ทางด้านจ้าวไท่เหว่ยและจ้าวไท่เฟยได้เดินทางกลับหุบเขาร้อยเล่ห์ หุบเขาร้อยเล่ห์เป็นหุบเขาที่มีความสวยงามไปด้วยดอกไม้และต้นไม้หลากหลายชนิดทั้งที่หาง่ายจนไปถึงหายากและอาจจะมีเพียงที่หุบเขาร้อยเล่ห์แห่งเดียวที่มีมันก็ได้ ท่านแม่และท่านยายชอบการปลูกต้นไม้ ท่านบอกว่ามันทำให้จิตใจสงบสุขและทำให้บรรยากาศร่มรื่นดีอีกด้วย
บิดาและมารดาของจ้าวไท่เหว่ยเคยอาศัยอยู่ที่พรรคอินทรีย์หลังจากแต่งงานกันและเมื่อมีบุตรคนที่สองได้เพียงไม่กี่ปีก็ย้ายกันไปอยู่ที่หุบเขาร้อยเล่ห์ตั้งแต่นั้นมา ตอนนั้นพรรคอินทรีย์ต่างก็เป็นที่รู้จักของคนในยุทธภพไม่น้อยเช่นกัน แต่ตั้งแต่จ้าวไท่เหว่ยขึ้นเป็นประมุขพรรคอินทรีย์เขาก็สร้างชื่อเสียงและสร้างความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมจนกลายเป็นพรรคที่แข็งแกร่งที่สุดในยุทธภพ จนไม่มีใครกล้ามารุกรานหรือเอาเปรียบได้
“อาเหว่ยเจ้าหายหน้าหายตาไปเลย เฟยเอ๋อร์ก็อีกคนอาสาไปตามพี่ชายของเจ้าแต่กลับหายเงียบไปเช่นเดียวกัน แม่ร้อนใจยิ่งนักกลัวว่าพวกเจ้าจะเกิดอันตรายขึ้น ช่วงนี้พรรคอสรพิษยิ่งกำเริบเสิบสานไล่กำจัดพรรคเล็ก ๆ เป็นว่าเล่น” ซ่งเหลียนผู้เป็นมารดาเอ่ยบอกบุตรทั้งสองเมื่อได้พบหน้าด้วยความห่วงใย
“ท่านแม่อย่าได้กังวลช่วงที่ผ่านมานี้ข้ามัวแต่ยุ่งเรื่องงานหลายอย่าง และข้ากำลังทำสินค้าตัวใหม่ของทางพรรคอีกจึงยังไม่มีเวลาว่างมาเยี่ยมพวกท่านที่หุบเขา” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกมารดาและคนอื่นที่นั่งพูดคุยกันอยู่ที่โถงรับรอง
“สินค้าอะไรหรือพ่อไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อน” ไท่หย่งเอ่ยถามบุตรชายด้วยความอยากรู้เมื่อได้ยินว่ากำลังทำสินค้าตัวใหม่
“นั่นนะสิ ตาเองก็อยากรู้เช่นกัน” อู๋เฟิ่งผู้เป็นตาก็อยากรู้เช่นกัน
“เป็นเหล้าหมักทำจากองุ่นที่ไร่ของเราขอรับ” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอก
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านตา ท่านยายข้าเองก็ไปลองทำมาด้วยนะเจ้าคะ ไม่เพียงแต่ลองทำแต่ลองชิมมาแล้วรสชาติละมุนหวานหอมอร่อยมากเลยเจ้าค่ะ” ไท่เฟยเอ่ยบอกด้วยความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยในการทำงานครั้งนี้ และนางเองก็ยังติดใจรสชาติของเหล้าองุ่นอยู่เลย มาที่หุบเขาร้อยเล่ห์คราวนี้พี่ชายของนางหยิบติดมือมาด้วยหนึ่งขวดเพื่อให้ทุกคนได้ลองชิมรสชาติและนางก็จะไม่ยอมพลาดด้วยเช่นกัน
“อร่อยมากเลยหรือ?เจ้ายังเป็นเด็กไม่ควรดื่มของมึนเมาเข้าใจหรือไม่” ซ่งอวิ๋นเอ่ยปรามหลานสาวเมื่อทราบว่านางลิ้มลองของมึนเมา
“โธ่...ท่านยายข้าแค่ลองชิมเพียงเล็กน้อยว่ารสชาติมันจะอร่อยแค่ไหน สินค้าของพรรคอินทรีย์ย่อมต้องดีเลิศเป็นอันดับหนึ่งจริงหรือไม่เจ้าค่ะ” ไท่เฟยเอ่ยพร้อมออดอ้อนท่านยายของตนเองเพราะท่านค่อนข้างเคร่งครัดทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคนในครอบครัว
“ข้านำมาให้ทุกคนได้ลิ้มลองกัน แต่ขวดที่ข้านำมานั้นมันยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องดื่มมันต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะจึงจะได้รสชาติที่ละมุนยิ่งขึ้น” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยพร้อมกับหยิบขวดเหล้าหมักออกมาจากแหวนจัดเก็บ
“มันต้องใช้เวลาประมาณเท่าไรหรือ” ไท่หย่งเอ่ยถามบุตรชายพร้อมกับยกขวดรูปทรงประหลาดที่ตนเองก็ไม่เคยพบเห็นว่าจะมีผู้ใดใช้กันมาก่อน
“น้อยสุดก็ราว ๆ สองเดือนขอรับ” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยตอบ
“ขวดที่บรรจุมันช่างแปลกตายิ่งนักแต่ก็นับว่าสาวยงามมากเลยทีเดียว” อู๋เฟิ่งเองเมื่อเห็นรูปร่างของขวดที่บรรจุดหล้าหมักก็อดที่จะเอ่ยไม่ได้
“เป็นหลานที่ว่าจ้างคนให้ทำขึ้นมาขอรับท่านตา”
“เจ้านับว่าเก่งกาจอยู่ไม่น้อยตาภูมิใจในตัวของเจ้ายิ่งนัก” อู๋เฟิ่งเอ่ยพร้อมกับยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในหลานชายคนโปรดที่ตนเป็นผู้สั่งสอนมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย
“ใช่ความคิดของพี่ใหญ่เสียที่ไหนกันเล่าท่านตา...” ไท่เฟยเห็นผู้เป็นตาที่ชื่นชอบหลานชายมากกว่าหลานสาวทำหน้าภูมิใจเสียหนักหนาก็อดที่จะเอ่ยขัดเสียไม่ได้
“แล้วเป็นความคิดของผู้ใดกันหรือเฟยเอ๋อร์” ซ่งอวิ๋นผู้เป็นยายเอ่ยถามหลานสาวทันทีด้วยความอยากรู้
“เป็นสตรีที่สวยงามมากคนหนึ่งเจ้าค่ะท่านยาย” ไท่เฟยเอ่ยเพียงเท่านั้นพร้อมกับยกยิ้มไปทางพี่ชายด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ นางเอ่ยเพียงเท่านั้นแต่เชื่อเถิดว่าทุกคนย่อมต้องอยากรู้เรื่องราวต่อจากนี้อย่างแน่นอน นางเพียงเบิกทางให้พี่ชายได้เปิดตัวคนรักให้ครอบครัวรู้เพียงเท่านั้น ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของพี่ชายแล้วว่าจะเอ่ยถึงสตรีคนรักอย่างไรให้ครอบครัวพึงพอใจ
“สตรีที่งดงามหรือ? นางเป็นผู้ใดกัน” ซ่งอวิ๋นผู้เป็นยายเอ่ยถามทันทีเมื่อได้ยินว่ามีสตรีเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หลานชายผู้นี้เป็นบุรุษที่ล้ำค่าและดีเลิศของตระกูลหากเขาคิดจะมีสตรีคนรัก สตรีผู้นั้นก็ย่อมต้องดีพร้อมเช่นกันจึงจะเหมาะสมกันอย่างแท้จริง และที่นางเป็นห่วงหลานชายผู้นี้ก็เพราะว่าเขายังไม่เคยมีคนรักที่จริงใจ เขายังอ่อนด้อยเกินไปสำหรับเรื่องความรักนั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน
รอนะคะ อัพต่อหน่อยค่า...