คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 117

จ้าวไท่เหว่ยลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ปวดร้าวไปทั่วร่างกาย เมื่อพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบากเพราะเม็ดทรายที่เข้าตาจนระคายเคืองไปหมดทั้งสองข้าง เมื่อลืมตาขึ้นมาได้ก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นสตรีตัวน้อยที่แต่งกายด้วยอาภรณ์ของบุรุษนอนราบกับพื้นอยู่ไม่ห่างกันจึงรีบเดินเข้าไป

“ซินเอ๋อร์...ซินเอ๋อร์ตื่น” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยพร้อมกับเขย่าตัวร่างเล็กเบา ๆ เมื่อมองไปอีกด้านก็พบกับร่างของบุรุษอีกคนหนึ่งนอนอยู่เช่นกัน

เย่วซินเมื่อรู้สึกว่าร่างกายสั่นไหวก็พลันให้ได้สติจึงค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อเห็นบุรุษตรงหน้าก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ายังไม่ตายหรอกหรือ?”

“เจ้ายังไม่ตาย ลุกไหวหรือไม่” ถึงจะเอ่ยถามเช่นนั้นแต่จ้าวไท่เหว่ยก็ช่วยจับประคองร่างเล็กให้ลุกขึ้นนั่งได้อย่างมั่นคงแล้วเอ่ยต่อ “ข้าจะไปดูพี่ชายของเจ้า เจ้านั่งรออยู่ตรงนี้ก่อน” เอ่ยจบจ้าวไท่เหว่ยก็ผละร่างออกไปยังบุรุษที่นอนนิ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก

“เย่วเทียน...เย่วเทียน” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยเรียกพลางเขย่าตัวแรง ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมา

เย่วเทียนตื่นลืมตาขึ้นพลางสะบัดศีรษะไปมาเบา ๆ เพื่อขับใล่ความมึนงง จากนั้นจึงเอ่ยถาม “คนอื่น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง”

“ข้าไม่เห็นผู้ใดนอกจากพวกเราสามคน” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยตอบ พลางหันไปทางร่างเล็กที่นั่งอยู่ไม่ไกล

เย่วเทียนลุกขึ้นแล้วเดินไปหาน้องสาวที่นั่งอยู่พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย “ซินเอ๋อร์เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่”

“ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ แล้วพี่เย่วเทียนบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่เจ้าคะ” เย่วซินเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเมื่อครู่พายุบ้านั่นมันรุนแรงมากจนร่างของนางแทบจะแยกออกจากกัน

“พี่ไม่เป็นอะไร” เย่วเทียนเอ่ยตอบพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นว่าที่แห่งนี้ต่างจากก่อนหน้าที่จะเกิดพายุทราย สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ทะเลทรายแต่เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์แบบที่เคยเป็น

“เราหลุดออกมาจากป่าทะเลทรายแล้ว แต่ไม่รู้ว่าพวกที่เหลือจะเป็นอย่างไรบ้าง” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอก

“เราลองออกตามหาดูเผื่อว่าพวกเขาจะอยู่แถวนี้” เย่วซินเอ่ยบอก

“เจ้าเดินไหวหรือไม่?” เย่วเทียนเอ่ยถาม

เย่วซินเมื่อลองขยับตัวก็พบว่าเรี่ยวแรงแทบจะไม่มีเหลือแล้วร่างกายเจ็บปวดระบมไปหมดจึงเอ่ยตอบ “ข้าเดินไม่ไหวแล้ว”

“เช่นนั้นขี่หลังข้า” สองเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียงโดยไม่ได้นัดหมายทั้งจ้าวไท่เหว่ยและเย่วเทียนทั้งสองต่างหันมามองหน้ากันอย่างไม่ยอมแพ้

เย่วซินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พลันปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันทีอีกคนหนึ่งก็พี่ชายจอมขี้หวง อีกคนหนึ่งก็บุรุษจอมยียวนแล้วอย่างนี้จะไม่ให้นางปวดหัวได้อย่างไรกัน

“ข้าขอกินยาและพักสักครู่แล้วค่อยเดินต่อได้หรือไม่ ข้าไม่อยากเอาเปรียบขี่หลังพวกท่านตอนนี้ เพราะพวกท่านต่างก็โดนพายุเล่นงานมาเมื่อครู่คงเจ็บปวดร่างกายเช่นกัน” เย่วซินหาทางออกจากเหตุการณ์ตรงหน้าและที่นางเอ่ยมานั้นมันก็คือเรื่องจริงร่างกายของพวกเขาก็คงย่ำแย่ไม่แพ้กัน

“เช่นนั้นก็ได้” เย่วเทียนเอ่ยบอก จากนั้นทั้งสามก็นั่งพักกันที่ใต้ต้นใหญ่เพื่อพักฟื้นร่างกายให้มีเรี่ยวแรงเดินทางกันต่อ

ทางด้านหยางหลงตอนนี้กำลังนั่งอยู่กับจิวอิงตอนที่เขาตื่นขึ้นมาทุกอย่างก็ดูมืดสลัวคล้ายยามค่ำคืน แต่เมื่อลองสังเกตโดยรอบพบว่าเขาและจิวอิงน่าจะติดอยู่ในถ้ำที่ใดสักแห่งและคนอื่นๆ ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ตอนนี้เขาทำได้เพียงก่อกองไฟเล็ก ๆ ขึ้นมาจากเศษใบไม้และกิ่งไม้ที่หาได้จากข้างในนี้เพื่อให้แสงสว่างชั่วคราว

“พี่หยางหลงข้ายังไม่เห็นว่ามีแสงรอดมาจากที่ใดเลยเรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ” จิงอิงเอ่ยถามด้วยความรู้สึกที่หวาดกลัวเล็กน้อยและอดเป็นห่วงคนอื่น ๆ ไม่ได้ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกเขาจะเป็นอย่างไร

“น่าจะเป็นเพราะป่าแห่งนี้จงใจให้พวกเรามาที่นี่” หยางหลงเอ่ยเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะหาคำตอบใดมากล่าวได้ในตอนนี้

“เช่นนั้นคนอื่น ๆ ก็คงอยู่ที่ใหนสักแห่งที่ป่าอยากให้พวกเขาไปเช่นนั้นหรือ?” จิวอิงเอ่ยถาม

“คงเป็นเช่นนั้น เจ้าอย่าได้กังวลไปนักเลยข้าเชื่อว่าทุกคนจะต้องปลอดภัยตอนนี้เจ้าพักผ่อนเสียหน่อยเถิดแล้วเราค่อยออกตามหาพวกเขากัน” หยางหลงเอ่ยพร้อมกับโอบบ่าเล็กของคนรักมาแนบอกอย่างรักใคร่เพื่อให้นางได้อิงแอบด้วยท่วงท่าที่สบาย พลางนึกในใจว่าตนโชคดีนักที่ได้มาอยู่กับนางเช่นนี้เพราะถ้าเกิดนางพลัดหลงไปเพียงผู้เดียวเขาคงร้อนลุ่มใจอย่างมากเป็นแน่อย่างไรเสียป่าแห่งนี้ก็ไม่ได้โหดร้ายจนเกินไปนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน