คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 109

ทั้งหมดพลันตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้ายกเว้นจ้าวไท่เหว่ยที่เขาเคยเจอกับเจ้าพวกนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง

“หะ...เหตุใดจึงตัวใหญ่เช่นนี้เล่า” เย่วซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดขัดเพราะเพิ่งเคยพบเจอหมาป่าสีดำตัวใหญ่มันไม่ใช่แค่ใหญ่ธรรมดามันโคตรใหญ่เลยต่างหาก

“หมาป่าทมิฬ...รีบขึ้นที่สูงก่อนเร็วเข้า” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยพร้อมโอบเอวคนร่างเล็กที่ยืนอยู่ด้านข้างดีดตัวขึ้นบนต้นไม้ใหญ่ทันที เย่วเทียนรีบดีดตัวตามขึ้นมายืนอยู่บนต้นไม้กิ่งเดียวกันกับทั้งสองร่าง หยางหลงและจิวอิงดีดตัวขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ใหญ่อีกต้นที่อยู่ใกล้ ๆ กัน รวมถึงองครักษ์ทั้งหลายก็เช่นกัน

“เอาอย่างไรต่อกันดี ดูท่าพวกมันกำลังหิวโซเลยทีเดียว” เย่วเทียนเอ่ยถามขึ้นไม่ต้องบอกว่าเขาถามใครเพราะตรงนี้มีบุรุษอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น

“พวกมันมีมากเกินไปคงจัดการไม่ไหวแน่” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกพลางมองเหล่าหมาป่าทมิฬเบื้องล่างนับร้อยตัวเห็นจะได้ ต่างรุมล้อมอยู่ใต้ต้นไม้ที่พวกตนยืนอยู่ท่าทางของมันเกรี้ยวกราดดุร้ายมันคงไม่ยอมปล่อยเปยื่อไปโดยง่ายเป็นแน่ และตนก็ไม่อาจรับปากได้ว่าจะอยู่บนนี้ได้อีกนานเท่าไร เพราะดูเหมือนว่าพวกมันก็ร้ายใช่ย่อยไม่เช่นนั้นคงอยู่ในป่าแห่งนี้ไม่ได้

“มันกำลังทำอะไรน่ะ” เย่วซินเอ่ยถามเมื่อมองไปยังเบื้องล่างเห็นมาป่าบางตัวมันกำลังปีนป่ายต้นไม้ สาบานน่ะว่าที่นางเห็นมันคือหมาไม่ใช่แมว เหตุใดมันจึงปีนต้นไม้ได้กันเล่า

“ข้าจะลงไปจัดการเองเจ้าอยู่กับซินเอ๋อร์ระวังอย่าให้นางร่วงลงไป” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกบุรุษที่ยืนอยู่อีกฝากหนึ่งของคนตัวเล็ก เอ่ยจบก็กระโจนลงมาเหยียบกิ่งไม้ด้านล่างรอให้หมาป่าเข้ามาใกล้จากนั้นก็ใช้กระบี่ในมือที่อัดแน่นไปด้วยพลังปราณฟาดใส่ตัวของหมาป่า

หมาป่าทมิฬมันใช้อุ้งเท้าหน้าข้างหนึ่งที่มีกรงเล็บแหลมคมตวัดปัดป้องกระบี่ไม่ให้ฟาดลงมาที่ตัวของมัน พร้อมอ้าปากแยกเขี้ยวอันแหลมคมที่มีน้ำลายใหลยืดคล้ายข่มขู่ให้มนุษย์ตรงหน้ารับรู้ว่ามันกำลังโกรธ

จ้าวไท่เหว่ยไม่ยอมแพ้ซัดกระบี่ลงไปอีกครั้งแม้มันจะปัดป้องได้แต่ก็ไม่อาจสู้ความเร็วที่จ้าวไท่เหว่ยฟาดใส่มันเร็วรัวจนมันไม่อาจปัดป้องได้อีกกระบี่ถูกฟาดลงกลางหัวพอดิบพอดีจนมันร่วงหล่นลงพื้นไปมันเพียงได้รับบาดเจ็บไม่ได้ถึงแก่ชีวิต กระบี่แม้จะใส่พลังปราณลงไปแต่หมาป่าทมิฬทั้งหนังเหนียวและตัวใหญ่โตถ้าจะฆ่ามันคงต้องใช้พลังมากมายทีเดียว

ตัวแรกล่วงไปตัวที่สองก็ขึ้นมาอีกพวกมันด้านล่างมีอยู่นับร้อยและยังดูเกรี้ยวกราดมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีกเมื่อเห็นพวกของมันถูกทำร้าย

ทางด้านหยางหลงก็เช่นกันปล่อยให้คนรักยืนรออยู่บนกิ่งไม้สูงส่วนตัวของตนนั้นลงมาสู้กับเจ้าหมาป่าตัวใหญ่ที่กิ่งไม้ด้านล่าง ตนจะไม่ยอมให้พวกมันได้สมปรารถนาในสิ่งที่พวกมันต้องการได้โดยง่ายเป็นแน่ แต่พวกมันก็ใช่ว่าจะจัดการได้โดยง่ายกว่าจะทำให้มันร่วงหล่นลงไปก็ใช้พลังไปไม่น้อยขืนเป็นเช่นนี้คงได้หมดแรงไปก่อนเป็นแน่ เพราะพวกมันยังรอที่จะปีนขึ้นมาอีกไม่น้อยเลยทีเดียว

“พี่เย่วเทียนลองใช้ยาสลบกับพวกมันได้หรือไม่เจ้าค่ะขืนเป็นเช่นนี้พวกเราคงหมดแรงก่อนเป็นแน่” เย่วซินเอ่ยถามสายตาก็จับจ้องร่างของบุรษที่กำลังต่อสู้กับหมาป่าสีดำตัวใหญ่ที่กิ่งไม้ด้านล่าง

“พี่จะลองดู เจ้าจับกิ่งไม้เอาไว้แน่น ๆ เล่าพี่จะลงไปจัดการเอง” เย่วเทียนเอ่ยบอกร่างเล็กของน้องสาว เย่วซินมือหนึ่งเกาะกุมกิ่งไม้เอาไว้แน่นมือหนึ่งก็หยิบยาสลบชนิดล้มช้างออกมาส่งให้พี่ชายทันที

เย่วเทียนเมื่อรับห่อยาก็รีบกระโดดลงมายังกิ่งไม้ด้านล่างตรงที่บุรุษอีกคนกำลังต่อสู้กับหมาป่าตัวใหญ่ เย่วเทียนเมื่อสบจังหวะเหมาะก็โปรยผงยาสลบใส่เจ้าหมาป่าทันทีอย่างแม่นยำทำให้หมาตัวนั้นร่วงหล่นลงไปด้านล่างทันที

“ขอบใจมาก” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยเมื่อเห็นว่าเขามาช่วยตน เย่วเทียนไม่ได้เอ่ยตอบเพียงพยักหน้ากลับไปเท่านั้น สายตากวาดมองไปยังสหายก็เห็นว่าตึงมืออยู่ไม่น้อย

“ถ้าโปรยผงยาสลบจากตรงนี้คงไปไม่ถึงพวกมันแน่” เย่วเทียนเอ่ยบอกเพราะว่าถ้าโปรยลงไปผงยาสลบคงปลิวไปตามสายลมกระจัดกระจายไปตามอากาศ แต่ถ้าลงไปด้านล่างคงได้เป็นอาหารของพวกมันก่อนที่ยาสลบจะออกฤทธิ์เป็นแน่

“พี่เย่วเทียนใช้เข็มของข้า” เย่วซินตะโกนบอกนางลืมไปว่าผงยาสลบอาจใช้ไม่ได้ดังที่หวังไว้ ใช้เข็มเคลือบยาสลบน่าจะดีกว่า เย่วเทียนได้ยินเช่นนั้นก็รีบทะยานตัวขึ้นมาด้านบนที่ร่างเล็กยืนอยู่ ส่วนจ้าวไท่เหว่ยก็คอยจัดการหมาป่าตัวใหม่ที่กำลังปีนขึ้นมา

เย่วเทียนเมื่อได้รับเข็มอาบยาสลบแล้วก็รีบกระโดดลงมาที่เดิม จากนั้นก็ซัดเข็มยาสลบที่เล่มเล็กบางเฉียบใส่ตัวของหมาป่าทันที แต่เข็มเล่มเดียวดูจะไม่มีผลเพราะร่างที่ใหญ่โตและแข็งแรงของพวกมัน เย่วเทียนจึงซัดเข็มเล่มยาสลบตามไปอีกสามเล่มเพียงครู่มันก็ร่วงหล่นลงไป เข็มอาบยาสลบแม้จะดูบอบบางและเล็กมากแต่นั่นก็ทำให้มันสามารถเสียบแทงผ่านหนังเหนียว ๆ ของหมาป่าตัวใหญ่ได้ดียิ่งนัก

“ทางนี้ข้าจัดการเองเจ้าไปพวกนั้นเถอะ” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอก เย่วเทียนเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้เอ่ยขัดเพราะยามนี้ต้องช่วยเหลือกันจึงส่งเข็มหลายเล่มให้บุรุษตรงหน้าเอาไว้จัดการทางด้านนี้ จากนั้นเย่วเทียนก็ทะยานตัวด้วยวิชาตัวเบาไปยังต้นไม้อีกต้นที่อยู่ไม่ไกลจากที่ตนยืนอยู่

ใช้เวลาเพียงไม่นานพวกหมาป่าทมิฬก็นอนหลับสนิทเกลื่อนพื้นบริเวณด้านล่าง จ้าวไท่เหว่ยทะยานตัวขึ้นไปกิ่งไม้ด้านบนแล้วรวบตัวคนร่างเล็กพาลงมายังเบื้องล่างเมื่อเห็นว่าฝูงหมาป่าสลบไสลจนหมดสิ้น ส่วนคนอื่น ๆ ก็ทยอยลงมายืนเบื้องล่างเช่นกัน

“โชคดีนะที่ซินเอ๋อร์มีเข็มอาบยาสลบติดมาด้วยไม่เช่นนั้นคงเหนื่อยกันไม่น้อย” หยางหลงเอ่ยขึ้นเมื่อเท้าลงเหยียบด้านล่างพร้อมกับคนรักของตน

“ข้าเตรียมมาพร้อมหลายอย่างเผื่อได้ใช้ยามขับขันและมันก็ได้ใช้จริง ๆ” เย่วซินเอ่ยบอกพี่เขยในอนาคตของตน ยาพิษที่เตรียมมานั้นมากมายจนนับไม่ถ้วนเก็บเอาไว้ในแหวนมิติอย่างเป็นระเบียบ เพราะคิดว่ามันอาจมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน