ไม่ต้องการที่จะจบลงด้วยการติดหนี้เขาในอนาคต” จากนั้นเธอจึงเซ็นชื่อโดยไม่ลังเล เห็นเธอมีความสุขมากขนาดนั้น จึงช่วยไม่ได้ที่ฌานจะยิ้มออกมา เขาพูดว่า “ดีแล้ว ๆ ไม่มีการลังเลเหรองั้นเหรอ” โศภิตาวางปากกาและเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ไปโรงพยาบาลกันเถอะ” “ได้เลยครับคุณผู้หญิง” ชั้นบนสุดของโรงพยาบาลมีไว้สำหรับผู้ป่วยวีไอพีเท่านั้น หลังจากเจอห้อง 1203 โศภิตาเคาะประตูก่อนจะกดราวจับและผลักประตูให้เปิดออก หญิงสาวสวยคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียงดูเหมือนจะตกใจที่เห็นเธอ หญิงสาวซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่มด้วยความกลัวพร้อมกับน้ำตาในดวงตาของเธอ เธอดูเหมือนจะหวาดกลัวโศภิตา ใบหน้าของแทนไทยเองก็ดูไม่พอใจ น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง "ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่" โศภิตาหยิบข้อตกลงการหย่าร้างออกมาจากกระเป๋าของเธออย่างช้า ๆ แล้วยื่นให้แทนไทย “เซ็นตรงนี้ แล้วฉันจะไปทันที” หลังจากแทนไทยมองดูเอกสาร ใบหน้าของเขามืดครึ้มลงเล็กน้อย และเสียงของเขายิ่งเย็นกว่าเดิม “คุณต้องการหย่างั้นเหรอ” "คุณคิดว่ายังไงล่ะ" โศภิตาทัดผมไว้ข้างหลังใบหูของเธอและยิ้มอย่างนุ่มนวล แม้ว่าจะดูเหินห่างไปบ้าง “ระยะเวลาหกปีที่ผ่านมา คงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับคุณ คุณจะได้โล่งใจจากความทุกข์ทรมานของคุณหลังจากเซ็นเอกสารนี้ หรือไม่ใช่คะ” แทนไทยเลิกคิ้วขึ้น การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและเคร่งขรึม เขาไม่แน่ใจว่าเธอพยายามจะหลอกใช้กลอุบายอะไรอีก และในตอนนั้นเอง ทักษอรเรียกเขาอย่างแผ่วเบาบนเตียงของโรงพยาบาล “แทนไทย…” เสียงเรียกนี้ฟังดูเหมือนคำใบ้ แทนไทยมองทักษอรแล้วจ้องไปที่ใบหน้าของโศภิตาอีกครั้งขณะที่ลูกกระเดือกของเขาขยับ “เราจะคุยเรื่องนี้ตอนเธอถึงบ้าน ตอนนี้เธอออกไปก่อน อย่ามารบกวนทักษอร” โศภิตายิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา “ฉันจริงจังนะ ยังไงคุณก็จะพาทักษอรกลับบ้านอยู่แล้วนี่ เซ็นให้เสร็จ ๆ ไปตอนนี้เลยก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันจะได้ไปให้พ้นทางคุณ” “โศภิตา รัตนธร” น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบและหนักแน่น ราวกับว่านี่ถึงขีดจำกัดความอดทนของเขาแล้ว “อืม ทักษอรกำลังมองอยู่ หรือจะเป็นไปได้ไหมว่า… คุณเริ่มรักฉันแล้ว ก็เลยไม่ต้องการที่จะหย่า” ริมฝีปากของโศภิตายกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่สง่างามและมีเสน่ห์ ทักษอรมองแทนไทยอย่างน่าสงสาร เธอพยายามอ่านใจของเขา “มีอะไรเหรอแทนไทย” โศภิตามองเขาอย่างเย็นชาและรอให้เขาตัดสินใจ "ตกลง ฉันจะเซ็น” แทนไทยเม้มปาก ใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา โศภิตายิ้มอย่างพอใจ เธอถือใบหย่าที่ลงนามแล้วไว้ในมือ และจากไปอย่างมีความสุขโดยไม่ลังเลหรือหลงเหลือความผูกพันใด ๆ แต่ทันทีที่เธอก้าวออกจากวอร์ดของโรงพยาบาล น้ำตาก็ไหลออกจากหางตาของเธออย่างไม่มีที่สิ้นสุด หกปีของการแต่งงาน และแปดปีของความรัก ทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์ หัวใจของมนุษย์ล้วนสร้างขึ้นมาจากเนื้อหนัง มันคงเป็นเรื่องโกหกที่จะบอกว่าเธอไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรู้สึกเหมือนมีคนมาทิ่มแทงหัวใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยปลายเข็ม และมันก็เจ็บปวดราวกับตกนรก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณสามี ครั้งนี้ฉันต้องหย่าให้ได้