คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 112

สรุปบท บทที่ 112 ตัวประหลาดใต้น้ำ: คู่แฝดคู่ป่วน

บทที่ 112 ตัวประหลาดใต้น้ำ – ตอนที่ต้องอ่านของ คู่แฝดคู่ป่วน

ตอนนี้ของ คู่แฝดคู่ป่วน โดย ไป๋หลัน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 112 ตัวประหลาดใต้น้ำ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ไม่รอให้ทุกคนได้สงสัยอยู่นานเจ้าตัวประหลาดก็โผล่หัวขึ้นมาบนหัวของมันมีหงอนสีแดงเข้มค่อย ๆ โผล่พ้นน้ำจากนั้นก็เป็นดวงตาที่มีสีแดงน่ากลัวมันจ้องมองทางพวกเขาที่อยู่บนแพด้วยสายตาดุดันเอาเรื่อง

เย่วซินที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้วเมื่อเห็นเจ้าตัวประหลาดโผล่หัวขึ้นมาเท่านั้นก็รีบซัดเข็มเงินอาบยาสลบล้มช้างจำนวนห้าเล่มใส่เจ้าตัวประหลาดตรงหน้าทันที นางกะระยะเอาไว้แล้วระยะเท่านี้เพียงพอสำหรับพลังปราณที่ตนมีอย่างแน่นอน

ด้วยความที่ฝึกฝนมาอย่างชำนาญจึงไม่พลาดจากเป้าหมาย เมื่อเข็มเงินปักเข้าที่ด้านหน้าของมัน มันก็มีอาการคุ้มคลั่งโผล่พรวดทั้งทะยานขึ้นด้านบนผิวน้ำทันทีและสิ่งที่เห็นด้านหน้านั้นทำให้ทุกคนถึงกับกลืนน้ำลายเหนียวลงคอทันที

เจ้าตัวประหลาดตรงหน้ากรีดร้องเสียงดังพร้อมตวัดหางไปมาดีดน้ำสีแดงสาดกระเซ็นใส่กลุ่มคนที่อยู่บนแพจนเปียกโชกกันไปตามกันโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เจ้าตัวประหลาดมีลำตัวสีดำมันเลื่อมเหมือนงูตรงหางมีหนามแหลมขนาดใหญ่หลายอันดูแข็งแรง แต่ส่วนหัวของมันคล้ายมังกรดูน่าเกรงขาม

มันคือลูกครึ่งงูเหลือมกับมังกรหรือ? เย่วซินคิดและดูเหมือนว่ายาสลบของตนจะไม่ได้ส่งผลอันกับมันเลย

“ยาสลบใช้ไม่ได้ผล!” เย่วซินเอ่ยบอกทุกคน

“ช่วยกันประคองแพเอาไว้อย่าให้ล่มเด็ดขาด” เย่วเทียนเอ่ยบอกคนคุ้มกันที่ช่วยกันค้ำยันแพ

จ้าวไท่เหว่ยไม่รอช้ารีบทะยานตัวด้วยกำลังภายในลอยตัวอยู่ในอากาศแล้วใช้กระบี่ฟาดฟันเข้าใส่เจ้าตัวประหลาดที่เอาแต่กวัดแกว่งหางดีดน้ำตีเคลื่อนใส่พวกตนอย่างบ้าคลั่ง

กระบี่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังปราณอันกล้าแกร่งฟาดเข้าใส่ยังลำตัวของเจ้าตัวประหลาดจนเกิดบาดแผลแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่รู้สึกเจ็บสักเท่าใดนัก

เจ้าตัวประหลาดรีบตอบโต้กลับมันตวัดหางขึ้นสูงฟาดเข้าใส่ร่างของจ้าวไท่เหว่ยอย่างว่องไว จ้าวไท่เหว่ยรีบเอียงตัวหลบได้อย่างเฉียดฉิว แต่มันก็ไม่รอให้เขาได้ตั้งตัวอยู่นานมันสลัดหนามแหลมอันหนึ่งออกพุ่งใส่ตัวของเขาทันทีพร้อมตวัดหางของมันกลับมาฟาดใส่อีกครั้งอย่างรวดเร็ว

จ้าวไท่เหว่ยหลบทั้งหางที่กำลังฟาดลงมาและหนามแหลมที่กำลังพุ่งเข้าใส่จึงทำให้พลาดท่าเล็กน้อยหนามแหลมเฉี่ยวโดนที่ต้นแขนเป็นทางยาวเลือดสีแดงสดไหลออกมา

“เจ้าอยู่ดูแลพวกนาง” เย่วเทียนเอ่ยบอกสหายผู้สูงศักดิ์ จากนั้นก็รีบทะยานตัวขึ้นไปช่วยบุรุษอีกคนจัดการกับเจ้าตัวประหลาดที่ตอนนี้ดูเหมือนจะตึงมืออยู่ไม่น้อย

บุรุษสองคนช่วยกันต่อสู้กับเจ้าตัวประหลาดได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว คนหนึ่งจู่โจมทางด้านซ้ายอีกคนเร่งจู่โจมทางด้านขวาไม่ให้มันได้ตั้งตัวทัน แต่เจ้าตัวประหลาดก็ดูเหมือนจะมีฤทธิ์มากจนเหลือล้นโดนจู่โจมหนักขนาดนี้มันยังไม่ยอมสิโรราบโดยง่าย

เย่วซินที่เห็นว่าเจ้าเจ้างูลูกครึ่งมันเก่งกาจเหลือร้ายและยังคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่ไม่ควรทำลายให้สูญสิ้น เป็นพวกตนเองที่มาบุกรุกพื้นที่ของมันมันย่อมต้องปกป้องเป็นเรื่องธรรมดา ครั้งแรกที่นางซัดเข็มยาสลบไปก็เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการเข่นฆ่าทำร้ายให้ฝ่ายใดต้องฝ่ายหนึ่งต้องตกตายหรือบาดเจ็บ

เย่วซินหยิบขลุ่ยหยกออกมาจากแหวนจัดเก็บ นางไม่รู้ว่าขลุ่ยสยยบมารจะใช้ได้ผลหรือไม่แต่ก็จะของลองดู เย่วซินจรดขลุ่ยหยกกับริมฝีปากจากนั้นก็เริ่มพรูลมออกจากปากอย่างแผ่วเบานิ้วมือเรียวเริ่มขยับเป็นจังหวะอย่างพลิ้วไหว

เสียงเพลงแว่วหวานลึกซึ้งดังไพเราะเสนาะหูจนทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่ต่างเคลิบเคลิ้ม สองบุรุษที่กำลังต่อสู้กับเจ้าตัวประหลาดต่างชะงักมือเมื่อเห็นว่ามันเริ่มไม่ขยับตัวแล้วเช่นกัน

เย่วซินเป่าขลุ่ยท่วงทำนองเดิมพร้อมส่งความนึกคิดของตนลงในบทเพลงนั้นนางนึกว่าให้สัตว์รูปร่างประหลาดตรงหน้ากำลังง่วงงุนอย่างหนักจนคอพับคออ่อน นางตั้งจิตอยู่อย่างนั้นไปเรื่อยเมื่อมองดูผลงานตรงหน้าก็พลันยกยิ้มอย่างชอบใจแต่ก็ยังพรูลมหายใจต่อไปเรื่อย ๆ

จ้าวไท่เหว่ยและเย่วเทียนทะยานตัวลงมาอยู่บนแพไม้ไผ่เช่นเดิมเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวประหลาดสงบนิ่งลงเมื่อได้ยินเสียงขลุ่ยบรรเลง แต่คนตัวแสบนึกคิดสิ่งใดกันมันถึงได้ทำท่าทางประหลาดเช่นนั้นแต่ก็คล้ายจะน่าเอ็นดูอยู่นิดหน่อย

เจ้าตัวประหลาดดวงตาสีแดงน่ากลัวคล้ายจะปิดไม่ปิดแหล่หัวของมันก็เอนไปทางซ้ายทีทางขวาทีเหมือนคนเมาท่าทางทรมานยิ่งเห็นแล้วก็นึกสงสาร เย่วซินจึงรีบปิดผลงานครั้งนี้โดยการนึกว่าให้มันปิดเปลือกตาลงแล้วหลับอย่างสงบใต้ผืนน้ำนั้น เพียงไม่นานเจ้าตัวประหลาดก็ทิ้งร่างลงทันทีจนผืนน้ำกระเพื่อมอย่างรุนแรงแพไม้ไผ่โดนคลื่นน้ำลูกใหญ่ซัดจนมันเอียงเทคนด้านบนลงสู่ผิวน้ำทันที

“อร๊าย!...” เสียงของเย่วซินร้องออกมาด้วยความตกใจที่ตนเองตกน้ำลงไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว มือข้างหนึ่งก็กำขลุ่ยหยกเอาไว้แน่น

เดินกันมาได้อีกราว ๆ ครึ่งชั่วยามก็พบกับสถานที่ที่จะค้างแรมกันในคืนนี้ ตรงบริเวณนี้เป็นเนินดินเตี้ย ๆ เหมาะสำหรับพักแรมใกล้ ๆ มีแอ่งน้ำสะอาดอยู่พอที่สำรับจะใช้ประโยชน์อยู่ เมื่อได้ที่พักคนคุ้มกันก็ทำหน้าที่กางกระโจมทันที

กระโจมหลังใหญ่หลังเดิมถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเสร็จเรียบร้อยต่างคนต่างแยกย้ายกันทำหน้าที จิวอิงวันนี้อาสาหุงข้าวในกระบอกน้ำไผ่เช่นเดิมเพราะวันนี้ทุกคนยังไม่ได้กินอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันกันเลยและทุกคนก็เหนื่อยมากสมควรที่จะได้กินอาหารเลิศรสกันบ้าง

เย่วซินประคองคนเจ็บให้ลุกขึ้นจากรากไม้ที่นั่งชั่วคราวเพื่อเดินเข้าไปพักยังกระโจมที่เพิ่งสร้างเสร็จ ยามนี้ประมุขจ้าวดูมีใบหน้าซีดเซียวไม่น้อยแต่ก็ยังแสร้งทำตัวให้ปกติ จริง ๆ นางเห็นอาการของเขาไม่สู้ดีตั้งแต่เริ่มเดินทางเข้าป่ามาแล้ว แต่ในเมื่อเขาแสร้งทำเป็นว่าสบายดีนางก็ย่อมต้องตามใจเขาเสียหน่อย

“พี่ไท่เหว่ยนอนพักเสียหน่อยถ้าอาหารเสร็จแล้วข้าจะมาเรียก” เย่วซินเอ่ยบอก ยามนี้คนเจ็บดูสิ้นฤทธิ์ไปมาก ตัวเขาเริ่มมีไข้ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ซีดเซียวไร้สีเลือดดูช่างน่าสงสารจับใจ

“ขอบใจเจ้ามาก” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยตอบเสียงแผ่ว ตอนนี้เขาเองก็เริ่มที่จะไร้เรี่ยวแรงเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวสลับไปมาอาจเป็นเพราะพิษของเจ้างูประหลาดที่มันก็สร้างความเจ็บปวดภายในร่างกายในยามนี้

เย่วซินส่งยิ้มหวานเมื่อเห็นคนป่วยนอนหลับตาเรียบร้อยก็เดินออกมายังด้านนอก นำน้ำที่ต้มเอาไว้เทใส่อ่างเพื่อจะน้ำมาเช็ดตัวให้คนป่วยแต่คงต้องรอให้มันเย็นลงสักหน่อย น้ำในป่าแห่งนี้ที่ใช้หุงอาหารหรือดื่มกินต้องนำมาต้มเสียก่อนจากนั้นจึงค่อยนำไปใช้

“ประมุขจ้าวเป็นอย่างไรบ้าง” หยางหลงเอ่ยถามหญิงสาว

“คืนนี้คงหนักหน่อยเจ้าค่ะ พิษของเจ้างูประหลาดนั่นค่อนข้างร้ายแรงยังดีที่ร่างกายของเขาต้านพิษได้ไม่เช่นนั้นคงหนักกว่านี้มาก” เย่วซินเอ่ยตอบว่าที่พี่เขยผู้สูงศักดิ์

“ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้ประมุขจ้าวต้องเจ็บตัวเพราะเสี่ยงสู้กับเจ้างูประหลาดเพื่อปกป้องพวกเรา” หยางหลงเอ่ยบอก ตลอดเส้นทางในการเดินเข้าป่าหมอกมายาถ้าเกิดเรื่องที่เสี่ยงอันตรายประมุขหนุ่มผู้นี้มักจะออกหน้าเผชิญก่อนอยู่ร่ำไปนับว่าเป็นบุรุษที่กล้าหาญสมคำร่ำลือยิ่ง

“เจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรมากเขาแค่มีไข้อีกเดี๋ยวข้าจะเช็ดตัวให้เขาสักหน่อยพี่หยางหลงไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะข้าจัดการได้” เย่วซินเอ่ยพร้อมยกยิ้มไปให้ ว่าที่พี่เขยของนางนับว่าใส่ใจผู้อื่นอยู่ไม่น้อย ส่วนพี่เย่วเทียนเห็นเขม่นกับประมุขจ้าวเช่นนั้น แต่เวลาขับขันขึ้นมาเขาก็ช่วยกันรับมือกับเรื่องราวร้าย ๆ ให้ผ่านพ้นได้อย่างดีเยี่ยมนับว่าเป็นบุรุษที่ดีเยี่ยมคนหนึ่ง พี่ชายหน้านิ่งคนนี้ไม่เคยทำให้นางผิดหวังเลยจริง ๆ ไม่เสียแรงที่นางแอบติ่งเขามาตั้งแต่เด็ก พี่ชายสุดที่รักของนาง...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน