เธอสัมผัสกระเป๋าเป้ของเธอด้วยรอยยิ้มสดใสและพึมพำกับตัวเอง “ฉันเดาว่าฉันคงต้องรบกวนเธอเป็นครั้งสุดท้ายแล้วล่ะ”
เธอซื้อกระเป๋าเป้ใบนั้นหลังจากเข้าทำงาน เธอผ่านการผจญภัยมาทุกรูปแบบในฐานะนักข่าว อีกทั้งมันยังเป็นพยานในความสัมพันธ์ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายระหว่างเธอกับฟาเบียนอีกด้วย
เมื่อเธอหันกลับมาและเห็นชุดแต่งงานสีขาวในตู้เสื้อผ้า เธอก็รู้สึกสิ้นหวัง อาจเป็นเพราะเธอจะไม่ได้ใส่มันอีกแล้วหลังจากงานแต่งงานของเธอกับฟาเบียน มันจึงดูโดดเดี่ยวในตู้เสื้อผ้า
ชั่วพริบตา เธอก็หยิบชุดแต่งงานขึ้นมาสวมกอด
“เธอจะไปกับฉันด้วย!”
ชุดนี้เป็นชุดที่ฟาเบียนสั่งตัดเป็นพิเศษให้ฮันน่า มันเป็นชุดแต่งงานชุดเดียวที่เธอเคยใส่และเป็นชุดเดียวที่เธอจะใส่
หลังจากนั้นเธอก็นำชุดแต่งงานและกระเป๋าเป้ติดตัวไปด้วยเมื่อออกจากห้องไป
ไม่นาน รถแท็กซี่ที่เธอเรียกก็มา
เมื่อมองไปยังห้องของนาตาชา ฮันน่ากังวลว่าเธอจะลำบากในการหาที่พักหลังจากที่ตนเองจากไป เธอจะโอคมั้ย? แล้วเรื่องเรียนภาษาของเธอล่ะ?
ขณะที่เธอครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็มุ่งหน้าไปยังห้องของนาตาชา
ฮันน่าจับจ้องไปที่ลูกบิดประตู หลังจากลังเลอยู่นาน เธอจึงตัดสินใจล็อคมัน
เมื่อนาตาชาได้ยินเสียงคลิก เธอกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งมาที่ประตู แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
เธอพยายามเปิดประตู เมื่อรู้ว่าเธอถูกขังอยู่ในห้องของตนเอง
“ฮันน่า นั่นคุณรึเปล่า? คุณขังฉันไว้ทำไม?” นาตาชาตะโกนออกมาอย่างร้อนใจ
เนื่องจากเธอเป็นคนช่างสังเกต จึงไม่มีทางที่ใครจะแอบเข้ามาโดยที่เธอไม่รู้ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือฮันน่าเป็นคนทำนั่นเอง
เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอจึงยากที่จะรู้สาเหตุที่อยู่เบื้องหลังการกระทำของฮันน่า
ขณะเดียวกัน ฮันน่าเองก็ได้ยินเสียงตะโกนของนาตาชา แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่สนใจ
“ฮันน่า รีบเปิดประตู! เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณไม่บอกฉัน? บางทีเราอาจจะช่วยกันแก้ปัญหาได้นะ จริงมั้ย?”
ขณะที่นาตาชายังคงตะโกนต่อไป เธอก็ค้นหากุญแจทั่วทั้งห้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม