สรุปเนื้อหา บทที่ 99 ออกจากพรรคไปเดี๋ยวนี้ – คู่แฝดคู่ป่วน โดย ไป๋หลัน
บท บทที่ 99 ออกจากพรรคไปเดี๋ยวนี้ ของ คู่แฝดคู่ป่วน ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ไป๋หลัน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เย่วซินที่ออกตามหาจ้าวไท่เฟยอยู่ภายในเรือนใหญ่และเรือนพักด้านข้าง ส่วนตามสถานที่ด้านนอกเป็นเล่าลูกพรรคที่ช่วยกันออกตามหา เมื่อหาจนทั่วก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบตัวเย่วซินจึงออกมารอด้านหน้าเรือนใหญ่เพื่อรอฟังรายงานจากลูกพรรคคนอื่นอีก
“เรียนคุณหนูไม่พบเลยขอรับ” คนคุ้มกันของจ้าวไท่เฟยเอ่ย
“ทางด้านนั้นก็ไม่มีขอรับ” เสียงลูกพรรคที่ช่วยกันออกตามหาเอ่ยขึ้น
“ทางด้านนั้นก็ไม่มีเช่นกันขอรับ” ลูกพรรคอีกคนเอ่ยขึ้น
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปรายงานท่านประมุขพวกท่านรอข้าอยู่ที่นี่แล้วกัน” เย่วซินเอ่ยเรื่องนี้จะมัวรอรีไม่ได้จ้าวไท่เฟยหายตัวไปเช่นนี้คงไม่แคล้วเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรเสียนางย่อมต้องรายงานให้ประมุขจ้าวได้รับรู้เพราะเขาคือพี่ชายของนาง
เย่วซินเดินมายังห้องนอนของประมุขจ้าวเห็นเงาคนสนิทยืนอยู่ด้านนหน้าจึงรีบเอ่ย “ข้าจะเข้าไปหาท่านประมุขจ้าวเจ้าค่ะ”
“เชิญขอรับคุณหนู” ซานจงยอมเปิดประตูให้อย่างง่ายดายโดยไม่เอ่ยถามสิ่งใดออกมา
เย่วซินทันทีที่ประตูเปิดก็รีบเอ่ยเสียงนำหน้าก่อนที่ตัวนางจะเดินเข้ามาด้านในเสียอีก “ท่านประมุขข้ามีเรื่องด่วนจะแจ้งให้ซะ...ทราบ”
เย่วซินชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าสองร่างนั่งแนบชิดสนิทกัน ส่วนจ้าวไท่เหว่ยเมื่อได้ยินเสียงเรียกขานก็พลันสะดุ้งเล็กน้อยเหมือนคนที่กระทำความผิดแล้วรีบคลายมือออกจากร่างบางอย่างแนบเนียนที่สุด กวนลู่ซือนั้นเมื่อรู้ว่าเป็นผู้ใดก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาทันที
‘มาได้ถูกเวลาเสียจริง' กวนลู่ซือคิดในใจ
“เจ้าพรวดพราดเข้ามาเช่นนี้ได้อย่างไรไม่เห็นหรือว่าข้ากับพี่ไท่เหว่ยกำลังพูดคุยกันอยู่” กวนลู่ซือเอ่ยขึ้น
“ข้ามีเรื่องจะ...”
“พี่ไท่เหว่ยไล่นางออกไปเลยเจ้าค่ะขนาดข้านั่งอยู่ตรงนี้นางยังกล้ามาหาท่านได้” กวนลู่ซือไม่รอให้หมิงเย่วซินเอ่ยจบก็รีบเอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เจ้าพูดจาอะไรของเจ้ากันลู่ซือ” เย่วซินกำลังจะเอ่ยต่อว่ากวนลู่ซือที่พูดจาไม่รู้เรื่องแต่พลันได้ยินเสียงดังจากคนร่างสูงเอ่ยขึ้นเสียก่อน
“ออกไปเดี๋ยวนี้!!” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยเสียงเข้ม กวนลู่ซือยกยิ้มอย่างยินดีที่จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยไล่หมิงเย่วซินออกไป
“แต่ข้า...”
“ออกไป!!”
เย่วซินกำลังจะเอ่ยพูดต่อเสียงตวาดดังลั่นจากคนร่างสูงก็แผดดังออกมาอีกครั้งจนตนตกใจสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่เคยเห็นเขาทำหน้าตาขึงขังจริงเช่นนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่ที่พบกันตอนที่นางปลอมตัวเป็นบุรุษครานั้น
“พี่ไท่เหว่ยไล่แล้วยังไม่รีบออกไปอีก ไม่ใช่ออกไปจากห้องแค่นั้นนะพรุ่งนี้เจ้ารีบเดินทางออกจากพรรคอินทรีย์ไปด้วย” กวนลู่ซือเอ่ยย้ำคำของคนรักที่เห็นว่าร่างเล็กของหมิงเย่วซินยังไม่ยอมขยับไปไหน
เย่วซินพลันนึกน้อยใจอย่างประหลาดเหตุใดประมุขจ้าวถึงได้ไล่ตนออกไปเช่นนี้ พลันดวงตากลมโตคู่สวยยามนี้กลับเต็มไปด้วยน้ำใส ๆ พาให้ดูน่าสงสารยิ่งนัก เย่วซินคอตกหันหลังเตรียมก้าวเท้าเดินออกจากห้องในเมื่อเขาไล่แล้วนางจะอยู่ทำไมอีกเล่า...
“ซินเอ๋อร์เจ้าจะไปไหน คนที่ข้าบอกให้ออกไปคือแม่นางกวนต่างหาก” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกคนร่างเล็กพลางลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงแล้วก้าวเท้าเดินมายังคนร่างเล็กที่ยามนี้ดูช่างน่าสงสารยิ่งนัก
‘นี่เขาเล่นแรงเกินไปใช่หรือไม่ เขาทำให้นางร้องไห้เช่นนั้นหรือ?’
‘อันว่าความรักทำให้คนตาบอดคงจะเป็นเรื่องจริง จ้าวไท่เหว่ยคงลืมคิดไปว่านางสามารถฆ่าคนได้โดยที่ไม่ต้องออกแรงเสียด้วยซ้ำ’
“ท่านใจร้ายกับข้าเกินไปแล้ว!! แล้วท่านจะเสียใจที่ทำกับข้าเช่นนี้” กวนลู่ซือเอ่ยจบก็เดินออกจากห้องไปทันที
“ท่านประมุขท่านโดนนางวางยาอะไรหรือ? แล้วท่านไม่เป็นอะไรจริง ๆ หรือขอข้าตรวจดูหน่อยเถิดเจ้าค่ะ” เมื่อกวนลู่ซือออกไปแล้วเย่วซินจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะตนยืนฟังอยู่ตั้งนานแล้วยังไม่สามารถจับใจความได้ว่าเขาโดนยาพิษอะไร
“นางวางยาที่ทำให้ข้าหลงใหลนางตอนแรกข้าก็มีอาการอยู่บ้างแต่เพียงครู่เท่านั้นตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกถ้าไม่มียาที่ทำให้ร่างกายของเขาต้านพิษได้ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายอันใด และเขาคงทำร้ายนางโดยที่ไม่รู้ตัวเป็นแน่เพียงแค่คิดเขาก็อยากจะลงโทษกวนลู่ซือให้หนักมือขึ้นอีกหน่อย
“ก็ดีเจ้าค่ะที่ท่านไม่เป็อะไร แล้วท่านประมุขจะปล่อยข้าได้หรือยังเจ้าคะ” เย่วซินเอ่ยบอกคนร่างสูงที่ยังคงโอบกอดตนเอาไว้แน่น
“ขอข้ากอดเจ้าอีกหน่อยเถิดเพราะว่าไม่รู้อีกเมื่อไรจะได้มีโอกาสเช่นนี้อีก” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกคนร่างเล็กในอ้อมแขน เพราะถ้าไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เขาคงไม่ได้มีโอกาสได้โอบกอดนางเช่นนี้เป็นแน่
“ท่านฉวยโอกาส อ้อ!! ข้าเกือบลืมข้ามีเรื่องด่วนจะมาแจ้งท่าน” เย่วซินเมื่อนึกขึ้นได้ก็พลันมีน้ำเสียงและสีหน้าที่ตื่นตระหนกรีบผละตัวออกจากร่างสูงทันที
จ้าวไท่เหว่ยเมื่อเห็นสีหน้าตื่นตะหนกของคนตัวเล็กก็พลันร้อนใจขึ้นมาจึงรีบเอ่ยถาม “เจ้ามีเรื่องอันใดหรือดูสีหน้าไม่สู้ดีนัก”
“จ้าวไท่เฟยหายตัวไปเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ข้าและเหล่าลูกพรรคออกตามหากันจนทั่วทั้งพรรคแล้วแต่ก็ไม่พบนาง คนคุ้มกันของนางเล่าว่าถูกคนดักทำร้ายระหว่างทาง เขาจึงอาสาจัดการแล้วให้จ้าวไท่เฟยหนีกลับพรรคมก่อน” เย่วซินเอ่ยเล่าอย่างกระชับหวังให้เขาได้เข้าใจทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
“เจ้ารออยู่ที่นี่ห้ามออกไปไหนเด็ดขาดประเดี๋ยวข้าจะกลับมา” จ้าวไท่เหว่ยเมื่อรับรู้ว่าน้องสาวของตนหายไปก็พลันสีหน้ามืดครึ้มลงด้วยความกังวล ไม่รู้ว่าป่านนี้น้องสาวของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง
จ้าวไท่เหว่ยรีบก้าวเท้าออกไปจากห้องพร้อมปิดประตูทันทีโดยที่ให้ร่างเล็กอยู่ภายในแล้วสั่งให้ซานจงคอยดูแลห้ามให้ผู้ใดเข้ามาหานางอีกโดยเฉพาะกวนลู่ซือเขากลัวว่านางจะย้อนกลับมาทำร้ายคนร่างเล็กของเขาอีก...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน
รอนะคะ อัพต่อหน่อยค่า...