อาเฟยพาเดินออกมาอีกไม่ไกลนักก็ถึงธารน้ำใสที่สามารถดื่มและอาบอาบได้ แต่การจะดื่มนั้นเย่วซินจะต้องให้ทุกคนต้มน้ำเสียก่อนค่อยดื่มกินกันได้
เย่วซินและจิวอิงเดินออกไปอาบน้ำชำระร่างกายอีกทางด้านหนึ่งของลำธาร ส่วนทางด้านของบุรุษก็แยกย้ายกันทำหน้าที่ของตน บ้างก็ออกไปหาผลไม้ ก่อไฟเพื่อทำอาหารและกางกระโจมที่พัก เพราะตอนนี้เวลาก็เริ่มบ่ายคล้อยแล้วทั้งหมดตกลงกันว่าวันนี้จะค้างคืนกันที่นี่อีกหนึ่งคืน พรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางกลับ
เมื่อสองสตรีอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จฝ่ายบุรุษก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์กันบ้าง เย่วซินและจิวอิงจัดการทำอาหารสำหรับทุกคน เพื่อเป็นมื้อสั่งลาในป่าหมอกมายาแห่งนี้ พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพระอาทิตย์ก็ตกดินพอดี
ทั้งหมดนั่งล้อมวงกินอาหารเหมือนเช่นเดิมโดยเหล่าคนคุ้มกันนั้นแยกไปตัวออกไปนั่งกินอีกด้าน เพราะพวกเขาไม่อาจตีตนเสมอเจ้านานนั่งกินอาหารด้วยกันได้
“ไฟของอาเฟยสามารถทำลายคนคลั่งได้เช่นนั้นหรือ?” หยางหลงเอ่ยถาม
“ใช่ นับว่าโชคดีนักที่ได้พบกับอาเฟย” เย่วเทียนเอ่ยพลางเอื้อมมือไปลูบหัวเล็ก ๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนของเย่วซิน
“ข้าก็โชคดีที่ได้พบกับท่านพ่อทั้งสองและท่านแม่ขอรับ” อาเฟยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดีเหลือหลายที่ได้พบกับบิดาและมารดาของพวกมัน
ทั้งหมดต่างยกยิ้มอย่างเอ็นดู คนอื่น ๆ ก็ได้ยินเสียงของอาเฟยเช่นกันเพราะว่าพลังปราณของอาเฟยเริ่มแข็งแกร่งขึ้นมากทำให้สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ถ้ามันต้องการ
“พวกเราจะได้จัดการกับพรรคอสรพิษให้ซิ้นเสียที พวกมันคิดการใหญ่หลังยึดอำนาจเป็นใหญ่ทั่วทั้งแผ่นดิน” จ้าวไทเหว่ยเอ่ยบอก
“ข้าก็คิดเช่นนั้นข้าจะให้ความร่วมมือกับเจ้าเพราะพวกมันคงอยากยึดอำนาจของแคว้นหนิงต่อไปแน่” หยางหลงเอ่ยบอก
“ท่านต้องช่วยได้มากแน่นอนเพราะพรรคอสรพิษก็มีแคว้นหานร่วมด้วยไม่แน่อาจจะเกิดศึกระหว่างแคว้นก็เป็นได้” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยตอบ
“มันต้องเกิดศึกระหว่างแคว้นแน่ กลับไปคราวนี้พวกเราคงต้องเตรียมความพร้อมทางการทหารเอาไว้” เย่วเทียนเอ่ย
“ข้าฟังดูแล้วช่างดูน่ากลัวยิ่งนักข้าไม่ชอบเรื่องการทำสงครามเลย” เย่วซินเอ่ยบอก นางมาจากโลกอนาคตที่ไม่มีเรื่องการทำสงครามมานาน สมัยก่อนเคยดูละครที่อิงประวัติศาสน์เกี่ยวกับสงครามโลกมันก็ทำให้หดหู่ยิ่งนัก ชาวบ้านต่างเดือดร้อนกันทั่ว
“ไม่มีใครอยากให้เกิดสงครามขึ้นมาหรอกซินเอ๋อร์หากไม่จำเป็น” เย่วเทียนเอ่ยบอกร่างเล็กด้านข้าง
“จริงอย่างที่พี่เย่วเทียนเอ่ยไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก” จิวอิงเอ่ยเห็นดวยกับน้องสาว
“จริงสิ ข้าสงสารพี่อู่เสียงมากเลยเขาโดนลุงแท้ ๆ ทำร้ายเราจะช่วยเขาได้หรือไม่” เย่วซินเอ่ยขึ้นมาเมื่อคิดถึงบุรุษที่แทงกระบี่ใส่ตน นางยังจำแววตานั้นได้มันช่างหดหู่และน่าสงสารจับใจ
“เหตุใดเจ้าต้องอยากช่วยบุรุษผู้นั้นด้วยมันทำร้ายเจ้าจนเกือบตาย” เย่วเทียนเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เมื่อน้องสาวเอ่ยถึงบุรุษอื่น
“นั่นสิเหตุใดเจ้าต้องช่วยข้าไม่ชังหน้าบุรุษผู้นั้นยิ่งนัก” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยเห็นด้วยอีกเสียง
“เขาไม่ได้ตั้งใจเขาโดนยาสั่งเจ้าค่ะ ตอนที่เขาแทงกระบี่ใส่ข้าดวงตาของเขากลับมีน้ำตาเอ่อใหลน่าสงสารเขา” เย่วซินเอ่ยอธิบายให้บุรุษทั้งสองคนได้ฟัง
“ตอนนี้นางก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ช่วยเหลือคนนับเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ?” หยางหลงเอ่ย
“ข้าไม่รับปาก” เย่วเทียนเอ่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน
รอนะคะ อัพต่อหน่อยค่า...