วิเวียนยังคงหาเหตุผลที่จะโน้มน้าวใจตัวเองให้เชื่อว่าเขาไม่ใช่คนที่อยู่ในห้อง ท้ายที่สุด เธอก็ยังไม่มีเรี่ยวแรงเพียงพอจะเดินผ่านประตูนั้นเข้าไปตรวจดูสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง
แทนที่จะทำเช่นนั้น เธอกลับรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดเบอร์โทรของฟินนิคลงไป ฉันเชื่อว่าคุณจะไม่ทำแบบนี้กับฉัน ฟินนิค ได้โปรดรับโทรศัพท์เถอะ... ได้โปรด...
ขณะที่เธอสวดอ้อนวอนเงียบๆ เธอก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของฟินนิคดังออกมาจากในห้อง นั่นทำให้หัวใจของเธอด้านชาทันที เพราะเธอไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นใช่เสียงโทรศัพท์ของเขาหรือเปล่า
มันเป็นเสียงเรียกเข้าที่เธอเลือกให้เขาอย่างไม่เต็มใจเมื่อสองสามวันก่อน นั่นไม่ผิดแน่ ผู้ชายในห้องอาจเป็นเขาจริงๆ เหรอ
เธอยังคงส่ายหัวเพื่อปฏิเสธข้อสันนิษฐานของตัวเอง หวังเพียงว่าเขาจะรับสายและบอกเธอว่าเขาไม่อยู่บ้าน หากเขาสามารถทำเช่นนั้นได้ เธอก็เลือกที่จะเชื่อเขา
ดูเหมือนว่าสวรรค์จะเพิกเฉยต่อคำวิงวอนของวิเวียน ขณะที่เสียงครวญครางของอีฟเวลินก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“อ๊า อย่าเพิ่งรับสายของนังอัปลักษณ์นั่นตอนนี้ คุณกำลังทำให้เสียอารมณ์... อ๊า... ฟินนิค คุณมันตัวร้าย...”
วิเวียนไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากฟินนิค อย่างไรก็ตาม สายของเธอถูกตัดไปทันทีที่อีฟเวลินหยุดพูด
“ขอโทษค่ะ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ...” มือของวิเวียนอ่อนปวกเปียกขณะนั่งอยู่ที่เดิม เธอรู้สึกหมดแรง
เธอเข้าใจอย่างลึกซึ้งตอนนั้นเองว่าความสิ้นหวังหมายถึงอะไร ในที่สุดมันก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเธอโง่แค่ไหนที่พยายามหาข้อแก้ตัวให้ฟินนิค เพียงเพราะเธอไม่ยอมรับความจริงเรื่องที่เขานอกใจเธอ
น้ำตาของวิเวียนไหลไม่หยุด ฟินนิค คนสารเลว การที่เธอตาบอดจนจำชายที่อยู่ใต้ซุ้มหน้าตึกไม่ได้จนถึงตอนนี้ เธอต้องโทษตัวเองเท่านั้น
แต่ทำไมล่ะ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงแสดงความรักใคร่และไม่เห็นด้วยกับการหย่าร้างเมื่อเธอพูดถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเมื่อสองสามวันก่อน
ถ้าฉันไม่มีที่ยืนในใจเขาแล้ว ทำไมเขาไม่บอกฉันตรงๆ ทำไมต้องรอจนถึงวันนี้แล้วให้ฉันรู้ด้วยวิธีนี้ ทำไม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...