คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 91

สรุปบท บทที่ 91 เยี่ยมเยียนพี่ชาย: คู่แฝดคู่ป่วน

อ่านสรุป บทที่ 91 เยี่ยมเยียนพี่ชาย จาก คู่แฝดคู่ป่วน โดย ไป๋หลัน

บทที่ บทที่ 91 เยี่ยมเยียนพี่ชาย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ คู่แฝดคู่ป่วน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ไป๋หลัน อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ห้องทำงานของเย่วเทียนตอนนี้มีน้องชายนั่งอยู่ด้วยไม่ยอมห่าง เขาจึงต้องเอ่ยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้องชายฟังอย่างละเอียด

“พวกนางคือองค์หญิงเช่นนั้นหรือ?” เย่วฉีเอ่ยเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

“จะพูดเช่นนั้นก็ได้” เยว่เทียนเอ่ย

“เรียนคุณชาย” เสียงของคนคุ้มกันที่เย่วเทียนสั่งให้คอยคุ้มกันรอบจวนเอ่ย

“มีเรื่องอันใดหรือ?” เย่วเทียนเอ่ยถาม

“มีคนมาสอดแนมที่จวนขอรับ ข้าน้อยจับมันมาได้หนึ่งคนแต่มันชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน ก่อนที่จะได้เค้นเอาความจริงขอรับ” คนคุ้มกันจวนเอ่ยรายงาน

“แล้วพอจะสืบอะไรจากตัวมันได้หรือไม่” เย่วฉีเอ่ยถามขึ้น

“ข้าน้อยทราบเพียงว่าเป็นจากแคว้นหานขอรับ”

“แคว้นหานหรือ? หรือว่าพวกมัน...” เย่วฉีเอ่ยขึ้นเพียงเท่านั้นแล้วเงียบไป

“ขอบใจเจ้ามาก คอยตรวจตราดูให้ดีถ้ามีผู้ใดน่าสงสัยให้รีบรายงานทันที” เย่วเทียนเอ่ยสั่งคนคุ้มกันจวน

“ขอรับ” เอ่ยจบเงาคุ้มกันก็หายวับไปทันที

“พี่ใหญ่คิดว่าคนของแคว้นหานมาสืบความเรื่องใดหรือ?” เย่วฉีเอ่ยถามความคิดเห็นของพี่ชาย

“พวกมันเจาะจงมาสืบข่าวที่จวนของเราไม่แน่ว่าพวกมันกำลังสงสัยบางอย่าง” เย่วเทียนเอ่ยพลางคิดเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นภายในหัว

“หรือว่าจะเป็นเรื่องของซินเอ๋อร์และอิงเอ๋อร์หรือ?” เย่วฉีเอ่ย

เย่วเทียนพยักหน้าตอบรับแล้วเอ่ย “อดีตองค์รัชทายาทหานเสวี่ยถังถูกช่วยเหลือออกมา คนพวกนั้นย่อมติดตามสืบหาว่าเป็นผู้ใดที่เข้าช่วยเหลือ พวกมันอาจสืบหาจนมารู้เรื่องของพวกนางก็เป็นได้ เพราะเมื่อหลายเดือนก่อนที่เกิดเหตุไฟไหม้เรือนท้ายจวนของแม่ทัพซู ทำให้อิงเอ๋อร์และเสี่ยวชิงที่อาศัยอยู่ถูกกล่าวถึง พวกมันคงกำลังตามสืบเรื่องนี้อยู่ก็เป็นได้”

“พวกนางก็ตกอยู่ในอันตรายหรือขอรับพี่ใหญ่” เย่วฉีเอยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เพิ่งจะผ่านเรื่องร้ายมาเมื่อไม่นานนี้เองก็เกิดเรื่องใหม่ขึ้นอีก ชีวิตของพวกนางช่างรันทดยิ่งนัก

“ข้าว่าน่าจะเป็นอิงเอ๋อร์คนเดียวที่ตกอยู่ในอันตราย เพราะข่าวที่ท่านปู่รับหลานสาวบุญธรรมนั้นเมื่อไม่นานมานี้ พวกมันคงสืบเสาะจนได้รู้ความจริงแล้วถึงได้ส่งคนมาถึงจวนเรา ส่วนซินเอ๋อร์คงไม่ใช่เป้าหมายพวกมันในช่วงนี้ เพราะพวกมันคงยังไม่รู้ว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝดกันและที่ผ่านมาอิงเอ๋อร์ก็ทาใบหน้าดำมาโดยตลอด” เย่วเทียนเอ่ยคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับเรื่องราวของน้องสาวบุญธรรม

“จริงอย่างที่พี่ใหญ่เอ่ย ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกันโดยสายเลือด ผู้คนเข้าใจว่าพวกนางต่างเป็นพี่น้องบุญธรรมคนละสายเลือดที่ต่างถูกรับมาเลี้ยงเพียงเท่านั้น” เย่วฉีคิดตามที่พี่ชายเอ่ยก็พบว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง

“คนพวกนั้นคงตามเฝ้าดูอิงเอ๋อร์ที่มีใบหน้าดำ แต่หลายวันมานี้อิงเอ๋อร์ไม่ได้ทาใบหน้าดำแล้วพวกมันคงหานางไม่พบ” เย่วเทียนยังเอยคาดเดาเหตุการณ์ไปเรื่อย

“จริงของพี่ใหญ่ ท่านคิดได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก” เย่วฉีเอ่ยชื่นชมพี่ชายที่มีความคิดหลักแหลม คาดเดาเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำเหมาะสมแล้วกับตำแหน่งกุนซือ

“เจ้าเอ่ยชมเกินไปมันคือการคาดเดาเพียงเท่านั้นตื้นลึกเพียงใดข้าไม่อาจรับรู้ได้” เย่วเทียนเอ่ย ตนเพียงคาดเดาเท่านั้น ความจริงเป็นเช่นไรเขาไม่อาจรับรู้

“เจ้ามาได้อย่างไรเฟยเอ๋อร์แล้วมาผู้เดียวหรือ?” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยถามน้องสาว

“เปล่า...ข้ามากับพี่ลู่ซือ” เอ่ยบอกพลางหันไปทางประตูห้อง ตนรีบเดินนำหน้ามาหาพี่ชายก่อนส่วนพี่ลู่ซือเดินตามมาด้านหลัง เอ่ยจบร่างบางระหงของพี่ลู่ซือก็มายืนตรงหน้าประตูพอดิบพอดี

“คาราวะเจ้าค่ะพี่ไท่เหว่ย” กวนลู่ซือเอ่ยพลางย่อกายด้วยท่วงหน้างดงาม วันนี้นางแต่งกายด้วยอาภรณ์สีชมพูอ่อนทำให้ดูอ่อนหวานน่ารัก หวังดึงดูดสายตาจากอดีตคนรักให้เขาสนใจอีกครั้ง

จ้าวไท่เหว่ยไม่ตอบเพียงพยักหน้ารับแล้วหันไปจ้องสายตากับผู้เป็นน้องสาวสื่อสายตากันจ้าวไท่เหว่ยสื่อสารกันว่า เจ้าพานางมาทำไม?

ทางด้านจ้าวไท่เฟยจึงสื่อสารกับผู้เป็นพี่ชายด้วยสายตากลับไปว่า ไม่รู้ไม่ชี้ แล้วไหวไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจจากนั้นจึงเอ่ยว่า “พี่ลู่ซือมาเยี่ยมพี่ใหญ่เจ้าค่ะ”

“พี่ไท่เหว่ยสบายดีนะเจ้าคะข้าตุ๋นไก่ดำสมุนไพรมาให้ท่านด้วย” ลู่ซือเอ่ยพลางเดินมายังโต๊ะที่อดีตคนรักนั่งอยู่แล้ววางกล่องอาหารที่ตนเตรียมมาตรงหน้า

“ไม่เห็นต้องลำบากเลยที่นี่ก็มีอาหารมากมาย” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกร่างบางตรงหน้า เขามีคนที่คอยทำอาหารให้กินอยู่ทุกมื้อและยังอร่อยมากอีกด้วย

“ข้าไม่ลำบากเลยสักนิด ข้ารู้มาว่าที่พรรคอินทรีย์ไม่มีสาวใช้และแม่ครัวคอยดูแลรับใช้จึงกลัวว่าพี่ไท่เหว่ยจะกินอาหารได้น้อยลงเจ้าค่ะ” กวนลู่ซือเอ่ยพลางส่งยิ้มหวานไปให้หวังให้อดีตคนรักหลงใหลอีกครั้ง จ้าวไท่เหว่ยชอบสตรีอ่อนหวานเช่นนาง…

จ้าวไท่เฟยได้ยินสตรีตรงหน้าเอ่ยคำหวานหยอดผู้เป็นพี่ชายก็ไม่อยากอยู่เป็นตัวขัดจึงเอ่ยบอกทั้งสอง “ข้าจะนำอาหารไปอุ่นมาให้พี่ใหญ่จะได้กินร้อนๆ” เอ่ยจบก็หยิบอาหารแล้วเดินออกจากห้องไปทันที

จ้าวไท่เฟยเดินมายังห้องครัวแต่เมื่อเดินเข้ามาใกล้จมูกกน้อยของนางก็ได้กลิ่นอาหารที่หอมยั่วน้ำลายเป็นอย่างมาก จึงรีบเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้นเพื่อเดินมาดูว่าพ่อครัวทำอาหารชนิดใดอยู่ เมื่อมาถึงก็เห็นสตรีร่างเล็กยืนหันหลังทำอาหารอยู่หน้าเตา จ้าวไท่เฟยคิดในใจอย่างสงสัยพรรคอินทรีย์ไม่หลงเหลือสตรีอยู่สักคนเดียวแล้วนาวคือผู้ใดกัน หรือว่าจะเป็นสาวใช้คนใหม่...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน