คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 78

ช่วงสายของวันหานเฟิ่งฮวาและหานเฟิ่งอวี่เดินมายังที่พักของเย่วซินเพื่อเยี่ยมเยียนอาการตามที่ได้พูดคุยกันไว้ เมื่อมาถึงด้านหน้าก็พบกวนลู่ซือยืนอยู่เช่นกัน

“อ้าว!เฟิ่งฮวาเจ้ากับองค์รัชทายาทมาเยี่ยมเย่วซินหรือ?” กวนลู่ซือเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินมา วันนั้นก่อนที่จะเกิดเรื่องเฟิ่งฮวาก็อยู่บริเวณนั้น แต่พอเกิดเรื่องขึ้นนางกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยคล้ายตั้งใจ แต่นั่นเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้นเฟิ่งฮวาดูแล้วไม่น่าจะร้ายกาจเช่นนั้นได้ลู่ซือคิดในใจอย่างคนโลกสวย โดยหารู้ไม่ว่าภายใต้ใบหน้าสวยสดใสนั้นซ่อนสิ่งใดเอาไว้

“นางฟื้นแล้วใช่หรือไม่ ข้าเข้าไปเยี่ยมนางได้หรือเปล่า” เฟิ่งฮวาเอ่ยถามลู่ซือ

“นางฟื้นแล้วแต่เจ้าเข้าไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้นนะ ส่วนองค์รัชทายาทพระองค์ทรงรอด้านนอกนะเพคะเย่วซินยังไม่พร้อมต้อนรับบุรุษยามนี้เพราะใบหน้าของนางยามนี้ไม่ค่อยน่ามองนัก” ลู่ซือเอ่ยบอกบุรุษตรงหน้า จริงๆแล้วเย่วซินไม่ได้ให้เหตุผลเช่นนี้แต่เป็นตนเองที่แปลงคำพูดของนาง

“ข้าเข้าใจ ฮวาเอ๋อร์เจ้าเข้าไปเถิดพี่จะรออยู่ด้านนอก” หานเฟิ่งอวี่เอ่ย เขาเองก็ไม่ได้อยากมาสักเท่าใดนัก และรู้ดีด้วยว่าใบหน้าของนางยามนี้เป็นเช่นไร

เฟิ่งฮวาและลู่ซือเข้ามาด้านในที่พักของคนป่วย เย่วซินตอนนี้กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงเพราะพี่เย่วเทียนเพิ่งกลับออกไปหลังจากกินมื้อเช้าด้วยกันเสร็จเรียบร้อย เย่วซินคาดเดาเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าสองพี่น้องต้องมาเยี่ยมนางเป็นแน่จึงรบกวนลู่ซือให้ช่วย

เย่วซินสั่งลู่ซือเอาไว้ว่าถ้าองค์รัชทายาทมาเยี่ยมอย่าให้เขาเข้ามาเพราะไม่อยากเจอหน้าเขา

“แม่นางเย่วซินเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” เฟิ่งฮวาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย สายตาลอบมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่เคยงดงามจนตนอิจฉา บัดนี้ช่างน่าเกลียดยิ่งนักแม้ในใจจะนึกสงสัยว่านางไปโดนอะไรมาถึงเป็นเช่นนี้ แต่ความสะใจมีมากกว่าจึงไม่คิดติดใจอันใด

“หม่อมฉันยังไม่ตายง่ายๆหรอกเพคะองค์หญิง” เย่วซินเอ่ยตอบไปตามความจริง คำตอบนี้ถ้าจะคิดในแง่ดีก็ไม่มีอะไรมาก แต่ถ้าคิดในแง่ลบคือกวนบาทาสุดๆตอบได้น่าตบชะมัดอะไรประมาณนี้ เย่วซินคิดว่าองค์หญิงเฟิ่งฮวาน่าจะคิดอย่างหลังมากกว่า

“ทำไมเจ้าถึงตกน้ำได้เล่า” เฟิ่งฮวาเอ่ยถามเป็นมารยาททั้งที่รู้คำตอบอยู่แก่ใจ

“ตรงนั้นมันเป็นบ่อน้ำวนข้าพลัดตกลงไป ใครจะไปคิดว่าจู่ๆก็มีงูตัวใหญ่ดำมะเมื่อมเลื้อยมาพอดี ลู่ซือช่วยหม่อมฉันเอาไว้ไม่เช่นนั้นก็คงโดนงูพิษกัดตายก่อนที่จะตกน้ำ” เย่วซินเอ่ยพลางนึกในใจ งูพิษกัดตายหรือ?ไม่มีทางเสียหรอกพิษงูแค่นั้นไม่ระคายผิวตนหรอก ที่กรีดร้องเสียงดังเช่นนั้นเพราะมันตัวใหญ่และน่าเกลียดน่ากลัวต่างหากเล่า

“ในป่าย่อมมีสัตว์มีพิษชุกชุมเป็นเรื่องธรรมดา โชคดีแล้วที่เจ้าปลอดภัย” เฟิ่งฮวายังตีหน้าใสซื่อเอ่ย แม้ในใจจะรู้ว่าสตรีตรงหน้าก็ไม่เชื่อใจตนเช่นกัน แต่นางไม่มีหลักฐานที่จะมากล่าวหากันได้เพียงเท่านั้น

“ข้าได้ข่าวว่าเจ้าเพิ่งจะผ่านเคราะห์ครั้งใหญ่มาเมื่อไม่นาน ยังเกิดเรื่องนี้ซ้ำขึ้นมาอีกสงสัยว่าดวงปีนี้ของเจ้าคงไม่ดีนักเจ้าต้องระวังตัวเอาไว้ให้มากๆหน่อยก็แล้วกัน” เฟิ่งฮวาเอ่ยต่อด้วยประโยคสองแง่สองง่าม

ถ้าจะคิดไปในทางที่ดีก็ดีไป ถ้าคิดในแง่ลบคือตายยากตายเย็นนักนะ ระวังตัวเอาไว้ให้ดีเถิดเจ้าไม่ได้ดวงดีเสมอไปหรอก และสำหรับเย่วซินแล้วคิดว่าอย่างหลังแน่นอน

“ขอบพระทัยที่ทรงเป็นห่วง องค์หญิงเองก็ต้องระวังตัวเอาไว้เช่นกันนะเพคะอยู่กลางป่ากลางเขาเช่นนี้สัตว์ป่าล้วนไม่น่าไว้ใจ” ในความหมายของถ้อยคำคือเจ้าระวังตัวเอาไว้ให้ดีเถิดระวังกรรมจะตามมาสนองคืนแก่เจ้า

“ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้วเชิญเจ้าพักผ่อนเถิด” เอ่ยจบเฟิ่งฮวาก็เดินออกมาทันทีด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธภายในใจ

“นี่พวกเจ้าพูดคุยกันปกติแล้วใช่หรือไม่” ลู่ซือเอ่ยถามแกมหยอกเย้า ตนไม่ใช่คนโง่ที่จะตีความหมายของคำพูดเหล่านั้นไม่ออก และไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องบาดหมางอันใดกัน ลู่ซือไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้

“เรื่องปกติสิ ข้ากับองค์หญิงเพิ่งเคยพบหน้ากันก่อนหน้านี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นจะมีเรื่องอันใดกันได้จริงหรือไม่” เย่วซินเอ่ย พลางนึกใจใน พบกันครั้งแรกข้าก็วางยาพิษนางแล้ว พบกันอีกครานางอยากฆ่ากันก็ไม่แปลกหรอก

“ข้าจะเชื่อคำพูดเจ้าแล้วกันนะ” ลู่ซือเอ่ยพร้อมมองหน้าคนป่วยคล้ายมีคำถามแต่ไม่กล้าเอ่ย

เย่วซินมองใบหน้านั้นออกจึงนางคล้ายมีเรื่องอึดอัดอยากถามจึงตัดสินใจเอ่ย “เจ้ามีเรื่องอะไรจะถามข้าหรือไม่ลู่ซือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน