คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 119

“มันพูดอะไรหรือ?เหตุใดข้าจึงไม่ได้ยิน” เย่วซินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้เมื่อเห็นกิริยาของทั้งสองบุรุษ

“เจ้าคงไม่ได้ทำพันธสัญญากับมันจึงไม่ได้ยินที่มันพูด” เย่วเทียนเอ่ยบอก แล้วเล่าให้นางฟังว่าเจ้าตัวประหลาดมันเอ่ยสิ่งใด เย่วซินพยักหน้ารับรู้

“เหตุใดจึงเรียกพวกข้าว่าท่านพ่อหรือ?ทำไมไม่เรียกพี่ชายเล่า” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยถาม

“ข้าอยากมีท่านพ่อแล้วก็ท่านแม่ด้วย สตรีผู้นี้คือท่านแม่ใช่หรือไม่” เสียงเล็กคล้ายห้าขวบเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจเมื่อมันทึกทักเอาว่าสตรีตรงหน้าคือมารดามันกระพือปีกไปมาด้วยความดีใจพลางก้าวไปหามารดาของมัน

เย่วซินตกใจก้าวถอยหลังเมื่อเจ้าตัวประหลาดเดินเข้ามาใกล้ ขนาดลำตัวของมันสูงใหญ่พอ ๆ กับช้างที่โตเต็มวัยแล้วจะไม่ให้กลัวได้อย่างไรกัน

“หยุดก่อน!...นางไม่ใช่มารดาของเจ้า เจ้าจะทำให้นางตกใจ” เย่วเทียนเอ่ยบอก เจ้าตัวประหลาดชะงักเท้าทันที เย่วซินเมื่อได้ยินพี่ชายหน้านิ่งเอ่ยเช่นนั้นก็เข้าใจได้ทันทีในปฏิกิริยาของเจ้าตัวประหลาด

“เหตุใดจะไม่ใช่กันในเมื่อท่านพ่อทั้งสองของข้ารักนางนางก็ต้องเป็นมารดาของข้าสิ” เสียงเล็กยังเอ่ยเถียง มันย่อมรับรู้ความคิดอ่านและความรู้สึกของผู้เป็นบิดาว่าเป็นเช่นไร

“เจ้าก็ถามนางเองสิว่าจะยอมเป็นมารดาของเจ้าหรือไม่ เจ้ามีวิธีพูดกับนางให้เข้าใจหรือไม่” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ย

“ข้าย่อมมีวิธีอยู่แล้ว” เอ่ยจบเจ้าตัวประหลาดก็ย่อขนาดตัวเองให้เหลือตัวเท่าลูกแมวน้อยจากนั้นมันก็กระโดดไปยังสตรีเพียงหนึ่งเดียวแล้วกัดเข้าที่นิ้วมือเพื่อดื่มเลือด เย่วซินยังไม่ทันที่จะตั้งตัวก็โดนกระทำจนเสร็จสิ้นแล้วมันช่างว่องไวเสียจริงเจ้าตัวประหลาด

“ท่านแม่...ท่านเป็นท่านแม่ของข้าได้หรือไม่” เสียงเล็กเอ่ยถามทันทีที่ดื่มกินเลือดเข้าไปเพียงหนึ่งหยด ตัวมันยังอยู่ในอ้อมแขนอันหอมกรุ่นของสตรีที่มันเรียกว่าท่านแม่ไม่ยอมห่าง

“ข้ายังไม่แก่พอถึงขนาดจะเป็นมารดาได้หรอกนะเจ้าตัวเล็ก เรียกข้าว่าพี่สาวสิ” เย่วซินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดู จะไม่ให้เอ็นดูได้อย่างไรในเมื่อมันหดขนาดลงเสียน่าเอ็นดูขนาดนี้แล้วยังเสียงเล็ก ๆ เจื้อยแจ้วนั่นอีก

“ไม่เอา ๆ ข้าจะเอามารดา...จะเอามารดา...ข้ามีท่านพ่อแล้วข้าอยากมีมารดาด้วย” เสียงเล็กเอ่ยอย่างไม่ยินยอมพลางซุกซบตัวอย่างออดอ้อนเพื่อให้มันดูน่าสงสารมารดาของมันจะได้ใจอ่อน

“เจ้ามันช่างเอาแต่ใจเสียจริง ท่านพ่อของเจ้าก็มีตั้งสองคนแล้วไม่ใช่หรือ?” เย่วซินเอ่ยบอกเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขน จริง ๆ นางก็อยากจะเป็นมารดาให้มันอยู่หรอกถ้ามันไม่มีบิดาเสียก่อนแถมยังมีตั้งสองคน แล้วอย่างนี้นางจะเป็นมารดาให้มันได้อย่างไรกันถ้าเป็นก็ไม่เท่ากับว่านางมีสามีแล้วหรือ?ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่คำเรียกขานก็เถอะแล้วยังมีตั้งสองคนอีกด้วย...

“เอาน่า...ซินเอ๋อร์เจ้าก็ยอมเป็นให้มันหน่อยเถิดมันยังเด็กนักคงอยากได้ความรักจากบิดาและมารดา” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยเกลี้ยกล่อมร่างเล็กเขาเองก็อยากให้นางมาเป็นมารดาของเจ้าตัวเล็กด้วยเช่นกัน

“ท่านพ่อพูดถูกต้องที่สุด” เสียงเล็กเอ่ยเห็นด้วยกับบิดา

เย่วเทียนยกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำที่เจ้าตัวเล็กเอ่ยแล้วเอ่ยบอกกับร่างเล็ก “ซินเอ๋อร์คำพูดของมันช่างเหมือนเจ้ายิ่งนัก”

“ข้าก็ว่ามันคุ้นหูอยู่เจ้าค่ะพี่เย่วเทียน” เย่วซินเอ่ยบอกพี่ชายหน้านิ่ง แล้วหันมาจ้องร่างเล็กในอ้อมแขนมันล้อเลียนคำพูดของนางเช่นนั้นคือคำว่าที่สุดมันเป็นคำที่นางเอ่ยเวลาออดอ้อนเอาใจคนอื่น

“ท่านแม่ท่านยินยอมแล้วใช่หรือไม่ ข้ารักท่านที่สุดเลยขอรับ” เสียงเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดีพลางยกเท้าหน้าป้อม ๆ ของมันกอดออเซาะร่างของมารดาหมาด ๆ อย่างเอาใจ เย่วซินทำสีหน้าประหลาดเมื่อได้ยินคำที่คุ้นหูที่เอ่ยว่า ข้ารักท่านที่สุด

ออ...ความรู้สึกมันเป็นเช่นนี้เองสินะเวลาที่นางออดอ้อนผู้อื่นน่ะ กรรมตามสนองเข้าแล้ว

บุรุษทั้งสองหลุดขำออกมาไม่เพียงสีหน้าของนางที่ทำให้ทั้งสองหลุดหัวเราะแต่เป็นคำพูดของเจ้าตัวเล็กที่เลียนแบบมารดาได้อย่างแนบเนียนอีกด้วย

“ข้ายังไม่เอ่ยตกลงเสียหน่อยเจ้าก็ทึกทักเอาเสียแล้ว” เย่วซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข่นเขี้ยวอยากจะเขกกระโหลกเจ้าตัวเล็กยิ่งนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน