ห้องทำงานของเย่วเทียนตอนนี้มีน้องชายนั่งอยู่ด้วยไม่ยอมห่าง เขาจึงต้องเอ่ยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้องชายฟังอย่างละเอียด
“พวกนางคือองค์หญิงเช่นนั้นหรือ?” เย่วฉีเอ่ยเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
“จะพูดเช่นนั้นก็ได้” เยว่เทียนเอ่ย
“เรียนคุณชาย” เสียงของคนคุ้มกันที่เย่วเทียนสั่งให้คอยคุ้มกันรอบจวนเอ่ย
“มีเรื่องอันใดหรือ?” เย่วเทียนเอ่ยถาม
“มีคนมาสอดแนมที่จวนขอรับ ข้าน้อยจับมันมาได้หนึ่งคนแต่มันชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน ก่อนที่จะได้เค้นเอาความจริงขอรับ” คนคุ้มกันจวนเอ่ยรายงาน
“แล้วพอจะสืบอะไรจากตัวมันได้หรือไม่” เย่วฉีเอ่ยถามขึ้น
“ข้าน้อยทราบเพียงว่าเป็นจากแคว้นหานขอรับ”
“แคว้นหานหรือ? หรือว่าพวกมัน...” เย่วฉีเอ่ยขึ้นเพียงเท่านั้นแล้วเงียบไป
“ขอบใจเจ้ามาก คอยตรวจตราดูให้ดีถ้ามีผู้ใดน่าสงสัยให้รีบรายงานทันที” เย่วเทียนเอ่ยสั่งคนคุ้มกันจวน
“ขอรับ” เอ่ยจบเงาคุ้มกันก็หายวับไปทันที
“พี่ใหญ่คิดว่าคนของแคว้นหานมาสืบความเรื่องใดหรือ?” เย่วฉีเอ่ยถามความคิดเห็นของพี่ชาย
“พวกมันเจาะจงมาสืบข่าวที่จวนของเราไม่แน่ว่าพวกมันกำลังสงสัยบางอย่าง” เย่วเทียนเอ่ยพลางคิดเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นภายในหัว
“หรือว่าจะเป็นเรื่องของซินเอ๋อร์และอิงเอ๋อร์หรือ?” เย่วฉีเอ่ย
เย่วเทียนพยักหน้าตอบรับแล้วเอ่ย “อดีตองค์รัชทายาทหานเสวี่ยถังถูกช่วยเหลือออกมา คนพวกนั้นย่อมติดตามสืบหาว่าเป็นผู้ใดที่เข้าช่วยเหลือ พวกมันอาจสืบหาจนมารู้เรื่องของพวกนางก็เป็นได้ เพราะเมื่อหลายเดือนก่อนที่เกิดเหตุไฟไหม้เรือนท้ายจวนของแม่ทัพซู ทำให้อิงเอ๋อร์และเสี่ยวชิงที่อาศัยอยู่ถูกกล่าวถึง พวกมันคงกำลังตามสืบเรื่องนี้อยู่ก็เป็นได้”
“พวกนางก็ตกอยู่ในอันตรายหรือขอรับพี่ใหญ่” เย่วฉีเอยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เพิ่งจะผ่านเรื่องร้ายมาเมื่อไม่นานนี้เองก็เกิดเรื่องใหม่ขึ้นอีก ชีวิตของพวกนางช่างรันทดยิ่งนัก
“ข้าว่าน่าจะเป็นอิงเอ๋อร์คนเดียวที่ตกอยู่ในอันตราย เพราะข่าวที่ท่านปู่รับหลานสาวบุญธรรมนั้นเมื่อไม่นานมานี้ พวกมันคงสืบเสาะจนได้รู้ความจริงแล้วถึงได้ส่งคนมาถึงจวนเรา ส่วนซินเอ๋อร์คงไม่ใช่เป้าหมายพวกมันในช่วงนี้ เพราะพวกมันคงยังไม่รู้ว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝดกันและที่ผ่านมาอิงเอ๋อร์ก็ทาใบหน้าดำมาโดยตลอด” เย่วเทียนเอ่ยคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับเรื่องราวของน้องสาวบุญธรรม
“จริงอย่างที่พี่ใหญ่เอ่ย ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกันโดยสายเลือด ผู้คนเข้าใจว่าพวกนางต่างเป็นพี่น้องบุญธรรมคนละสายเลือดที่ต่างถูกรับมาเลี้ยงเพียงเท่านั้น” เย่วฉีคิดตามที่พี่ชายเอ่ยก็พบว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง
“คนพวกนั้นคงตามเฝ้าดูอิงเอ๋อร์ที่มีใบหน้าดำ แต่หลายวันมานี้อิงเอ๋อร์ไม่ได้ทาใบหน้าดำแล้วพวกมันคงหานางไม่พบ” เย่วเทียนยังเอยคาดเดาเหตุการณ์ไปเรื่อย
“จริงของพี่ใหญ่ ท่านคิดได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก” เย่วฉีเอ่ยชื่นชมพี่ชายที่มีความคิดหลักแหลม คาดเดาเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำเหมาะสมแล้วกับตำแหน่งกุนซือ
“เจ้าเอ่ยชมเกินไปมันคือการคาดเดาเพียงเท่านั้นตื้นลึกเพียงใดข้าไม่อาจรับรู้ได้” เย่วเทียนเอ่ย ตนเพียงคาดเดาเท่านั้น ความจริงเป็นเช่นไรเขาไม่อาจรับรู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน
รอนะคะ อัพต่อหน่อยค่า...