คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 138

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากกินมื้อเช้ากันเสร็จเรียบร้อยก็ต่างแยกย้ายกันไป วันนี้ไท่เฟยขอตามเย่วฉีไปยังโรงหมอด้วยเพราะนางยังไม่เคยไปที่นั่นอีกอย่างนางก็อยากจะช่วยเขาทำงานอีกด้วย หากไปที่โรงเตี๊ยมคงต้องเจอท่านยายและนางคงจะทำให้แผนการของท่านยายล่มเป็นเป็นแน่จึงไม่คิดที่จะไปกับเย่วซิน ส่วนร้านอาภรณ์ของจิวอิงนางก็เคยไปมาแล้วเมื่อวานนี้ ถึงนางจะชอบอาภรณ์ที่สวยงามแต่ไม่ได้หมายความว่านางชอบเย็บปักเสียเมื่อไรและนางก็ไม่ชอบงานแบบนั้นด้วย ทางออกที่ดีที่สุดคือตามพี่เย่วฉีไป

ทางด้านเย่วซินและจิวอิงเดินทางมายังร้านของตนเองเหมือนเช่นทุกวัน ชาวบ้านละแวกนี้ยังไม่เคยเห็นโฉมหน้าที่เหมือนกันของคนทั้งคู่พร้อมกันสักคราและทั้งคู่ก็ยังคงดำเนินชีวิตเหมือนเดิม แม้ว่าชาวบ้านจะอยากพวกนางปรากฏกายอวดโฉมให้พวกเขาพร้อมกันก็ตามที และทุกคนก็ต้องผิดหวังที่ไม่อาจเห็นดั่งที่ตั้งใจ บางคนก็เข้าไปยังร้านอาภรณ์ของจิวอิงเพื่อยลโฉม แต่ก็ต้องผิดหวังอีกคราเพราะว่าจิวอิงส่วนมากจะไม่ได้ออกมาต้อนรับลูกค้าเอง จิวอิงจะอยู่ในห้องส่วนตัวนั่งออกแบบชุดและปักลายผ้าเสียมากกว่า

วันนี้เย่วซินจะทำเมนูอาหารอีกหนึ่งอย่างจึงให้แม่ครัวเตรียมวัตถุดิบตั้งแต่เมื่อวาน เมนูที่ว่านั่นก็คือผัดไท ส่วนเส้นก็ต้องทำเองเพราะที่นี่ไม่มีเส้นสำเร็จขั้นตอนจึงต้องยุ่งยากขึ้นมาอีก แต่นั่นมันก็ไม่ยากเกินมือของคนที่เคยเป็นถึงผู้ช่วยเชฟ แค่เส้นแป้งเป็นอะไรที่ง่ายดายนัก

“ท่านยายเป็นอย่างไรบ้าง” เย่วซินเอ่ยถามหลงจู๊ เพราะไม่อยากขึ้นไปด้านบนเพราะกลัวว่าจะรบกวนหญิงชรา และตนเองก็ไม่รู้ว่าจะขึ้นไปทำอะไรเพราะวันนี้ตั้งใจว่าจะอยู่ในครัวเพื่อทำเมนูใหม่

“ข้าน้อยให้เสี่ยวเอ้อร์ยกอาหารและน้ำอุ่นไปให้ นางก็พยายามจะจ่ายเงินค่าอาหารเสียให้หได้ แต่ข้าน้อยไม่ได้รับของนางมาเพราะคุณหนูสั่งเอาไว้ขอรับ” หลงจู๊เอ่ยบอกตามความจริง

“ดีแล้ว ข้าไม่รู้ว่านางเป็นใครมาจากไหนแต่นางไม่ใช่คนไม่ดีแน่นอน อย่างไรเสียเราพอช่วยเหลือนางได้ก็ย่อมต้องทำ” เย่วซินเอ่ยบอก

“ขอรับคุณหนู คุณหนูมีจิตใจที่ประเสริฐนักนับว่าเป็นบุญของข้าน้อยที่ได้ดูแลรับใช้คุณหนู” หลงจู๊เอ่ยด้วยความชื่นชมในตัวของผู้เป็นนายตัวน้อยของตน

“ท่านก็ชมข้าเกินไปประเดี๋ยวข้าก็ตัวลอยหรอกเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ยเย้า

“ข้าน้อยไม่เคยกล่าววาจาเกินจริงขอรับ”

ทั้งสองคุยกันอยู่เพียงครู่ต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานของตน เย่วซินเดินมายังห้องครัวที่ตอนนี้ไม่ยุ่งเท่าไรนัก เพราะยังเป็นช่วงเช้าอยู่ จะมีก็แต่ทำอาหารส่งไปยังห้องพักตามที่แขกสั่งลงมาเพียงเท่านั้น ที่เหลาอาหารยังไม่มีคนเพราะยังเช้าอยู่แต่ก็อีกไม่นานก็จะมีคนมานั่งเพื่อสั่งอาหารกันแล้ว เพราะถ้าพวกเขามาพร้อมกันในเวลาเที่ยงก็จะต้องรอนานหรืออาจจะไม่มีโต๊ะว่างก็ได้ ดังนั้นบางคนก็มานั่นสั่งอาหารกินเล่นไปพลาง ๆ ก่อน

เย่วซินรีบจัดการทำเส้นสำหรับเมนูใหม่ทันทีโดยมีลูกมือหลังครัวช่วยกันคนละไม้คนละมือ เย่วซินไม่ต้องทดลองเลยว่าอาหารจานนี้มันจะอร่อยถูกปากลูกค้าหรือไม่ เพราะตนมั่นใจเกินร้อยกับเมนูนี้ ตอนอยุ่ที่ภพเก่าเมนูนี้ใครได้ลิ้มลองก็ต้องติดใจด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป้นคนไทยหรือชาวต่างชาติ

ทางด้านซ่งอวิ๋นที่จัดการอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยที่ลงมายังด้านล่างของโรงเตี๊ยม เพราะนางตั้งใจว่าจะออกไปด้านนอกเสียหน่อย ซ่งอวิ๋นกลัวว่าจะเป็นที่ผิดสังเกตเพราะนางบอกกับเย่วซินไปว่ามาตามหาหลานสาวหากนางไม่ออกไปตามหลานสาวด้านนอกเย่วซินจะต้องสงสัยอย่างแน่นอน

เมื่อพูดถึงหลานสาวนางเองก็ยังไม่เห็นหน้าเลยตั้งแต่เมื่อวาน มีแต่เงาคนสนิทที่มารายงานว่าไท่เฟยไปพักที่จวนตระกูลหมิงไม่ต้องเป็นห่วง นี่ไม่ใช่ว่าหลานสาวตั้งใจหลบหน้านางหรอกหรือป่านนี้คงเที่ยวเพลินจนลืมยายของตนเสียสนิทแล้วกระมัง ไหนจะเรื่องที่โกหกเย่วซินเอาไว้อีกนางต้องการปรึกษากับหลานสาวว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี เพื่อเปิดโปงแผนการของตนเองอย่างเนียน ๆ โดยที่เย่วซินไม่โกรธ ซ่งอวิ๋นรู้สึกผิดที่โกหกหลอกลวงผู้อื่นจึงคิดที่จะหาทางออกในเรื่องนี้

ซ่งอวิ๋นเดินออกมาตามถนนที่มีผู้คนเดินไปมาวุ่นวายเพราะย่านนี้เป็นตลาดการค้าผู้คนจึงมีมากและยิ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นจึงทำให้คึกคักมากกว่าปกติ ก่อนออกมาจากโรงเตี๊ยมซ่งอวิ๋นได้สั่งกับเสี่ยวเอ้อร์ฝากบอกกับแม่นางเย่วซินว่าตนออกมาตามหาหลานสาว เรื่องนี้นางไม่ได้โกหกนางออกมาตามหาไท่เฟยจริง ๆ สาบานได้

ระหว่างที่ซ่งอวิ๋นเดินไปตามทางเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมายนั้นพลันมีบางอย่างมากระแทกทางด้านหลังจนตัวนางเซไปด้านหลังอย่างแรงจนเกือบล้ม เมื่อหันมาพบว่าเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งคล้ายกับว่ากำลังวิ่งหนีบางอย่างด้วยท่าทีรนราน เด็กหนุ่มผู้นั้นเมื่อชนหญิงชราจนเกือบล้มก็ไม่ได้ใส่ใจถามไถ่ ยังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งหนีต่อไป

ซ่งอวิ๋นไม่คร้านจะใส่ใจเพราะตนเองก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่เมื่อครั้นเมื่อกำลังจะก้าวเดินต่อไปก็พบว่ามีบุรุษร่างกายกำยำหลายคนวิ่งมาประชิดตัวนางและล้อมเอาไว้ ซ่งอวิ๋นแปลกใจว่าเกิดอันใดขึ้นจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“พวกเจ้ามีเรื่องอันใดถึงได้มายืนล้อมหญิงแก่อย่างข้า” ซ่งอวิ๋นเอ่ยถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน