คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 93

“กลับหุบเขาร้อยเล่ห์กับข้าแล้วข้าจะหายโกรธท่าน” จ้าวไท่เฟยเอ่ยเมื่อมีโอกาสที่จะพาพี่ชายของตนเองกลับไปหาบิดา มารดาและท่านปู่ เพราะพี่ชายผู้รักสันโดษผู้นี้ไม่ค่อยได้กลับไปเยี่ยมพวกท่านเลย

“เรื่องนี้ข้าไม่รับปากเพราะงานที่พรรคกำลังยุ่ง” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ย จะให้เขากลับไปได้อย่างไรตอนนี้งานที่สุมเอาในช่วงที่เขาไปยังหมู่บ้านหลังเขานั้นมากมายจนทำแทบไม่ทันอยู่แล้ว ไหนจะเรื่องสินค้าตัวใหม่ที่กำลังทดลองทำกับเย่วซินอีก

“เช่นนั้นข้าก็ยังไม่กลับเขาร้อยเล่ห์เช่นกัน” จ้าวไท่เฟยเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เย่วซินเมื่อได้ฟังสองพี่น้องพูดคุยกันจึงคิดว่าพวกเขาคงยังตกลงกันไม่เสร็จสิ้นในเวลาอันรวดเร็วเป็นแน่จึงเอ่ยขัดขึ้นเพราะบิดาของตนคงกำลังรอกินข้าวมื้อเที่ยงอยู่

“เอ่อ...พวกท่านพูดคุยกันตามสบายเลยนะเจ้าคะข้าขอตัวก่อน”

“เจ้าจะไปที่ใดหรือ?” จ้าวไท่เฟยเมื่อได้ยินเย่วซินเอ่ยเช่นนั้นจึงรีบถามออกไปทันที

“นางจะไปที่ใดเกี่ยวอันใดกับเจ้าหรือ?” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยดุน้องสาวที่ชอบวุ่นวายได้ทุกเรื่อง

“พี่ใหญ่ข้าแค่อยากรู้”

“นางจะไปดูแลคนป่วยที่เรือนพักด้านข้าง” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยตอบน้องสาวแทนเย่วซิน และกำลังสื่อให้นางเข้าใจเรื่องของบิดาว่าไม่ควรเปิดเผยเรื่องนี้กับผู้อื่นถึงแม้ผู้อื่นที่ว่าจะเป็นน้องสาวของเขาก็ตามและยังจะมีลู่ซือที่อยู่ที่นี่อีกคน

เย่วซินที่ได้ยินประมุขจ้าวเอ่ยเช่นนั้นก็พลันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าไม่ควรเอ่ยเรื่องบิดากับผู้ใดยังดีที่ตนยังไม่ได้เผลอตอบจ้าวไท่เฟยไปไม่เช่นนั้นนางคงต้องซักไซร้ต่อไม่จบเรื่องง่ายๆเป็นแน่ และไหนยังจะมีลู่ซือที่ยืนอยู่ตรงนี้

“ใช่แล้วคนป่วยรอกินข้าวกินยาพวกท่านตามสบายเลยข้าขอตัวก่อน” เอ่ยจบเย่วซินก็รีบยกถาดอาหารแล้วเดินออกไปทันที เพราะดูแล้วน้องสาวของประมุขจ้าวคงยังมีเรื่องต้องซักไซร้ต่ออีกเป็นแน่

“พี่ชายคนป่วยเป็นใครหรือทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่แล้วข้ารู้จักเขาหรือไม่” จ้าวไท่เฟยเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

“คนสำคัญที่เจ้าไม่รู้จัก” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยเพียงเท่านั้นเพื่อไม่ให้น้องสาวซักไซร้แล้วเอ่ยบอกนางต่อ “ยกถาดอาหารมาให้ข้าด้วยถ้าเจ้าอยากกินข้าวที่เย่วซินทำก็ตักเอาเองที่นี่ไม่มีสาวใช้” เอ่ยจบก็เดินออกไปจากห้องครัวทันที

“พี่ลู่ซือลองกินอาหารที่เย่วซินทำหรือไม่เจ้าคะข้าจะได้ตักให้” ไท่เฟยเอ่ยถามพี่สาวที่ไม่ใช่สายเลือดแต่ก็คุ้นเคยและสนิทสนมกันมากเพราะเห็นกันมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย

“ข้าจะยกอาหารที่เตรียมมาเอาไปให้พี่ไท่เหว่ยกินเจ้าอยากกินอาหารของเย่วซินก็ตักมากินเองเถิด” ลู่ซือเอ่ยบอกไท่เฟยแล้วจัดแจงเทอาหารที่เตรียมใส่ถ้วยแล้วเดินออกไปทันที

“เหตุใดตาของเจ้าถึงได้บวมซ้ำเช่นนี้ผู้ใดทำให้เจ้าเสียใจหรือ?” หานเสวี่ยถังเอ่ยถามบุตรสาว เขาเห็นนางเดินเข้ามาก็ต้องตกใจดวงตาและรอบตาของนางแดงจนเห็นได้ชัดเจนเพราะมันตัดกับผิวหน้าที่ขาวนวลเนียนนั้น

“ข้าไม่ได้เสียใจร้องไห้จนตาบวมเจ้าค่ะท่านพ่อ แต่ข้าโดนหัวหอมทำร้ายตอนที่กำลังหั่นมัน” เย่วซินเอ่ยแต่ไม่ได้บอกความจริงไปทั้งหมด

“เจ้านี่นะคราวหน้าก็ระวังตัวหน่อยอย่าให้โดนอีกเห็นไหมว่าตาบวมซ้ำไปหมดแล้ว” เอ่ยพลางเอื้อมมือหนาอันมีริ้วรอยตามวัยขึ้นเกลี่ยบริเวณที่บวมซ้ำบนใบหน้าของบุตรสาวแผ่วเบา

หานเสวี่ยถังดวงตาแดงกล่ำเพราะสกัดกลั้นน้ำตาของตนเองไม่ให้ไหลออกมา เขาเพิ่งเคยสัมผัสผิวของบุตรสาวเป็นครั้งแรก ผิวของนางช่างบอบบางละเอียดอ่อนยิ่งนักพลันนึกไปถึงยามที่นางยังอ่อนวัยผิวของนางจะบองบางขนาดไหนกันและนั่นเป็นสิ่งที่เขาอยากรู้และไม่มีวันได้รับรู้

หานเสวี่ยถังยิ่งคิดพลางให้ยิ่งเสียใจที่ตนเองไม่มีโอกาสได้เฝ้ามองบุตรสาวทั้งสองเติบโตขึ้นและไม่มีโอกาสได้อุ้มชูและดูแลยามที่พวกนางเจ็บป่วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน