คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 108

สรุปบท บทที่ 108 พี่ชายหน้านิ่งแสนดุ: คู่แฝดคู่ป่วน

ตอน บทที่ 108 พี่ชายหน้านิ่งแสนดุ จาก คู่แฝดคู่ป่วน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 108 พี่ชายหน้านิ่งแสนดุ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ คู่แฝดคู่ป่วน ที่เขียนโดย ไป๋หลัน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากทำกินหารและทำเรื่องส่วนตัวกันเสร็จเรียบร้อยทั้งหมดก็ออกเดินทาง ระยะทางจากนี้ไปป่าหมอกมายาไม่ห่างไกลมากนัก องครักษ์ของหยางหลงก็จัดการกับเส้นทางที่รกร้างเอาไว้ล่วงหน้าแล้วเลยทำให้การเดินทางวันนี้สะดวกดีไม่น้อย

ทั้งหมดควบม้ากันมาเพียงหนึ่งชั่วยามก็ถึงเขตชายป่าหมอกมายา ภายในป่าหมอกมายานั้นส้นทางเอาแน่เอานอนไม่ได้บางแห่งก็เป็นป่ารกทึบต้องอาศัยเดินเท้าเข้าไป บางแห่งก็เป็นแม่น้ำกว้างต้องต่อเรือข้าม เป็นผาสูงก็มีแล้วแต่เส้นทางที่จะเดินแต่ขึ้นชื่อว่าป่ามายาล้วนแต่มีอันตรายเกินยากคาดเดา

“จากนี้เราคงต้องเดินเท้าเข้าไป” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกทุกคน

“สมุนไพรที่เราต้องการอยู่ส่วนใดของป่าหมอกมายาหรือ?” จิวอิงเอ่ยถามน้องสาว เพราะนางก็ไม่ค่อยรู้เรื่องสมุนไพรนักแต่จะให้น้องสาวเดินทางมาเสี่ยงอันตรายนางย่อมไม่ยินยอม แม้จะเก่งกาจไม่เท่าบุรุษแต่นางก็จะปกป้องน้องสาวให้ดีที่สุด

“ในตำราบอกว่ามันอยู่ในเขตป่าชั้นในและชอบขึ้นอยู่บริเวณริมผาสูงเป็นสมุนไพรที่รักความสันโดษเป็นอย่างมากมันจะแยกตัวออกจากพืชทุกชนิด มันจึงเลือกขึ้นอยู่ที่ผาสูง” เย่วซินเอ่ยบอก ตนศึกษาทั้งลักษณะภูมิอากาศที่สมุนไพรชนิดนี้จะขึ้นและลักษณะใบ ลำต้นและดอกของมันอย่างละเอียดแล้ว ถ้าพบเจอก็น่าจะรู้ได้ทันที

“ถ้าเป็นผาสูงคงต้องเข้าไปด้านในป่าลึกอันตรายก็มากมายเช่นกัน” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอก

“พวกเราคงต้องระวังตัวเอาไว้ให้มาก ๆ อิงเอ๋อร์เจ้าอยู่ใกล้ ๆ พี่เอาไว้เข้าใจหรือไม่” หยางหลงเอ่ยพร้อมจับมือร่างบางที่ยืนอยู่ข้างกายเอาไว้แน่นและเขาก็จะไม่ยอมปล่อยมือนี้เป็นอันขาด ในป่าล้วนอันตรายรอบด้านเขาไม่อาจไว้ใจได้

“โอ๊ย...หวานกันได้ทุกเวาลาเสียจริงข้าชักจะอิจฉาแล้วนะ” เย่วซินเอ่ยเย้าคนทั้งคู่มีคนรักมันดีเช่นนี้นี่เอง สงสัยนางต้องรีบหาบ้างแล้วกระมัง

“อิจฉาก็รีบหาคนรักสักคน...เอ๊ะรึว่าสองคนดีถึงจะคุมเจ้าอยู่แสบขนาดนี้” หยางหลงเอ่ยพร้อมเหล่สายตาไปยังสองบุรุษที่ยืนทำหน้าขรึมทั้งคู่

“ถ้าข้ามีคนรักสองคนคงได้ปวดหัวตายพอดี อีกอย่างมีสตรีที่ใหนมีสามีสองคนบ้างถ้าข้าเป็นบุรุษก็ว่าไปอย่าง” เย่วซินเอ่ยไปถึงเรื่องมีสามีอย่างไม่กระดากปากจนบางคนที่ได้ฟังถึงหูขึ้นสี

“บุรุษสตรีล้วนไม่แตกต่างถ้าต่างฝ่ายต่างตกลงกันได้” หยางหลงยังเอ่ยต่อด้วยใบหน้าหยอกเย้า

“จริงหรือ เช่นนั้นถ้าข้าจะมีสามีสักสี่ห้าคนก็ย่อมได้ใช่หรือไม่ถ้าพวกเขาตกลงกันได้” เย่วซินเอ่ยเย้ากลับขำ ๆ แต่พอพูดจบก็มีมือใหญ่ดีดเข้าที่หน้าผาก “โอ๊ย...พี่เย่วเทียนข้าเจ็บ”

เย่วเทียนที่ได้ยินน้องสาวเอ่ยเช่นนั้นก็พลันให้เดือดดาลเขาไม่เคยใช้กำลังกับนางมาก่อนครั้งนี้เป้นครั้งแรก นางพูดออกมาได้อย่างไรว่าจะมีสามีถึงสี่ห้าคนช่างน่านัก!

จ้าวไท่เหว่ยเองก็เช่นกันเขาก็เกือบพลั้งมือเช่นกันแต่ยังดีที่ยั้งเอาไว้ได้ทันแต่นางก็ไม่รอดพ้นมือของพี่ชายนางอยู่ดี นางเป็นเช่นนี้เสมอพูดเรื่องพวกนี้ได้อย่างไม่กระดากปากราวพูดเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป

“ข้าแค่พูดขำ ๆ เองอย่าโกรธข้าเลยนะเจ้าคะ...” เย่วซินเอ่ยพร้อมโอบกอดเอวพี่ชายหน้านิ่งของตนเอาไว้คล้ายออดอ้อนให้เขาหายโกรธ พี่เย่วเทียนไม่เคยทำร้ายนางเช่นนี้เขาคงโกรธจริงและยังทำหน้าขรึมอีกต่างหาก

จ้าวไท่เหว่ยเห็นร่างเล็กโอบกอดพี่ก็พลันร้อนลุ่มในอกถ้าเมื่อครู่เขาเป็นคนดีดหน้าผากนาง นางจะกอดเขาเพื่อออดอ้อนเช่นนี้หรือไม่นะ แต่ตอนนี้เขารู้สึกอิจฉาพี่ชายของนางยิ่งนัก

“นางแค่พูดเล่นเท่านั้นเอง อย่าโกรธนางเลยเย่วเทียนเป็นข้าที่เอ่ยหยอกเย้านางก่อน” หยางหลงเอ่ยเมื่อเห็นสหายยังมีสีหน้าบึ้งตึง

“เรารีบเดินทางกันเถอะ” จ้าวไท่เหว่ยรีบเอ่ยเพื่อยุติเหตการณ์ตรงหน้าพร้อมก้าวเท้าเดินนำหน้าทุกคนออกไปก่อน

เมื่อเข้ามาด้านในเขตป่าหมอกมายาอากาศกลับเย็นลงผิดกับภายนอกเมื่อครู่ วันนี้เย่วซินสวมอาภรณ์ถึงสองตัวและยังมีเสื้อขนสัตว์คลุมทับอีกชั้นจึงรู้สึกดีขึ้น ในป่าหมอกมายามีต้นไม้สูงใหญ่แต่ยังไม่หนาแน่นมากนักคงเพราะยังเดินเข้ามาไม่ลึกมาก สัตว์ป่าอันตรายก็ยังไม่เห็นแม้สักตัวเดียว

“ระวัง!...” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยเตือนเมื่อเห็นงูทมิฬหลายตัวกำลังเลื้อยมาทางพวกตน เจ้างูพวกนี้เขาเคยให้ซานจงนำไปปล่อยในกระโจมขององค์หญิงแคว้นหาน มันค่อยข้างดุร้ายถ้าถูกมันกัดนั้นยังยากที่จะถอนพิษ แต่ตนไม่ใช่นักปรุงพิษจึงไม่รู้ว่ามันต้องใช้สิ่งใดในการถอนพิษของพวกมัน รู้แต่เพียงว่าพิษของพวกมันร้ายกาจไม่อาจดูเบา

หยางหลงจับร่างของคนรักมาไว้ทางด้านหลังของตนไม่ให้นางห่างกาย แล้วยกกระบี่ขึ้นจัดการกับพวกงูร้ายที่หวังจะเข้ามา จิวอิงเองก็ใช่อ่อนแอหยิบกระบี่ของตนเองออกมาเช่นกันแต่ในเมื่อคนรักของนางอยากปกป้องนางก็ยินดีให้เขากระทำนางเพียงแค่ระวังไว้อีกทางก็เท่านั้น

จ้าวไท่เหว่ยและเย่วเทียนช่วยกันกำจัดงูทมิฬและคอยระวังไม่ให้พวกมันเข้าใกล้กับร่างเล็กที่ไม่เป็นวรยุทธได้ ทั้งสองคนต่างช่วยกันได้เป็นอย่างดีเยี่ยมไม่นานพวกงูทมิฬก็ถูจัดการจนสิ้นบางตัวก็ล่าถอยออกไปไม่กล้าเข้ามายุ่งอีก

ด้านนอกกระโจมมีองครักษ์ทั้งหลายต่างผลัดกันเฝ้าเวรยามแต่กระนั้นบุรุษผู้เป็นนายทั้งสามคนย่อมไม่มีทางที่จะหลับสนิทไปได้ในป่าล้วนอันตรายพวกเขาย่อมระวังตัวอยู่ตลอดเวลา

จ้าวไท่เหว่ยนั่งหลับอยู่ภายในกระโจมตรงทางเข้าไม่ได้นอนสบายอย่างผู้อื่น เขาเคยเข้ามาในป่าแห่งนี้ครั้งหนึ่งแล้วและยังจำเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ค่ำคืนนี้ช่างเงียบสงบไร้แม้เสียงของหรีดเรไรช่างไม่น่าไว้วางใจเอาเสีย

บุรุษสองคนที่นอนสงบนิ่งแต่ลึก ๆ แล้วล้วนแต่ระวังภัยไม่อาจข่มตาให้หลับลึกได้อากาศที่หนาวเย็นยะเยือกชวนน่าขนลุกและค่ำคืนนี้มันยังเงียบจนผิดสังเกต มองดูร่างเล็กทั้งสองที่นอนอีกฝั่ง คนหนึ่งนอนสงบนิ่งส่วนอีกคนไม่เห็นแม้แต่ศีรษะเห็นเพียงก้อนกลม ๆ ของผ้าห่มที่ม้วนจนแน่นหนาถ้าไม่หนาวตายก็อาจจะขาดอากาศหายใจตายก็เป็นได้

เสียงสวบสาบของใบไม้แห้งดังแว่วมาในโสตประสาทขององครักษ์ทั้งหลายไม่เว้นแม้แต่บุรุษที่นอนอยู่ในกระโจมต่างลืมตาตื่นขึ้นมาเงี่ยหูฟังที่มาของเสียงนั้น

หยางหลงเอื้อมมือใหญ่ปลุกร่างบางของคนรักอย่างเบามือเพื่อเรียกให้นางตื่น จิวอิงเมื่อได้รับการปลุกเพียงเบา ๆ ก็ตื่นลืมตาขึ้น

“เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะพี่หยางหลง” จิวอิงเอ่ยถามคนรักด้วยน้ำเสียงงุนงง

“มีบางอย่างกำลังใกล้เข้ามาเจ้ารีบปลุกซินเอ๋อร์เถิด” หยางหลงเอ่ยบอกร่างบางตรงหน้าเพื่อให้เตรียมระวังตัว

จิวอิงรีบเอื้อมมือเขย่าปลุกน้องสาวที่ตอนนี้นอนอยู่ภายใต้ผ้าห่มหนาทันที เย่วซินเมื่อโดนปลุกก็ตื่นลืมตาขึ้น ตนเองก็นอนหลับไม่สนิทเท่าใดนักเพราะแปลกที่แปลกทางอากาศก็วังเวงพิกล แต่ที่ยังพออุ่นใจได้ก็คือบุรุษทั้งหลายที่เป็นเหมือนเกราะคุ้มภัยเป็นอย่างดีที่พออุ่นใจได้บ้าง

เย่วซินรีบลุกขึ้นโดยไม่ได้ถามเรื่องราวอันใดเพราะมันย่อมมีเหตุเกิดขึ้นแน่นอนแต่จะเป็นอะไรนั้นคงต้องรอดูกันอีกที เย่วซินและจิวอิงลุกเดินมายังด้านหน้ากระโจมเพื่อรวมตัวกับบุรุษทั้งหลายที่ยืนอยู่ตรงนั้นเช่นกัน

บรรยากาศรอบ ๆ เงียบสนิทมีเพียงเสียงสวบสาบเดินใกล้เข้ามา องครักษ์ทั้งสี่รีบยกกระบี่ขึ้นแล้วมายืนอยู่ด้านหน้าผู้เป็นนายเพื่อคอยป้องงปกคุ้มกัน

ดวงตาสีแดงฉานหลายคู่ส่องสว่างอยู่ท่ามกลางความมืดมิดยามค่ำคืน มันเริ่มคืบคลานเข้าใกล้เหยื่อของพวกมันอย่างช้า ๆ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน