บทที่ 97 โดนพิษอ่อนแรง – ตอนที่ต้องอ่านของ คู่แฝดคู่ป่วน
ตอนนี้ของ คู่แฝดคู่ป่วน โดย ไป๋หลัน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 97 โดนพิษอ่อนแรง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลังจากเลือกซื้อของกันอยุ่นานนับชั่วยามจ้าวไท่เฟยก็ใช้วิชาตัวเบาเดินทางออกจากหมู่บ้าน แต่เพียงออกมาได้ไม่นานก็มีชายชุดดำรูปร่างสูงใหญ่มาวางหน้านางเอาไว้ จ้าวไท่เฟยชะงักเท้าดีดตัวลงสู่พื้นดินอย่างระแวดระวัง
“พวกเจ้าต้องการอะไรจากข้า” จ้าวไท่เฟยเอ่ยถามถึงจุดประสงค์ของคนร้ายที่ติดตามนางมาในครั้งนี้อย่างใจเย็น
“ต้องการตัวเจ้า!!” เสียงของชายชุดดำเอ่ยถึงจุดประสงค์ของตน หลังจากที่พวกมันเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของคนในพรรคอินทรีย์อยู่ห่าง ๆ มานานหลายวัน จึงรู้ว่าสตรีผู้นี้คือน้องสาวของประมุขจ้าวไท่เหว่ย ตนจึงให้คนกลับไปรายงานผู้เป็นนายเหนือหัวของตนและได้รับคำสั่งกลับมาว่าให้จับเป็นน้องสาวของประมุขจ้าวเพื่อต่อรองกับบางอย่างที่ผู้เป็นนายต้องการ
“เห็นทีจะไม่ได้กระมัง” จ้าวไท่เฟยเอ่ยด้วยสีหน้ายียวน
“ก็ลองดูว่าจะได้หรือไม่” เอ่ยจบชายชุดดำสองคนก็พุ่งเข้าใส่ร่างบางของหญิงสาว เงาผู้ติดตามของจ้าวไท่เฟยออกมาปกป้องผู้เป็นนายในทันทีพร้อมเอ่ยบอก
“คุณหนูรีบหนีกลับพรรคไปก่อนทางนี้ข้าน้อยจะจัดการเอง” เสียงเงาผู้ติดตามเอ่ยบอกผู้เป็นนาย คนร้ายเพียงแค่สองคนไม่คนามือของตนไปได้และด้วยความว่องไวของคุณหนูจ้าวแล้วย่อมเดินทางกลับพรรคได้โดยที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน
จ้าวไท่เฟยรีบทำตามที่ผู้ติดตามเอ่ยบอกทันทีโดยไม่คิดโต้แย้ง นางดีดตัวออกมาแต่เพียงออกมาไม่นานก็เจอกับชายชุดดำอีกหลายจำนวนดักรออยู่ จ้าวไท่เฟยจึงฉุกคิดขึ้นมาได้ว่ามันคงเป็นกับดักที่คนพวกนี้ได้เตรียมวางแผนกันมาแล้ว
“เจ้าหนีไม่รอดหรอกไปกับพวกเราเสียดี ๆ เถิดจะได้ไม่เจ็บตัว” เสียงของชายชุดดำคนหนึ่งเอ่ยบอกหญิงสาวร่างบางตรงหน้า
“ถ้าข้ายอมให้จับง่าย ๆ พวกเจ้าจะสบายเกินไปนะสิอย่างน้อยพวกเจ้าควรได้ออกแรงกันบ้าง” จ้าวไท่เฟยเอ่ยแล้วรีบพุ่งตัวหนีไปอีกทางทันที
จ้าวไท่เฟยดีดตัวออกมาด้วยความเร็วโดยที่คนร้ายติดตามมาในระยะที่ไม่ห่างกันมากนักแต่พวกมันไม่สามารถมาดักหน้าหรือล้อมตัวของนางเอาไว้ได้ แต่จู่ ๆ ก็มีวัตถุบางอย่างแหวกอากาศมาด้วยความเร็วปักลงที่ด้านหลังจนทำให้จ้าวไท่เฟยเสียหลักร่วงลงมาสู่พื้นดินด้านล่างทันที
จ้าวไท่เฟยรู้สึกเจ็บแปลบที่ด้านหลังเมื่อเอามือสัมผัสก็พบว่ามันคือลูกธนูและพวกมันเป็นถึงพรรคอสรพิษอาวุธของพวกมันย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้วเพราะมันเคลือบยาพิษอยู่ด้วย จ้าวไท่เฟยยังไม่ยอมแพ้เร่งใช้วิชาตัวเบาของตนหลบหนีอำพรางตัวในป่าใหญ่ที่มีแมกไม้รกทึบ
ชายชุดดำราวสิบคนรีบกระจายตัวออกค้นหาหญิงสาวผู้เป็นเป้าหมายทันทีเพราะรู้ว่านางคงหนีไปได้ไม่ไกลนัก ด้วยพิษที่ทำให้ร่างกายค่อย ๆ อ่อนแรงลงไปจนไม่สามารถขยับตัวจนกว่าจะได้รับยาถอนพิษและยาถอนพิษนั้นย่อมเป็นพรรคอสรพิษเท่านั้นที่จะมีมัน
จ้าวไท่เฟยเริ่มอ่อนกำลังลงนางก้าวเท้าเริ่มช้าลงสายตาสอดส่ายเตรียมหาที่กำบังปลอดภัยสำหรับหลบซ่อนตัว พลันสายตาเหลือบไปเห็นซอกระหว่างโขดหินที่มีช่องว่างเล็ก ๆ และมีหญ้าขึ้นปกคลุมหนาแน่น
จ้าวไท่เฟยรีบพยุงร่ายกายที่เริ่มอ่อนกำลังจนเกือบจะขยับไม่ได้เข้าหลบซ่อนตัวยังซอกหินทันทีเมื่อเข้ามาได้นางก็ไม่สามารถขยับร่างกายได้อีกทำได้เพียงภาวนาอยู่ในใจว่าพวกมันคงจะไม่เห็นนาง…
ทางด้านพรรคอินทรีย์ตอนนี้เย่วซินและประมุขจ้าวเดินออกมาจากเรือนพักด้วยท่าทางอิดโรยอ่อนแรงโดยเฉพาะประมุขจ้าวที่ตอนนี้ดูใบหน้าซีดเซียวเพราะเขาใช้พลังปราณของตัวเองไปมากในการรักษาครั้งนี้
“คุณหนู ท่านประมุข เป็นอย่างไรบ้างขอรับ” ซานจิ่นเอ่ยถามผู้เป็นนายทันทีที่เห็นทั้งสองเปิดประตูเรือนพักออกมา
“ท่านปลอดภัยแล้วเจ้าค่ะตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ ท่านเกาซูหลางฝากนำยาห่อนี้ไปต้มเอาให้ท่านดื่มตอนตื่นขึ้นมาด้วยนะเจ้าคะ” เย่วซินเอ่ยบอกซานจิ่นแล้วหันไปหาเกาซูหลางส่งให้ยาให้เขานำไปต้มเพื่อให้บิดาได้ดื่มยามตื่นนอน
“พี่ไท่เหว่ยเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะเหตุใดจึงใบหน้าซีดเซียวเช่นนี้” กวนลู่ซือเอ่ยถามจ้าวไท่เหว่ยเมื่อเห็นว่าเขามีใบหน้าซีดเซียวผิดปกติ
“ข้าไม่เป็นไร” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยเพียงสั้น ๆ
“ไม่เป็นไรได้อย่างไรเจ้าคะท่านต้องนอนพักผ่อนข้าจะต้มยาบำรุงให้ท่านดื่มด้วย” เย่วซินเอ่ยบอกคนร่างสูงที่ทำทีปากแข็งทั้งที่ร่างกายอ่อนล้าอย่างมาก
“เช่นนั้นข้าจะพาพี่ไท่เหว่ยกลับเรือนพักเองเจ้าก็ไปเตรียมยามาเถิด” ลู่ซือเอ่ยบอกเย่วซินแล้วรีบจูงมืออดีตคนรักไปอย่างไม่ต้องรอเอาคำตอบจากผู้ใด
จ้าวไท่เหว่ยไม่ได้เอ่ยสิ่งใดเพียงสะบัดมือออกจากการกอบกุมของลู่ซืออย่างแนบเนียนแล้วเดินกลับที่พักของตนทันที เมื่อถึงห้องของตนก็รีบเอ่ยบอกสตรีร่างบางที่คอยติดตามตนมา “เจ้าไม่ต้องเข้าไปหรอกเป็นสตรีจะเข้ามาในห้องนอนของบุรุษได้อย่างไร”
“หนิงฮ่องเต้ทรงพระราชทานหมั้นหมายคุณหนูเย่วซินกับองค์รัชทายาทหนิงหยางหลงขอรับ” จางฮั่นเอ่ยรายงงานทันทีที่ผู้เป็นนายเอ่ยถาม
“ฮ่า ๆ ๆ ช่างเป็นเรื่องที่น่าบันเทิงเสียจริง ๆ” เย่วซินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะชอบใจแทนที่จะตื่นตระหนกอย่างเช่นคนอื่นที่ได้รับรู้ตั้งแต่คราแรกทำให้ทั้งจางฮั่นสและจางฮ่าวอดสงสัยไม่ได้แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอันใดออกไป
“พวกท่านไปพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะข้าจะไปต้มยาให้ท่านประมุขจ้าวดื่มเสียหน่อย” เย่วซินเอ่ยบอกทั้งสองคนจากนั้นก็เดินเข้ามายังห้องครัวของเรือนใหญ่จัดการต้มยาบำรุงให้ประมุขจ้าวทันที และเตรียมอาหารมื้อเย็นเอาไว้ให้เขาและบิดาด้วยเช่นกัน
เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ล่วงเวลาไปเกือบหนึ่งชั่วยามตอนนี้เริ่มเย็นมากแล้วเย่วซินจึงจัดสำรับเอาไว้สองชุดของบิดาหนึ่งชุดและของประมุขจ้าวอีกหนึ่งชุด เย่วซินสั่งให้พ่อครัวยกอาหารของบิดาไปยังเรือนพักให้ซานจิ่นและเกาซูหลางเป็นผู้ดูแลยามที่ท่านตื่นนอน ส่วนตนเองนั้นก็เตรียมยกออกไปให้ประมุขจ้าวที่ห้องนอนของเขา
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาเดินออกไปร่างบางของกวนลู่ซือก็เข้ามาเสียก่อน
“อาหารพวกนี้ของพี่ไท่เหว่ยเช่นนั้นหรือ?” กวนลู่ซือเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้า
“ใช่แล้วข้ากำลังจะยกอาหารกับยาบำรุงไปให้ประมุขจ้าว” เย่วซินเอ่ยบอกกวนลู่ซือ
“เดี๋ยวข้ายกเอาไปให้พี่ไท่เหว่ยเอง” กวนลู่ซือเอ่ยพร้อมเอื้อมมือมาแย่งถาดอาหารจากมือของเย่วซินไปทันที จากนั้นจึงเอ่ยต่อ “เจ้าไปจัดการดูแลคนป่วยที่เรือนพักเถิดพี่ไท่เหว่ยข้าจะดูแลเขาเอง”
“ไม่ได้ข้าจะต้องไปดูแลประมุขจ้าวเองเพราะข้ารับปากเขาเอาไว้แล้ว” เย่วซินเอ่ยพร้อมเอื้อมมือไปแย่งถาดอาหารจากมือของลู่ซือแต่ลู่ซือกลับหลบหลีกเอาไว้ได้ทัน จากนั้นก็รีบเดินออกจากห้องครัวไป เย่วซินเดินตามไปติด ๆ เพราะไม่อยากให้กวนลู่ซืออยู่กับประมุขจ้าวเพียงลำพัง
‘นางไม่หึงหวงประมุขจ้าวหรอกนะแต่กลัวว่าเขาจะไม่ได้พักผ่อนเพราะโดนกวนลู่ซือรบกวนต่างหาก’
“แม่นางกวนคุณหนูจ้าวไท่เฟยกลับมาถึงพรรคหรือยังขอรับ” เงาผู้ติดตามเอ่ยถามตนเดินหาคุณหนูจ้าวมาจนทั่งแล้วยังเห็นนางเลยแม้แต่เงาตนกำลังจะเดินไปหาท่านประมุขจ้าวอยู่พอดีจะได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านประมุขได้รับทราบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน
รอนะคะ อัพต่อหน่อยค่า...