คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 80

สรุปบท บทที่ 80 ความรู้สึกแปลกประหลาด: คู่แฝดคู่ป่วน

สรุปตอน บทที่ 80 ความรู้สึกแปลกประหลาด – จากเรื่อง คู่แฝดคู่ป่วน โดย ไป๋หลัน

ตอน บทที่ 80 ความรู้สึกแปลกประหลาด ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง คู่แฝดคู่ป่วน โดยนักเขียน ไป๋หลัน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เย่วซินเดินตามท่านซานจิ่นมาภายในหมู่ที่อยู่ลึกสุด เพราะท่านประมุขจ้าวพาลูกพรรคส่วนหนึ่งมาช่วยซ่อมแซมหลังคาบ้านที่ผุพังจนไม่คุ้มแดดคุ้มฝน หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ไกลจากเมืองหลวงมาก ซ้ำยังยังอยู่ติดป่าเขาแม้จะไม่ใช่เขตชายแดนแต่ความเป็นอยู่ของคนหมู่บ้านนี้เรียกว่าบ้านนอกอย่างแท้จริง

เย่วซินเดินตามท่านซานจิ่นไปพลางกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างสำรวจ บ้านเรือนของชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกห่างกันพอสมควร เพราะบางหลังยึดบริเวณบ้านปลูกผักและเลี้ยงสัตว์เล็กๆน้อยๆคงเอาไว้กินภายในครอบครัวหากเหลือคงนำขายเอาเงินไว้ใช้จ่าย

ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้จากที่เย่วซินได้ตรวจรักษาและประเมิณด้วยสายตัวเองพบว่าพวกเขามีสุขภาพและร่างกายที่แข็งแรงมากจึงฟื้นตัวจากอาการป่วยได้อย่างรวดเร็ว เย่วซินเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งถึงที่หมาย

“ถึงแล้วขอรับคุณหนู ท่านประมุขอยู่ทางด้านนั้น” ซานจิ่นเอ่ยบอกคุณหนูของตน

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านซานจิ่น ท่านรอข้าอยู่ตรงนี้นะเจ้าคะ” เย่วซินเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ซานจิ่นรับคำแล้วมองร่างเล็กเดินห่างออกไปด้วยสายตาหลงใหลเทิดทูน พลางคิดในใจว่าคุณหนูของตนทำไมช่างน่ารักขนาดนี้ ตนอยากให้นายท่านฟื้นความทรงจำมาเร็วๆเหลือเกินนายท่านคงจะดีใจไม่น้อย แล้วคุณหนูจิวอิงจะน่ารักสดใสเหมือนกันหรือไม่นะตนชักอยากพบหน้าโดยไวเสียแล้ว

“ท่านประมุขจ้าว!..” เย่วซินเดินยังไม่ทันถึงที่หมายก็ส่งเสียงเรียกคนร่างสูงที่นั่งจิบชาอย่างสบายใจอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยท่วงท่างดงาม ทำไมช่วงนี้เขาไม่ค่อยสวมใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเลยล่ะหรืออยากโชว์ความหล่อเหลาให้อดีตคนรักดูกัน เย่วซินคิดในใจอย่างหมั่นไส้เอ๊ะ..แล้วทำไมตนต้องหมั่นไส้เขาด้วยเล่าไม่เกี่ยวอะไรกันเสียหน่อย

จ้าวไท่เหว่ยเหลือบสายตาไปตามเสียงเรียกเขาจำเสียงนางได้แล้วก็ไม่มีสตรีนางใดแสดงกิริยาทะโมนเช่นนี้หรอกอ้อ…มีน้องสาวของเขาอีกหนึ่งคน

“มาทำไม” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยถามเสียงห้วนเมื่อร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้ กระโจมที่พักกับบริเวณส่วนนี้ห่างไกลพอสมควร นางเพิ่งหายป่วยไข้ไม่สมควรที่จะออกมาเดินตากลมเช่นนี้เกิดป่วยขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร!

“มาหาท่านนั่นแหละ งานยุ่งหรือ?” เย่วซินเอ่ยถาม ใจจริงตนอยากจะถามเขาต่อว่างานยุ่งหรือทำไมไม่เห็นไปเยี่ยมเธอเลย แต่ยังวางท่าทีเอาไว้ก่อนเพื่อดูเชิงของอีกฝ่าย

“ไม่ยุ่ง” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยตอบ

“ไม่ยุ่งหรือ?!! ไม่ยุ่งแล้วทำไม...” เย่วซินหยุดคำพูดของตัวเองเอาไว้เท่านั้นเพราะหากเอ่ยออกไปกลัวจะเสียฟอร์ม นางและเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกันถึงขนาดต้องมาเยี่ยมไข้นิสัยของประมุขจ้าวก็แบบนี้สินะ

“ทำไมอะไรหรือ?” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าร่างเล็กหยุดเอ่ยกะทันหัน

“เปล่า...ข้าจะมาขอบคุณท่านที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้วันนั้น ถ้าไม่ได้ท่านข้าคงไม่รอดแน่” เย่วซินเอ่ยสิ่งที่ตนเองตั้งใจมาบอกเขาตั้งแต่แรก

“เรื่องเล็กน้อยเจ้าอย่าใส่ใจเลย อีกอย่างวันนั้นถ้าข้าไม่ช่วยเจ้าก็ไม่ตายหรอกเพราะพี่ชายของเจ้าก็ช่วยเหลืออยู่ดี”

“ไม่ได้ๆขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ อ้อ...แล้วท่านจะกลับพรรควันไหนหรือ?” เย่วซินเอ่ยถามต่อ

“อีกสองวัน แล้วเจ้าจะไปพร้อมกันเลยหรือไม่” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยถาม เพราะอย่างไรนางก็ต้องกลับไปดูแลอาการป่วยของบิดา

“เจ้าค่ะข้าจะไปพร้อมท่าน” เย่วซินเอ่ยพร้อมยิ้มสดใส จ้าวไท่เหว่ยแม้จะเห็นรอยยิ้มนั้นไม่ชัดเจนเพราะนางสวมผ้าปิดบังใบหน้าเอาไว้แต่เขาก็พอจะเดาได้ว่ามันเป็นเช่นไร

“อ้าว!! เย่วซินเจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?” กวนลู่ซือเอ่ยทักเย่วซินขณะที่เดินเข้ามาหาอดีตคนรัก

“ข้ามาขอบคุณท่านประมุขที่ช่วยเหลือวันที่ตกน้ำแล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่หรือ?” เย่วซินเอ่ยถาม

“ข้านำอาหารเที่ยงมากินกับพี่ไท่เหว่ย ข้าไม่รู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่เลยไม่ได้เตรียมมาเผื่อขอโทษด้วยจริงๆ” กวนลู่ซือเอ่ยเสียงอ่อย คิดตั้งใจทำให้พี่ไท่เหว่ยใจอ่อนและเปิดใจรับรักนางอีกครั้ง ตอนนี้เขาอาจจะยังมีกำแพงสูงกั้นแต่สักวันเขาอาจจะมองเห็นความตั้งของนางก็ได้

จ้าวไท่เหว่ยมองสองสตรีพูดคุยกัน ยายตัวแสบบอกความลับที่นางกับเขาตกลงกันไว้กับลู่ซือแล้ว ตอนนี้ลู่ซือแวะเวียนมาหาเขาบ่อยมากเขาเองก็ไม่ได้รังเกียจถึงขั้นผลักไสแต่จะให้กลับไปเหมือนเดิมก็คงไม่ได้แล้ว

“คือ..ข้าเพิ่งได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วอดีตองค์รัชทายาทหานเสวี่ยถังก็คือคุณชายถังบิดาของข้าที่ทิ้งไปเมื่อสิบห้าปีก่อนเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ย

“เจ้าว่าอย่างไรนะ!!” เย่วเทียนเอ่ยขึ้นอย่างตกในเมื่อได้ยินเรื่องเมื่อครู่แต่ไม่แน่ใจว่าตนเองฟังผิดหรือไม่จึงเอ่ยถามออกไปอีกครั้ง

“อดีตองค์รัชทายาทหานเสวี่ยถังคือบิดาของข้าเจ้าค่ะ” คราวนี้เย่วซินย่อเนื้อหาให้เหลือสั้นๆแต่กระชับฟังแล้วเข้าใจได้ในทันที

“เรื่องจริงหรือ?เจ้าแน่ใจหรือ?” เย่วเทียนเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

“แน่ใจเจ้าค่ะ ท่านเห็นองครักษ์ด้านนอกหรือไม่ นั่นคือจิ่นจ้งองครักษ์ผู้ภักดีของท่านพ่อตอนที่ท่านต้องกลับแคว้น ท่านได้ทิ้งจิ่นจ้งเอาไว้คอยดูแลท่านแม่และวันที่ข้าเกิดท่านจิ่นจ้งก็ทำหน้าอย่างดีเยี่ยมจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่โชคยังเข้าข้างที่ท่านประมุขจ้าวมาพบแล้วนำตัวเขาไปรักษา หลายปีต่อมาเขาก้ไปช่วยเหลือท่านพ่อออกมาจากที่คุมขัง พี่เย่วเทียนก็พอจะทราบเรื่องราวคร่าวๆอยู่บ้างใช่หรือไม่” เย่วซินเอ่ยเท้าความถึงบุคคลสำคัญที่ทำให้เรื่องราวครั้งนี้กระจ่างแจ้ง

“แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป” เย่วเทียนเอ่ยถามน้องสาวบุญธรรมเพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับนางโดยตรงเขาต้องฟังความคิดเห็นของนางก่อน

“ข้าอยากให้พี่เย่วเทียนช่วยพาอิงอิงและพี่เสี่ยวชิงมาหาท่านพ่อที่พรรคอินทรีย์เจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพ่อยังจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ข้าอยากให้จิวอิงและพี่เสี่ยวชิงมาช่วยกันเพื่อว่าท่านจะอาการดีขึ้นบ้าง ส่วนข้าก็จะออกตามหาสมุนไพรเพื่อมารักษาใบหน้าเสียทีข้าเบื่อที่ต้องปิดบังเต็มทีแล้ว” เย่วซินเอ่ยบอกพี่ชายบุญธรรม

“พี่จะพาทั้งสองไปที่พรรคอินทรีย์ตามที่เจ้าต้องการ แต่เรื่องนี้พี่จะหารือกับท่านปู่อีกทีว่าท่านจะทำเช่นไรต่อไป เดินทางเข้าออกพรรคอินทรีย์ไม่ใช่เรื่องง่ายเจ้าไม่คิดเช่นนั้นหรือ?” เย่วเทียนเอ่ยให้น้องสาวได้คิด พรรคอินทรีย์ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าออกโดยง่ายจะต้องมีคนที่ไว้ใจได้ของพรรคนำทางทุกครั้งมิเช่นนั้นคงไม่รอดค่ายกลที่ทางพรรคได้วางเอาไว้

“ก็จริงอย่างที่ท่านพูด เรื่องนี้ค่อยหารือกันอีกที” เย่วซินเอ่ยยิ้มให้พี่ชายบุญธรรมอย่างโล่งใจที่ได้เอ่ยเล่าออกไป

จากนี้ไปก็เป็นหน้าที่ของพี่เย่วเทียนที่จะต้องพาอิงอิงและพี่เสี่ยวชิงมาหาท่านพ่อ เมื่อท่านพ่ออาการดีขึ้นละจดจำเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว คงต้องหาที่อยู่ใหม่อยู่กันแบบครอบครัวที่อบอุ่นเสียที เย่วซินคิดวาดหวังถึงความสุขที่จะได้อยู่กับครอบครัวในวันข้างหน้าด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน