คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 126

สรุปบท บทที่ 126 ไม่มีความสุขเลยสักนิด: คู่แฝดคู่ป่วน

อ่านสรุป บทที่ 126 ไม่มีความสุขเลยสักนิด จาก คู่แฝดคู่ป่วน โดย ไป๋หลัน

บทที่ บทที่ 126 ไม่มีความสุขเลยสักนิด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ คู่แฝดคู่ป่วน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ไป๋หลัน อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

จ้าวไท่เหว่ยกลับเข้ามายังเรือนนอนของตนเองพร้อมกับสั่งให้ตงชินหาสุรามาให้ตนดื่ม จ้าวไท่เหว่ยดื่มสุราเข้าไปยังกับน้ำเปล่าทำให้ตงชินเริ่มใจไม่ดี ท่านประมุขไม่เคยดื่มสุราจนเมามายเช่นนี้มาก่อน

“ท่านประมุขพอได้แล้วขอรับดื่มมาตั้งหลายไหแล้ว” ตงชินเอ่ยบอกผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง

“ข้าขอดื่มให้มันลืมความเจ็บปวดบ้างไม่ได้หรือ?” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงยืดยานเพราะลิ้นเริ่มพันกัน เขาอยากจะดื่มเสียตั้งแต่วันที่อยู่ในป่าหมอกมายา แต่เนื่องจากต้องเดินทางไกลจึงไม่อยากให้เป็นภาระผู้อื่น เขาจึงต้องสะกดกลั้นความเจ็บปวดเพื่อมาระบายภายในพรรคเช่นนี้

“ท่านเมาแล้วมันหายหรือขอรับ” ตงชินเอ่ยถาม

“อืม...มันก็ดีขึ้นมากนะ สุรามันทำให้ข้ารู้สึกดีจริง ๆ” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ย

ตงชินส่ายหน้าแต่ไม่คิดจะห้ามอีกต่อไปเพราะหากมันทำให้ผู้เป็นนายรู้สึกดีตนก็ย่อมตามใจ แต่ท่านประมุขไม่ต้องดื่มจนเมามายตลอดเวลาเลยหรือ เพราะหากหายจากอาการมึนเมาท่านประมุขก็อาจจะเจ็บปวดขึ้นมาอีก

“ตงชินเหตุใดพี่ชายข้าถึงได้ร่ำสุราจนเมามายเช่นนี้กันเล่า” ไท่เฟยเดินมาที่เรือนนอนพี่ชายก้เห็นว่าเขาคอพับคออ่อน ดวงตาฉ่ำปรือแดงกล่ำ

“เรื่องหัวใจนะขอรับหนูไม่มีใครช่วยท่านประมุขได้หรอกขอรับ” ตงชินเอ่ยบอก

“พี่ชายข้าผิดหวังเช่นนั้นหรือ?” ไท่เฟยเอ่ยถามเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ชายผู้หล่อเหลาและเก่งกาจจะมีสตรีใดกล้าปฏิเสธกันอีก

“โธ่...คุณหนูอาการแบบนี้จะเป็นเช่นไรไปได้” ตงชินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณหนูไท่เหว่ยเองก็เป็นสตรีตัวน้อยยังไม่เคยมีความรักจึงยังไม่เข้าใจเท่าใดนัก

“สตรีผู้นั้นเป็นใครข้าจะไปจัดการกับนางเองกล้ามาทำให้พี่ชายของข้าเจ็บปวดหัวใจเช่นนี้” ไท่เหว่ยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“อย่าเลยขอรับ ข้าน้อยว่าสตรีผู้นั้นก็เจ็บปวดไม่น้อยเช่นกัน” ตงชินเอ่ยบอก พลางนึกถึงใบหน้างามของคุณหนูเย่วซินที่พักหลังมานี้ดูไม่สดใสเท่าใดนัก คล้ายคนมีบางอย่างอยู่ในใจตลอดเวลา ตนเชื่อว่าคุณหนูเย่วซินเองก็มีใจให้ท่านประมุขไม่น้อยเช่นกัน เพียงแต่ความผูกพันใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณชายเย่วเทียนมันมีมากเกินไป นางเองก็คงไม่อยากให้พี่ชายของนางผิดหวังเช่นกัน

“ข้าไม่เข้าใจ” ไท่เฟยเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง

“คืออย่างนี้ขอรับ สตรีผู้นั้นกับบุรุษอีกคนผูกพันกันมานานตั้งแต่เด็ก ส่วนท่านประมุขก็ตามเกี้ยวสตรีผู้นั้นมาระยะหนึ่งแล้วจนทำให้นางหวั่นไหวไม่น้อย คุณหนูคิดว่านางจะเลือกใครหากเป็นคุณหนูเล่าคุณหนูจะเลือกบุรุษคนไหน” ตงชินเอ่ยบอกคุณหนูของตน

“โอ๊ย...เรื่องราวช่างซับซ้อนยิ่งนักข้าไม้รู้เช่นกัน แค่ฟังท่านข้าก็ปวดหัวแล้ว” ไท่เฟยเอ่ยเมื่อคิดตามที่ตงชินเอ่ยมา หากเป็นนางนางเองก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าจะเลือกใคร แล้วอีกอย่างนางยังไม่เคยมีความรักจึงไม่เข้าใจว่าความรู้สึกของชายหญิงมันเป็นเช่นไร

“จริงขอรับ” ตงชินเอ่ยพร้อมยกยิ้ม

“ท่านมาช่วยข้าพาพี่ใหญ่ไปนอนก่อนดีกว่าสลบไสลไปแล้วประเดี๋ยวตื่นขึ้นมาจะปวดคอเอา” ไท่เฟยเอ่ยพร้อมกับช่วยกันพยุงร่างใหญ่โตของพี่ชาย แล้วพาเดินไปยังเตียงนอนจากนั้นก็หาผ้าชุบน้ำมาซับตามใบหน้าเพื่อให้เขารู้สึกสบายตัวมากขึ้น

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังกินอาหารเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็ออกมานั่งพูดคุยกันถึงเรื่องที่จะออกเดินทางกลับแคว้นเพราะทุกอย่างก็ลงตัวหมดแล้วไม่อยากอยู่รบกวนประมุขจ้าวให้เนิ่นนานกว่านี้ด้วยความเกรงใจ

“พ่อบอกตามตรงว่าหากจากที่นี่ไปคงใจหายน่าดู” หานเสวี่ยถังเอ่ยขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องที่จะต้องเดินทางออกจากพรรคแห่งนี้

“ข้าเข้าใจท่านพ่อเจ้าค่ะว่ารู้สึกเช่นไร ท่านประมุขจ้าวช่างมีน้ำใจยิ่งนัก” จิวอิงเอ่ยตอบบิดา

“แต่ตั้งแต่กลับมาจากป่าหมอกมายาข้าเห็นสีหน้าของประมุขจ้าวไม่สู้ดีเท่าใดนัก แล้วยังเช้านี้อีกข้ายังไม่เห็นเขาเลย หรือว่าจะป่วยไข้กันเจ้าได้ไปดูอาการของเขาบ้างหรือเปล่าซินเอ๋อร์ หากเขาป่วยไข้ขึ้นมาก็เป็นเพราะช่วยเหลือเจ้านั่นแหละ” เย่วฉีเอ่ยบอกน้องสาวตัวแสบ เพราะห่วงใยผู้มีพระคุณของน้องสาว ท่านประมุขจ้าวช่วยเหลือนางเอาไว้หลายเรื่องแล้วอย่างน้อยก็ควรห่วงใยและใส่ใจเขาบ้างไม่ใช่ปล่อยปะละเลยกัน

เย่วซินใบหน้าเจื่อนลงเมื่อเอ่ยถึงประมุขจ้าวเช่นเดียวกับเย่วเทียนก็มีสีหน้าที่เคร่งขรึมลงไปหลายส่วนด้วยเช่นกัน เย่วซินอยากจะเข้าไปพูดคุยกับประมุขจ้าวแต่ก็กลัวว่าจะเป็นการไปทำให้เขาเจ็บซ้ำยิ่งกว่าเดิม

“พี่เย่วเทียนคิดว่าข้าจะมีความสุขเช่นนั้นหรือ?” เย่วซินเอ่ยถามกลับ

“พี่...”

“เอาเป็นว่าพี่เย่วเทียนยังคงเป็นพี่ชายที่แสนดีของข้าเช่นเดิม ข้าหวังว่าท่านจะเจอสตรีที่ดีและเหมาะสมกับท่านมากกว่าข้าสตรีที่มีจิตใจโลเลข้าขอตัวก่อน” เย่วซินเอ่ยจบก็เดินจากมาทันที ไม่รอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยอะไรออกมาอีก

เย่วเทียนพยายามจะเอ่ยห้ามร่างเล็กแต่ดูเหมือนว่ายามนี้นางคงไม่ยอมฟัง เขาไม่น่าเอ่ยกับนางเช่นนั้นเลย แต่มาคิดตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว นางคงโกรธเขามากและดูเหมือนทุกอย่างมันจะยิ่งแย่ลงไปอีก

อีกทางด้านหนึ่งของสวนมีร่างเล็กของจ้าวไท่เฟยยืนฟังบทสนทนาของทั้งสองคนอย่างไม่ได้ตั้งใจ นางมาเดินเล่นอยู่ก่อนตั้งนานแล้วจะโทษว่ามาแอบฟังไม่ได้ เมื่อได้ยินทั้งสองพูดคุยกันนางก็รู้ได้ทันทีถึงสาเหตุที่พี่ชายของนางเมามายเช่นนี้

จ้าวไท่เฟยคราแรกนางก็แอบมีใจให้คนที่ช่วยชีวิตตนเอาไว้อยู่ไม่น้อย และคิดว่าจะหาโอกาสทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้น แต่เมื่อเห็นท่าทีการแสดงออกของเขาที่มีกับตนแล้วนั้น จึงคิดว่าไม่ขอสร้างโอกาสจะดีกว่าเพราะกลัวว่าหากไม่เป็นอย่างที่หวังแล้วจะไม่สามารถสู้หน้ากันได้อีก และนางก็คิดถูกจริง ๆ หัวใจของเขาไม่มีที่ว่างให้สตรีอื่นอีกแล้ว

ดูเหมือนว่าคนที่ช่วยชีวิตและพี่ชายของนางตอนนี้กำลังเป็นทุกข์อย่างหนัก นางจะต้องหาหนทางช่วยเหลือพวกเขาให้ได้ มันต้องมีสักวิธีที่จะทำให้พวกเขามีความสุข จ้าวไท่เฟยคิดหมายมั่นอย่างตั้งใจจากนั้นก็เดินจากไปทันที...

“ซินเอ๋อร์เจ้าเป็นอันใดใยต้องร้องไห้หนักขนาดนี้” เย่วฉีเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ เขาตั้งใจจะมาหาน้องสาวตัวแสบเพื่อพูดคุยเรื่องสมุนไพร แต่เมื่อมาถึงก็เห็นนางนอนร้องไห้ดวงตากลมโตที่เคยสวยงามบัดนี้บวมช้ำไปหมดก็พลันให้ตกใจ

“อาฉี...ข้าเป็นสตรีไม่ดีข้าชอบบุรุษพร้อมกันถึงสองคนฮึก ๆ ๆ” เย่วซินเอ่ยบอกพร้อมกับเสียงสะอื้นดูแล้วน่าสงสารจับใจ

 “ไหนเจ้าลองเล่าให้พี่ฟังสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เย่วฉีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง ดูอ่อนโยนอย่างมากผิดกับทุกครั้งยามที่ทั้งสองสนทนากัน ตั้งแต่เล็กจนโตน้องสาวผู้นี้ของเขาแทบไม่เคยร้องไห้เลยด้วยซ้ำ นี่เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่เขาเห็นและนั่นก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปด้วยเช่นกัน...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน