ความรักสีคราม นิยาย บท 169

ฟินนิคเหลือบมองยัสมินด้วยสายตาดุดัน ทำให้เธอเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง

ผลปรากฏว่า ยัสมินตัวสั่นระริกพร้อมถอยหลังไปหนึ่งก้าว ให้ห่างจากทั้งสองคน

“คุณซิลเลอร์ วันนี้เอาไว้เท่านี้แล้วกันครับ จะเจอกันอีกเมื่อไรค่อยว่าอีกที” ฟินนิคเอ่ยเสียงเรียบหน้านิ่ง

ยัสมินแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เพราะเธอถูกฟินนิคเทแบบไม่คิดเลยสักนิด

เธอจ้องหน้าวิเวียน พร้อมกับคิดว่าต้องโทษนังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้

ถ้ามันไม่เสนอหน้ามา ฉันคงได้เดทกับฟินนิคอย่างสมบูรณ์แบบไปแล้ว ฉันไม่น่าประเมินนังนี่ต่ำไปเลย

ยัสมินรู้สึกฉุนจัด เธอคิดไม่ตกเลยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของฟินนิค ตอนแรกเขาเป็นไปตามที่เธออยากให้เป็นทุกอย่าง เธอเกือบจะทำให้ฟินนิคมาร่วมเตียงกับเธอได้แล้ว แต่อยู่ดีๆ ก็มีใครบางคนโผล่มา แล้วทำแผนเธอสะดุดไปหมด

ฟินนิคไม่สนใจยัสมินอีกต่อไป เขาบอกวิเวียนว่า “ไปกันเถอะ”

พวกเขาเมินยัสมินแล้วออกจากร้านอาหารไปทางประตูหลัง

เมื่อวิเวียนขึ้นมาบนรถ เธอก็รีบส่งข้อความหาซาร่าและเคนทันที เพื่อหาข้ออ้างมาปกปิดเรื่องที่เธอต้องกลับก่อนกระทันหัน

ระหว่างทางกลับบ้านวิเวียนนั่งเงียบตลอด เพราะเธอรู้สึกหวาดหวั่นกับท่าทีของยัสมิน

เธอคิดทบทวนแผนตัวเองในหัวซ้ำๆ และตระหนักได้ว่าเธอเชื่อใจฟินนิคมากเกินไป

ความจริงแล้วเธอกลัว เธอรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่นึกถึงท่าทางที่ยัสมินพยายามยั่วยวนฟินนิค แม้เธอจะเชื่อมั่นในตัวเขา แต่เธอก็ยังกลัวอยู่ดีว่าโชคชะตาจะพรากเขาและเธอให้ห่างกันอีกครั้ง

ความรู้สึกหวั่นไหวเกาะกินใจวิเวียน เพราะฟินนิคอาจใจอ่อนให้พวกผู้หญิงเซ็กซี่ทรมานใจเหล่านั้นเข้าสักวัน ไม่แน่ว่าในวันข้างหน้าเขาอาจจะเบื่อเธอก็ได้

หากเลวร้ายยิ่งกว่านั้น ฟินนิคอาจถึงขั้นทิ้งเธอไปหาผู้หญิงคนอื่น เพราะเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่มาพร้อมกับอดีตอันซับซ้อน

แม้ฟินนิคจะทำให้เธอเชื่อมั่นว่าเธอควรจะปล่อยอดีตที่ผ่านมาให้มันผ่านไป วิเวียนกลัวว่าในอนาคตทุกอย่างอาจพลิกผันกลายเป็นเลวร้ายยิ่งกว่าหากคนบงการเผยตัวออกมา ความสัมพันธ์ของพวกเขาคงจบลงอย่างเศร้าใจ

เนื่องด้วยความสัมพันธ์ของเธอกับฟินนิค จากนี้เธอคงต้องคอยจับตาดูยัสมินเป็นพิเศษแล้ว

เธอเหนื่อยเหลือเกิน เพราะยังต้องคอยรับมือกับแอชลีย์ที่ทั้งใจดำทั้งโหดร้ายอีก

วิเวียนหน้านิ่งมาตลอดทาง พวกเขานิ่งเงียบกันตลอดทางกลับบ้าน ความจริงแม้แต่กลับถึงบ้านแแล้วพวกเขายังไม่คุยกันเลยด้วยซ้ำ เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน แล้วนอนขดอยู่บนโซฟาอย่างเฉื่อยชา ใจเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

สุดท้าย ฟินนิคคิดว่าถึงเวลาที่สมควรจะทำลายความเงียบได้แล้ว

ยัสมินไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไรทั้งนั้น ง่ายๆ เลยคือเธอเป็นแค่ตัวประกอบ เขาเพียงใช้เธอเพื่อมาเพิ่มน้ำหนักยืนยันความคิดของเขาเท่านั้น ฟินนิคจึงไม่ได้ต้องการทะเลาะวิเวียนเพราะยัสมินเลย

“วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน ผมว่าคุณต้องเพลียมากแน่ๆ ทำไมไม่ลุกไปอาบน้ำล่ะ” ฟินนิคยืนขึ้นแล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างกายวิเวียน เขาสางผมของเธอพร้อมพูดเสนออย่างอ่อนโยน

หญิงสาวเงยหน้ามองเขากลับ วิเวียนเผยอปากคล้ายกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่ากลับเปลี่ยนใจและเลือกที่จะเก็บมันไว้คนเดียว

เมื่อฟินนิครับรู้ได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจ เขาจึงตัดสินใจทำลายความเงียบ แล้วถามเธอกลับ “คุณโกรธเหรอ ทำไมตลอดทางกลับบ้านคุณไม่ยอมคุยกับผมเลย”

วิเวียนส่ายศีรษะ ก่อนบอกกับเขาว่า “เปล่าค่ะ แต่ยัสมินล้ำเส้น พูดตามตรงนะคะ ฉันว่าหล่อนน่ารังเกียจมาก”

เธอไม่ยอมรับว่าตัวเองโกรธ ไม่อย่างนั้นสามีของเธอจะต้องคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงใจแคบแน่ๆ

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มีอารมณ์คุกรุ่นเพราะยัสมินอยู่ดี

ฟินนิคหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพูดให้ภรรยาของเขามั่นใจ “ผมจ้างยัสมินมาเป็นประชาสัมพันธ์ของบริษัท เพราะเธอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่สามารถเข้ากับกลุ่มเป้าหมายของพวกเราได้”

เนื่องจากวิเวียนไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่แฝงอยู่ในคำอธิบายของฟินนิค เธอจึงหันหน้ากลับมามองเขาด้วยความงุนงง

เขากำลังพยายามอธิบายเหตุผลที่ตัวเองไปพัวพันกับยัสมินในช่วงนี้อยู่เหรอ

จากนั้นวิเวียนก็รู้สึกดีทันที เนื่องจากฟินนิคขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายเย็นชาและถือตัวมาโดยตลอด

ซึ่งผู้ชายที่เผด็จการขนาดนี้เป็นฝ่ายพูดอธิบายเหตุผลที่แฝงอยู่ในการกระทำของเขาก่อน เพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิดระหว่างเขาและเธอ วิเวียนที่กำลังฉุนเฉียวอยู่จึงรู้สึกโล่งอก

“ถ้าเธอเป็นแค่ประชาสัมพันธ์ แล้วทำไมต้องอยากจะได้คุณจนตัวสั่นขนาดนั้นด้วย” วิเวียนถามกลับเนื่องจากเธอเก็บสิ่งที่อยู่ในใจตัวเองไว้ไม่ไหว ทุกครั้งที่นึกถึงท่าทางยั่วยวนของยัสมิน

“ทำไมคุณไม่ลองไปถามเธอแทนล่ะ ดูเหมือนคุณกำลังเข้าใจผิดไปนิดหน่อยนะว่าไหม คุณคิดว่าผมจ้างเธอมาเป็นประชาสัมพันธ์ของเราเพราะมีอย่างอื่นแอบแฝงเหรอ”

ในที่สุดฟินนิคก็เข้าใจความขุ่นข้องของวิเวียน ถึงอย่างไรยัสมินก็อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี หล่อนจับผู้ชายที่ตัวเองอยากได้ไม่เคยพลาดเลย จึงเป็นธรรมดาที่วิเวียนจะมองว่าหล่อนเป็นศัตรูตัวฉกาจ

“เอาเข้าจริงแล้ว ผมไม่เคยรู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้ๆ ยัสมินเลยสักครั้ง แต่ใครบางคนนั่นแหละที่เป็นคนขอร้องอะไรบ้าบอแบบนั้นเอง” ฟินนิคกดสายตาลงต่ำ จ้องตาวิเวียนขณะที่เขาพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม