คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 88

สรุปบท บทที่88 ใจสลาย: คู่แฝดคู่ป่วน

ตอน บทที่88 ใจสลาย จาก คู่แฝดคู่ป่วน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่88 ใจสลาย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ คู่แฝดคู่ป่วน ที่เขียนโดย ไป๋หลัน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เช้าวันรุ่งขึ้นเย่วซินตื่นลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตอนนี้ทั้งแขนและขาได้พาดอยู่บนตัวของคนด้านข้างเรียบร้อยแล้ว มันช่างน่าอายยิ่งนัก เย่วซินค่อย ๆ ขยับตัวออกช้า ๆ โดยที่ไม่ให้อีกคนหนึ่งตื่นและรีบลุกออกไปทำธุระส่วนตัวทันที โดยที่ไม่รู้ว่าประมุขจ้าวนั้นได้ตื่นนอนนานแล้วแต่ไม่อยากปลุกนางต่างหากจ้าวไท่เหว่ยยกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี

หลังจากกินมื้อเช้าที่โรงเตี๊ยมเสร็จเรียบร้อยทั้งคู่ก็รีบเดินทางกลับพรรคทันที เย่วซินกลัวว่าบิดาจะเป็นห่วงที่นางหายออกมาทั้งคืนโดยที่ไม่แจ้งให้ท่านได้รับรู้ เดินทางราวๆหนึ่งชั่วยามกว่าๆก็ถึงพรรคอย่างปลอดภัย

“คุณหนูท่านกลับมาแล้วข้าน้อยเป็นห่วงแทบแย่” ซานจิ่นเอ่ยอย่างดีใจเมื่อเห็นคุณหนูของตนกลับมา

“ท่านซานจิ่นท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” เย่วซินเอ่ยถาม

“เมื่อคืนนายท่านปวดหัวรุนแรงขอรับ ท่านหมอให้ยาบรรเทาปวดและท่านก็หลับไป ตื่นขึ้นนายท่านก็จดจำเรื่องราวต่างๆได้แล้วขอรับ” ซานจิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแต่ใบหน้ากลับไม่ยินดีเท่าไรนัก

“ท่านพูดจริงหรือ? ท่านพ่อจดจำได้แล้วจริง ๆ หรือ” เย่วซินเมื่อได้ยินก็ยิ้มออกมา แต่เมื่อคิดได้ว่าบิดาจดจำเหตุการณ์ได้จะเป็นเช่นไรพลันหุบยิ้มแล้วรีบวิ่งไปทางเรือนพักทันที จ้าวไท่เหว่ยเองก็รีบก้าวเท้าตามไปเช่นกัน

“ท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้างท่านเกาซูหลาง” เย่วซินเมื่อมาถึงหน้าห้องเห้นท่านเกาซูหลางยืนหน้าเจื่อนอยู่ก็เอ่ยถาม

 “นายท่านปิดประตูอยู่แต่ในห้องไม่ยอมกินข้าวเลยขอรับ” เกาซูหลางเอ่ยตอบ

“ข้าจะคุยกับท่านพ่อเองท่านไปพักก่อนเถิดเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ยท่านเกาซูหลางที่ใบหน้ายามนี้ดูอิดโรยนัก

“ขอรับคุณหนู” เกาซูหลางรับคำแล้วเดินกลับที่พักไปทันที

“ท่านพ่อเจ้าคะเปิดประตูให้ข้าเข้าไปหน่อยได้หรือไม่” เย่วซินเอ่ยถามคนด้านในห้องที่ตอนนี้เขาลงกลอนเอาไว้ เย่วซินกลัวว่าบิดาจะทำร้ายตนเองจึงเริ่มน้ำตาคลอหน่วยด้วยความเป็นห่วงและสงสารบิดาของตน

“ท่านประมุขจ้าว เปิดประตูให้ข้าได้หรือไม่ข้าเป็นห่วงท่านพ่อ” เย่วซินหันไปถามคนร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านข้าง

จ้าวไท่เหว่ยไม่ตอบเพียงสะบัดมือเบาๆประตูก็เปิดออกทันที เย่วซินรีบวิ่งเข้าไปด้านในเห็นบิดานั่งอยู่ที่โต๊ะกลมกลางห้องใบหน้าดูอิดโรย ดวงตาแดงกล่ำเห็นแล้วสะเทือนใจยิ่งนัก เย่วซินโผเข้ากอดบิดาแน่นยามนี้หยาดน้ำตาได้ไหลรินออกมาเปอะเปื้อนสองแก้ม จ้าวไท่เหว่ยปล่อยให้พ่อลูกพูดคุยกันและเดินออกมาทันที

“ท่านพ่อท่านเจ็บปวดมากใช่หรือไม่ ถ้าท่านเจ็บปวดมากก็ร้องไห้ออกมาเถิดอย่าเก็บเอาไว้คนเดียวเลย” เย่วซินเอ่ยพร้อมใช้มือเล็กลูบแผ่นหลังบิดาอย่างปลอบประโลม

“เหม่ยเอ๋อร์นางไม่อยู่รอข้าแล้วใช่หรือไม่ ข้าผิดสัญญาที่ให้ไว้กับนางข้าผิดเอง” หานเสวี่ยถังเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาไหลเอ่อ เขาจดจำได้ทุกอย่างแล้วรวมถึงเรื่องที่จิ่นจ้งเอ่ยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ สตรีที่เขารักและให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาหานาง แต่ยามนี้นางไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว หานเสวี่ยถังเจ็บปวดใจเป็นอย่างมากจนกระอักเลือดออกมา

“ท่านพ่อ!!” เย่วซินตกใจที่จู่บิดาก็ไอมาเมื่อมองดูจึงรู้ว่าบิดากระอักเลือดออกมาคำโต รีบประคองบิดาของตนไปนอนยังเตียง ตอนนี้ท่านอาการไม่สู้ดีคงเพราะหัวใจสลายเย่วซินรีบหยิบเข็มเงินออกมาจากแหวนมิติ จากนั้นก็เร่งฝังเข็มตามจุดต่างๆทันที

ภายในร่างกายของท่านยามนี้แปรปรวนมาก ต้องรีบทำให้ทุกอย่างเข้าที่ไม่เช่นนั้นธาตุไปเข้าแทรกไม่ใช่เรื่องดี เย่วซินทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวังเสร็จเรียบร้อยก็ดึงเข้มเงินออกมา

“พวกเจ้าคงโกรธและเกลียดพ่อมากใช่หรือไม่” หานเสวี่ยถังเอ่ยถามบุตรสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาจากไปโดยไม่ได้บอกความจริงอะไรเลยสักอย่าง นางคงคิดว่าเขาทอดทิ้งนางเป็นแน่

“ข้ายอมรับว่าตอนนั้นข้าโกรธท่านมากที่ทอดทิ้งท่านแม่ไป แต่นั่นเป็นเพราะพวกข้าไม่รู้ว่าท่านพ่อเองก็เจ็บปวดมากเช่นกัน ท่านพ่อไม่ได้อยากทอดทิ้งพวกเรา แต่เป็นเพราะคนพวกนั้นที่กักขังท่านพ่อเอาไว้” เย่วซินเอ่ยบอกอย่างใจเย็น

“แม่ของเจ้าจากไปทั้งๆที่เข้าใจพ่อผิด นางคงเจ็บปวดใจมากเป็นแน่” หานเสวี่ยถังเอ่ย

“ท่านแม่ต้องเข้าใจท่านพ่อเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพ่อพักผ่อนก่อนนะเจ้าคะอย่าเพิ่งคิดมากตื่นขึ้นมาเราค่อยพูดคุยกัน ท่านยังมีบุตรสาวอีกสองคนที่เป็นตัวแทนความรักของท่านแม่ท่านต้องเข้มแข็งนะเจ้าคะจะได้ดูแลพวกนางได้ อย่าให้ท่านแม่ต้องผิดหวังนะเจ้าคะ” เย่วซินเอ่ยบอกพลางข่มขู่เพื่อไม่ให้คนบิดาท้อแท้ใจขึ้นมาอีก

หานเสวี่ยถังเมื่อได้ยินบุตรสาวเอ่ยเช่นนั้นก็พลันมีกำลังใจขึ้นมา สตรีที่เขารักมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดมาให้เขาดูแล เขาจะทำให้นางผิดหวังไม่ได้อีกเด็ดขาด เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็พลันพยักหน้าตอบรับยอมหลับตาพักผ่อนแต่โดยดี

เย่วซินถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่เกลี้ยกล่อมให้บิดายอมสงบใจลงได้ ถ้าเขาหัวใจสลายลงไปอีกเกรงว่าชีวิตนี้อาจจะยื้อเอาไว้อยาก หรืออาจยื้อเอาไว้ได้แต่ก็แค่ร่างกายเพียงเท่านั้น จิตใจของเขาแตกสลายและไม่อยากอยู่บนโลกนี้อีกแล้ว

“นายท่านเป็นอย่างไรบ้างขอรับคุณหนู” ซานจิ่นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“ตอนนี้ท่านปลอดภัยแล้วเจ้าค่ะ แต่ท่านซานจิ่นคอยเฝ้าท่านพ่อเอาไว้ก่อนนะเจ้าคะถ้าตื่นเมื่อไรไปตามข้าด้วย” เย่วซินเอ่ยบอก

“ได้ขอรับคุณหนู” ซานจิ่นเอ่ยรับคำ

“อาหารพร้อมแล้วเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ยบอกก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้ามาด้านในเสียอีก เมื่อก้าวเท้าเข้ามาก็เห็นท่านประมุขนั่งอยู่ที่เดิมเย่วซินวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ

จ้าวไท่เหว่ยมองจานอาหารบนโต๊ะว่ามันมีสีสันแปลกตาก็เอ่ยถาม “อาหารจานนี้เรียกว่าอะไรหรือ?”

“ข้าวผัดกุ้งเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ยตอบ

“แล้วเหตุใดมันจึงเป็นสีทองแปลกตาเช่นนี้” จ้าวไท่เหว่ยสงสัยจึงเอ่ยถามเพราะตนเองก็เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก

“ข้าวสวยผัดกับไข่เจ้าค่ะ ท่านลองชิมดูแล้วจะติดใจ” เย่วซินเอ่ยพร้อมเชิญชวนให้คนร่างสูงลองชิมอาหารตรงหน้า

จ้าวไท่เหว่ยลองตักข้าวเข้าปากก็พบว่ามันอร่อยลงตัวยิ่งนักจึงเอ่ยชมออกไป “ข้าวผัดจานนี้อร่อยยิ่งนัก”

“แน่นอนอยู่แล้วเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ยพร้อมหันมายังจานข้าวของตัวเอง

 เย่วซินบีบมะนาวที่เตรียมมาลงบนจานข้าวจากนั้นก็ใช้ช้อนตักพริกขี้หนูที่หั่นซอยลงในถ้วยน้ำปลามาราดข้าวอีก จ้าวไท่เหว่ยสังเกตทุกการกระทำของร่างเล็กจึงเอ่ยถาม

“เจ้าบีบมะนาวลงไปด้วยหรือ?แล้วยังพริกแดงอีกเจ้าไม่เผ็ดหรืออย่างไร”

“กินแบบนี้มันจะได้รสชาติที่แตกต่างจากจานของท่าน ไม่เชื่อก็ลองชิมดูเจ้าคะ” เย่วซินคลุกเคล้าข้าวในจานให้เข้ากันแล้วตักใส่ช้อนส่งให้ประมุขจ้าวได้ลองชิม

จ้าวไท่เหว่ยเมื่อร่างเล็กยื่นช้อนข้าวมาก็อ้าปากให้นางป้อนเสียเลย เย่วซินก็คร้านจะใส่ใจป้อนข้าวใส่ปากทันที จ้าวไท่เหว่ยเมื่อข้าวเข้าปากก็รับรู้ถึงรสชาติที่แตกต่างกันอย่างที่นางบอกเอาไว้จริงๆ แต่…

“เจ้าแกล้งข้าหรือ?” จ้าวไท่เหว่ยโวยวายขึ้นมาเมื่อเคี้ยวโดนพริกเข้าอย่างจังจนเขาต้องรีบดื่มน้ำชาเพื่อดับความเผ็ดร้อน

เย่วซินไหวไหล่ทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วก้มหน้ากินข้าวของตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย จ้าวไท่เหว่ยคาดโทษคนตัวเล็กเอาไว้ในใจอย่างเข่นเขี้ยว…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน