ตอน บทที่73 รู้ความจริง จาก คู่แฝดคู่ป่วน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่73 รู้ความจริง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ คู่แฝดคู่ป่วน ที่เขียนโดย ไป๋หลัน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“นางคือคนรักของนายท่านขอรับ ทั้งสองรักกันมาก” ซานจิ่นเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเศร้าลงเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต
“มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ?” เย่วซินเอ่ยถามเมื่อสังเกตว่าใบหน้าและน้ำเสียงของคนตรงหน้าไม่สู้ดี
“ปีนั้นนายท่านทรงปลอมตัวออกจากวังและเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วจนมายังแคว้นฉิน ได้พานพบสตรีนางหนึ่งจนเกิดความรักใคร่ แต่เนื่องจากนายท่านไม่สามารถเปิดเผยฐานะของตนเองได้และอยากพิสูจน์ความรักของนายหญิง ความรักที่นายหญิงมอบให้นายท่านนั้นมีมากมายนักแม้ความลำบากยากแค้นก็ไม่อาจทำให้นางหวั่นไหวได้เลย”
“นางช่างเด็ดเดี่ยวในความรักยิ่งนัก ข้านับถือๆ” เย่วซินเอ่ยชื่นชม
“นายหญิงหนีออกจากจวนเพราะบิดาคัดค้านและจะจับนางแต่งงานเข้าจวนขุนนาง ทำให้บิดาโกรธมากจนตัดขาดความสัมพันธ์กัน”
“เรื่องนี้ข้าเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อนะ รักมากก็โกรธมากเป็นเรื่องธรรมดา” เย่วซินเอ่ย
“นายท่านและนายหญิงสร้างเรือนหลังเล็กแถวชานเมือง ทำนาและเก็บสมุนไพรขายทั้งคู่มีความสุขมาก มากเสียจนนายท่านไม่อยากพานายหญิงเข้าวังพบเจอเรื่องวุ่นวาย แต่วันหนึ่งนายท่านได้ทราบข่าวความขัดแย้งภายในของแคว้นหาน จึงรีบร้อนเดินทางกลับแคว้น และให้ข้าน้อยคอยอยู่ดูแลคุ้มครองนายหญิงแทน แต่น่าเสียดายไม่คิดว่าการเดินทางไปครานั้นของนายท่านจะเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าเช่นนี้” เอ่ยถึงตอนนี้ซานจิ่นก็มีน้ำเสียงสลดลงยิ่งไปกว่าเดิม
“ข้าสงสารทั้งสองยิ่งนัก” เย่วซินเอ่ยเมื่อซานจิ่นเว้นจังการพูด เรื่องราวความรักของทั้งสองคนทำให้จิตใจของนางเศร้าหมองยิ่งนัก
“เรื่องราวความเศร้ายังไม่จบเพียงเท่านั้น หลังจากนายท่านจากไปนายหญิงก็รู้ว่าตนเองนั้นตั้งครรภ์อ่อนๆ นางรอคอยนายท่านวันแล้ววันเล่าอย่างมีความหวังว่านายท่านจะกลับมา ข้าน้อยได้รู้ข่าวว่านายท่านถูกจับขังไว้ในคุกแต่ก็ไม่กล้าที่จะบอกกล่าวนายหญิงเพราะกลัวนางจะเสียใจจนทำให้เด็กในท้องเกิดอันตราย จึงได้แต่เก็บซ่อนความจริงเอาไว้เพื่อรอให้นางคลอดบุตรออกมาเสียก่อนแล้วค่อยบอกความจริง” ซานจิ่นเอ่ย
เย่วซินได้ฟังมาถึงตรงนี้ก็พลันรู้สึกคุ้นๆเหมือนเรื่องราวเช่นนี้นางได้ยินมาก่อน แต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยขัดปล่อยให้เขาเล่าเรื่องราวต่างๆออกมาทั้งหมดเสียก่อนเพื่อความแน่ใจ เย่วซินตั้งใจฟังทุกคำพูดด้วยใจเต้นรัวเร็ว
“ในวันที่นายหญิงคลอดองค์หญิงตัวน้อยออกมานั้น เหล่านักฆ่าก็พลันปรากฏตัวพวกมันต้องการฆ่านายหญิงและทุกคน นายหญิงพาองค์หญิงน้อยพร้อมสาวใช้วิ่งหนีเข้าป่าทึบข้าน้อยทำหน้าที่สกัดพวกมันเอาไว้และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าน้อยได้รู้เรื่องราวของนายหญิง” ซานจิ่นเอ่ยเล่าขอบตาแดงกล่ำกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
“นายหญิงของท่านนามว่าซูเหม่ยอิงใช่หรือไม่” เย่วซินตัดสินใจเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ
“ใช่ขอรับ คุณหนูทราบได้อย่างไร?” ซานจิ่นเอ่ยถามอย่างประหลาดใจเพราะตนยังไม่ได้เอ่ยนามของนายหญิงออกมาเลยสักครั้ง
เย่วซินใจเต้นรัวเร็วเมื่อได้รับคำตอบ แต่ก็ยังทำใจเอ่ยเล่าเรื่องราวต่อจากนั้นให้ซานจิ่นได้ฟัง เพราะเขาสมควรที่จะรับรู้เรื่องราวทั้งหมดต่อจากนี้ไป
“ข้าจะเล่าเรื่องราวต่อจากนั้นให้ท่านฟัง นายหญิงของท่านวิ่งหนีเข้าป่าพร้อมสาวใช้ แต่นางร่างกายอ่อนแอวิ่งต่อไม่ไหวจึงให้สาวใช้พาบุตรสาวตัวน้อยหลบหนีล่วงหน้าไปก่อนส่วนตัวนางหาที่หลบภัยใต้ต้นไม้ใหญ่ และตอนนั้นนางเพิ่งรู้ว่ายังมีทารกน้อยอีกคนหนึ่งอยู่ในท้อง ด้วยร่างกายที่อ่อนแรงเพราะเพิ่งคลอดบุตรคนแรกไปจึงไม่สามารถคลอดบุตรคนที่สองออกมาได้และหมดลมหายใจไปในที่สุด แต่โชคดีของเด็กในท้องที่มีท่านหมอคนหนึ่งผ่านมาเจอเข้าพอดีจึงช่วยเหลือออกมาจากครรภ์ได้อย่างปลอดภัย” เย่วซินเอ่ยพร้อมน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมา
“คุณหนู...คุณหนูคือ..” ซานจิ่นได้ฟังเรื่องราวก็พลันตกตะลึงจนแทบจะสิ้นสติ ไล่เรียงเหตุการณ์ที่คุณหนูเย่วซินเล่ามานั้นก็ทำให้ตนคิดเข้าข้างตนเอง
เย่วซินเห็นซานจิ่นนิ่งเงียบไปจึงหยิบปิ่นปักผมหยกขาวสลักลวดลายมังกรออกมาจากแหวนจัดเก็บแล้วส่งให้ซานจิ่น
“ท่านจำปิ่นปักผมชิ้นนี้ได้หรือไม่”
ซานจิ่นเห็นปิ่นปักผมจึงรีบหยิบมาดู ปิ่นชิ้นนี้ใยตนจะจำไม่ได้ก่อนที่นายท่านจะเดินทางกลับแคว้นได้มอบปิ่นชิ้นนี้ให้นายหญิงเก็บเอาไว้เป็นสิ่งแทนใจและคำมั่นสัญญาว่าจะรีบกลับมารับนางไปอยู่ด้วยกัน
“ปิ่นของนายท่านที่มอบให้นายหญิงเอาไว้ก่อนที่จะเดินทางกลับแคว้นข้าน้อยจำได้แม่นไม่มีวันลืม..องค์หญิงน้อย..” ซานจิ่นเอ่ยพร้อมคุกเข่าก้มหน้าลงพื้นแสดงความภักดีอย่างสุดซึ้งที่วันนี้ได้พบเจอกับบุคคลที่ตนตามหามานานแสนนาน
“ท่านซานจิ่นลุกขึ้นเถิดข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามทำเช่นนี้อีก” เย่วซินต่อว่าทันที
“ข้าน้อยดีใจยิ่งนักไม่คิดเลยว่าองค์หญิงน้อยจะมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้า โชคชะตาช่างเล่นตลกยิ่งนัก หลายปีมานี้ข้าน้อยส่งคนออกตามหาพวกท่านแต่ก็ไร้วี่แวว” ซานจิ่นเอ่ยเสียงสั่นยังไม่ยอมลุกขึ้นมาจากพื้นโดยง่าย
“องค์หญิงอะไรกัน ท่านห้ามเรียกแบบนี้เด็ดขาดเลยรู้หรือไม่” เย่วซินเอ่ยดุเสียงไม่ดังนักเพราะกลัวมีผู้ใดได้ยิน
“เรื่องอันใดหรือ?” หานเสวี่ยคุณเอ่ยถามทันทีด้วยความอยากรู้
“เรื่องของคนที่พวกเราตามเก็บกวาดเมื่อหลายปีก่อน พระองค์ยังจำได้หรือไม่”
หานเสวี่ยคุณเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ครุ่นคิดจนขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ยังนึกไม่ออก จางหยุนโฉวเห็นว่าสหายต่างศักดิ์นิ่งเงียบอยู่นานจึงเอ่ย
“ทายาทของหานเสวี่ยถังที่เราให้คนตามสืบจนพบแล้วจัดการสังหารเมื่อหลายปีก่อน แต่พวกมันทำพลาดปล่อยให้หนีรอดไปได้พระองค์จำได้หรือยังพะย่ะค่ะ” จางหยุนโฉวเอ่ยเตือนความทรงจำของสหายต่างศักดิ์
“ข้าจำได้แล้ว หลังจากนั้นเจ้าก็ให้คนตามสืบแต่ก็ไร้วี่แววใช่หรือไม่” หานเสวี่ยคุณเอ่ยขึ้นเมื่อทบทวนความทรงจำได้
“ใช่พะย่ะค่ะ แต่ตอนนี้คนของเราตามสืบจนได้ความบางอย่าง” จางหยุนโฉวเอ่ย เมื่อหลายเดือนก่อนมีข่าวการเคลื่อนไหวในจวนแม่ทัพซูแห่งแคว้นฉิน คนของตนจึงคอยตามสืบจึงรู้ว่าทายาทของหานเสวี่ยถังที่พวกตนตามหานั้นแท้จริงแล้วซ่อนตัวอยู่ที่เรือนท้ายจวนของตระกูลซูมาโดยตลอด หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้คนของตนจึงรับรู้และพยายามตามสืบจนพบตัว
“เจ้ารีบเล่ามา” หานเสวี่ยคุณเอยเร่งเร้าด้วยน้ำเสียงยินดี
“คนของเราพบทายาทของหานเสวี่ยถังแล้วพะย่ะค่ะ แม่ทัพซูแอบนัดพบนางที่แคว้นหนิงตอนที่เดินทางมากับคณะทูต” จางหยุนโฉวเอ่ยรายงาน ตนให้คนติดตามแม่ทัพซูหลวนซานอยู่ห่างๆจนกระทั่งได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้
“แล้วตอนนี้นางอยู่ที่ใดหรือ?”
“อยู่ที่จวนตระกูลหมิงพะย่ะค่ะ หมอหมิงฮุ่ยฉินรับนางเป็นหลานบุญธรรมเมื่อไม่นานมานี้ ผู้คนต่างเล่าลือกันถ้วนว่านางผู้นี้มีใบหน้าดำอัปลักษณ์ยิ่งนัก” จางหยุนโฉวเอ่ยรายงาน
“ดีมาก สั่งให้คนของเราจับตัวนางมาให้ได้ จะทรมานหรือทำวิธีใดก็ได้แต่ห้ามให้นางตายโดยเด็ดขาด ข้าจะใช้นางต่อรองกับหานเสวี่ยถังและคนของพวกมัน” หานเสวี่ยคุณเอ่ยพร้อมยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พลางนึกว่าสวรรค์ช่างเข้าข้างตนเสียจริงๆ อุตส่าห์หนีออกจากที่คุมขังไปได้แล้วแท้ๆแต่ก็ยังไม่อาจรอดพ้นเงื้อมือของตนไปได้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน
รอนะคะ อัพต่อหน่อยค่า...