บทที่ 82 นิสัยเหมือนใคร – ตอนที่ต้องอ่านของ คู่แฝดคู่ป่วน
ตอนนี้ของ คู่แฝดคู่ป่วน โดย ไป๋หลัน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 82 นิสัยเหมือนใคร จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
พรรคอสรพิษ
ตั้งแต่ที่เจิ้งจื่อยิ่นไปรับตัวของหลานสาวสุดที่รักมาจากหมู่บ้านนอกเมืองนี่ก็ล่วงเวลามาถึงสองวันแล้วนางยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย พิษในร่างกายที่นางได้รับมานั้นเขาก็จัดการถอนมันออกมาจนหมดสิ้นแล้ว แต่ที่เขากังวลคือพิษชนิดนี้มันไม่ธรรมดาแต่มันคือพิษงูเหมันต์ผู้ที่โดนพิษแม้จะกำจัดออกมาหมดสิ้นแล้ว แต่ไอเย็นของพิษมันแทรกซึมเข้าสู่ภายในร่างกายแล้วยากกำจัดแต่ใช่ว่าไม่มีทางรักษา อย่างไรเขาก็ต้องตามหาสมุนไพรมารักษาหลานสาวของเขาให้ได้ เพราะเขาคือราชาแห่งพิษจะเสียชื่อไม่ได้
“ท่านพ่อฮวาเอ๋อร์จะเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ” เจิ้งฮองเฮาหรือเจิ้งฟางหลันบุตรสาวของเจิ้งจื่อยิ่นประมุขพรรคอสรพิษเอ่ยถามผู้แป็นบิดาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
เจิ้งฟางหลันเมื่อทราบข่าวเรื่องธิดาของตนก็รีบเดินทางมายังพรรคอสรพิษทันที เมื่อมาเห็นธิดาผู้เป็นดวงใจนอนหายใจรวยรินหัวใจของผู้เป็นมารดาแทบแตกออกเสี่ยง ถ้าตนเองเจ็บแทนบุตรได้ก็ยินดีอย่างไม่คิดลังเล
“เจ้าใจเย็นลงก่อนเถิดประเดี๋ยวจะป่วยไข้ไปอีกคนหรอก” เจิ้งจื่อยิ่นเอ่ยบอกบุตรสาวที่ยามนี้ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยตราบน้ำตา
“ข้าทำใจไม่ได้ ฮวาเอ๋อร์ยังไม่ยอมฟื้นขึ้นมาเลยนะเจ้าคะ! ท่านต้องช่วยฮวาเอ๋อร์นะท่านพ่อ! ท่านต้องช่วยนางได้แน่นอนเพราะท่านพ่อเก่งกาจกว่าผู้ใดในเรื่องพิษ” เจิ้งฟางหลันฟูมฟายเสียงสั่นเครือคล้ายคนสติแตกเพราะกลัวบุตรสาวของตนไม่ฟื้นขึ้นมา
“ยังมีทางรักษานางอยู่ แต่ตอนนี้เจ้าต้องใจเย็นลงก่อน” เจิ้งจื่อยิ่นเอ่ยปลอบบุตรสาวของตน
“จริงหรือท่านพ่อ?”
“จริงสิ ดอกราตรีเพลิงสามารถขจัดไอเย็นของพิษงูเหมันต์ได้ แต่ดอกไม้ชนิดนี้มันขึ้นอยู่ในเขตป่าหมอกมายาเพียงเท่านั้นและที่คัญคือ..” เจิ้งจื่อยิ่นเว้นจังหวะการพูดออกไป
“แต่อะไรหรือเจ้าค่ะท่านพ่อ” เจิ้งฟางหลันเอ่ยถามอย่างร้อนใจ
“ดอกไม้ชนิดนี้มันจะออกดอกเฉพาะฤดูหนาวเพียงเท่านั้น ตอนนี้อยู่ในช่วงฤดูฝนเราต้องรอเวลาอีกสักหน่อยให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนเดือนหน้าก็ถึงฤดูหนาวแล้ว” เจิ้งจื่อยิ่นเอ่ยบอก
“แล้วระหว่างนี้ฮวาเอ๋อร์จะเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ” เจิ้งฟางหลันเอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล เพราะกลัวว่าหากปล่อยเอาไว้นานบุตรสาวจะเป็นอันตราย
“ตอนนี้มีหนทางเดียวคือใช้สมุนไพรลดความเย็นของร่างกายประคองอาการไปก่อน ข้าจะให้อู่เสียงนำสมุนไพรพวกนั้นมาอย่างเร็วที่สุด” เจิ้งจื่อยิ่นเอ่ย สมุนไพรหายากหลายชนิดเขาให้หลานชายคอยดูแลอยู่ที่หุบเขาสมุนไพร แต่สำหรับสมุนไพรหายากในเขตป่าหมอกมายานั้นบางชนิดมันไม่สามารถนำมาปลูกที่อื่นได้ ด้วยสภาพอากาศและพลังปราณบริสุทธิ์บนเขาป่าหมอกมายานั้นเรียกได้ว่ามีของล้ำค่าและหายากอย่างแท้จริง
ป่าหมอกมายาใช่ว่าผู้ใดก็สามารถเข้าไปได้โดยง่าย ถ้าบุคคลเหล่านั้นไม่มีวรยุทธและพลังปราณที่แข็งแกร่งพอก็เสมือนเอาชีวิตไปทิ้งโดยเสียเปล่า เพราะภายในป่าหมอกมายาล้วนแต่มีอันตรายรอบด้านทั้งสัตว์อสูรและต้นไม้ ดอกไม้พิษชนิดต่างๆเรียกได้ว่าต้องมีความรู้รอบด้านเลยจริงๆถึงจะได้กลับออกมาจากป่าอย่างปลอดภัย
ส่วนเรื่องผู้ใดที่คิดทำร้ายหลานสาวของเขานั้นเขาย่อมต้องเอาคืนอย่างแน่นอน จะเป็นสตรีน้อยที่สามารถถอนพิษของเขาได้หรือจะเป็นประมุขจ้าวแห่งพรรคอินทรีย์เขาก็ไม่เกรงกลัวทั้งนั้น เจิ้งจื่อยิ่นคิดเครียดแค้นอยู่ในใจด้วยใบหน้าถมึงทึง
# พรรคอินทรีย์ ยามอุ้ย(13.00-14.59)
เย่วซินเดินทางมาถึงอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทางประมุขจ้าวไม่ได้หาเรื่องยียวนกวนประสาทเลย และดูเหมือนจะมีมารยาทดีขึ้นราวกับว่ากินยาลืมเขย่าขวดแต่นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไม่น้อย
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านประมุข ข้าขอตัวไปหาท่านพ่อก่อนนะเจ้าคะ” เย่วซินเมื่อเท้าแตะพื้นก็รีบเอ่ยบอกคนตัวสูงทันทีด้วยใบหน้าสดใส และไม่รอฟังคำตอบเอ่ยจบก็เย่วซินก็วิ่งติดจรวดไปอย่างรวดเร็ว
“ซานจิ่นคุณหนูของเจ้าป็นสตรีหรือว่าเป็นลิงทโมนกันแน่ ข้าหาความเรียบร้อยในตัวนางไม่ได้เลยสักนิด” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกคนสนิท แต่สายตัวกลับจ้องมองแผ่นหลังของคนตัวเล็กที่กำลังวิ่งห่างออกไป
“ท่านประมุขชอบแบบไหนล่ะขอรับ” ซานจิ่นไม่ตอบคำถามของผู้เป็นนายแต่เอ่ยถามกลับไปด้วยใบหน้าหยอกเย้า
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า!!” จ้าวไท่เหว่ยแล้วรีบเดินเข้าที่พัก
“เดี๋ยวๆก่อนเจ้าจากไปข้ายังเป็นท่านลุงของเจ้าอยู่เลย แล้วข้าไปกราบไหว้ฟ้าดินกับมารดาของเจ้าตอนไหนถึงได้กลายเป็นบิดาได้รวดเร็วเช่นนี้” หานเสวี่ยถังเอ่ยพร้อมยกมือของตนเองยันหน้าผากร่างเล็กเอาไว้ไม่ได้นางเข้ามาใกล้จนเกินงาม แต่ดูเหมือนสตรีร่างเล็กตรงหน้าก็ดึงดันจะกอดเขาให้ได้เสียเหลือเกิน
“ท่านกราบไหว้ฟ้าดินกับท่านแม่เมื่อสิบหกปีก่อนอย่างไรเล่าเจ้าคะ ตอนนี้ท่านอาจยังจำไม่ได้แต่ข้ารับรองว่าข้าคือบุตรสาวของท่านแน่นอน” เย่วซินหยุดดึงดันที่จะกอดบิดาแล้วเอ่ยวาจาจริงจังให้ท่านได้รับรู้
“เจ้าพูดเรื่องจริงหรือ?” หานเสวี่ยถังเอ่ยถาม เขายังจำเรื่องราวต่างๆไม่ได้มีแต่เกาซูหลางเท่านั้นที่เอ่ยเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังและเกาซูหลางก็ไม่เคยเอ่ยเล่าเลยว่าเขาได้แต่งงานและมีบุตรแล้ว
“จริงเจ้าค่ะ ท่านดูใบหน้าข้า ดวงตาคู่นี้ข้าได้ท่านมาเลยนะเจ้าคะเหมือนกันอย่างกับแกะ” เย่วซินเอ่ยพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆบิดาให้เขาได้มองได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
“อืม..ก็มีส่วนคล้ายกันอยู่” หานเสวี่ยถังมองดวงตาคู่สวยที่กลมโตพร่างพราวระยับตรงหน้าแล้วยอมรับว่าคล้ายตนอยู่มาก
“ทีนี้ท่านพ่อเชื่อข้าหรือยังเจ้าคะ ว่าข้าคือบุตรสาวที่น่ารักของท่าน” เย่วซินเอ่ยออดอ้อนผู้เป็นบิดาอย่างสุดฤทธิ์ พร้อมทำตาปริบๆให้ดูหน้าน่ารักน่าเอ็นดู
“ยัง!!” หานเสวี่ยถังเอ่ยหยอกเย้าสตรีร่างเล็กที่คลอเคลียตนไม่ห่างตอนนี้ เขาเองก็ต้องยอมรับว่าเอ็นดูนางมานานแล้ว เรื่องที่นางบอกว่าเขาคือบิดานั้นจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่เขาเองก็เต็มใจถ้านางต้องการ แต่ตอนนี้เขาต้องการที่จะแกล้งนางเพียงเท่านั้นจึงเอ่ยหยอกเย้าออกไป
“อ้าว!! ท่านพ่อไม่เชื่อข้าหรือ?”
“ใช่ ข้าไม่เชื่อถึงแม้ดวงตาของเจ้าจะเหมือนข้าก็จริง แต่นิสัยแบบนี้ไม่เหมือนข้าแน่นอน ยิ่งถ้านิสัยเหมือนมารดายิ่งแล้วใหญ่ เพราะข้าคงไม่แต่งสตรีที่นิสัยลิงทโมนเช่นนี้แน่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หานเสวี่ยถังเอ่ยพลางหัวเราะชอบใจที่กลั่นแกล้งคน และยิ่งเห็นใบหน้าของนางยามนี้แล้วยิ่งตลกนัก
“ชัดเลย!! ข้าได้นิสัยแบบนี้มาจากท่านพ่อนี่เอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน
รอนะคะ อัพต่อหน่อยค่า...