เห็นได้ชัดว่าเบเนดิกต์เป็นห่วงเธอ วิเวียนจึงส่งรอยยิ้มปลอบโยนไปให้ “ฉันไม่เป็นไร ปิดประตูให้ด้วยนะ”
ในเมื่อวิเวียนยืนยัน เบเนดิกต์จึงยอมทำตาม ก่อนที่เขาจะไป เขาบอกเธอ “ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันนะ ฉันอยู่ข้างล่างนี้แหละ”
เมื่อทั้งสองถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังในห้องทำงาน วิเวียนก็เงยหน้าขึ้นมาสักที เธอมองฟินนิคด้วยสายตาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง “มาที่นี่ทำไม?”
ฟินนิครู้สึกปวดใจเมื่อเห็นว่าเธอปฏิบัติกับเขาแตกต่างออกไปขนาดไหน เธอปฏิบัติกับคนอื่นเหมือนที่เคยทำ แต่ระหว่างเราตอนนี้เหมือนเราเป็นคนแปลกหน้ากันเลย
ฟินนิคหลุดจากภวังค์และมองไปที่วิเวียน “วิเวียน ผมมาที่นี่เพื่อขอโทษคุณ ผมขอโทษที่ตอนนั้นผมเข้าใจคุณผิด”
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ตอนนั้นวิเวียนต้องเสียใจมากแน่ๆ ที่ฉันไม่เชื่อใจเธอ
ฟินนิคอยากจะต่อยหน้าตัวเองตอนที่เขานึกถึงว่าตัวเองโน้มน้าวให้วิเวียนทำแท้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอคงจะใจสลายตอนที่เธอรู้ว่าตัวเองแท้ง เธอเลยส่งเอกสารการหย่ามาให้ฉันแล้วออกจากประเทศโดยไม่ลาสักคำ
ฉันไม่รู้อะไรเลย เธอเลยต้องเผชิญกับเรื่องนี้คนเดียว ฉันทำผิดพลาดอย่างมากในฐานะสามีและในฐานะพ่อคน!
“คุณเข้าใจอะไรผิดไปเหรอ?” วิเวียนถามทั้งๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“มาร์คบอกผมทุกอย่างแล้ว ผู้ชายพวกนั้นไม่ได้ข่มขืนคุณ ผมขอโทษที่ผมไม่เชื่อใจคุณ วิเวียน ผมผิดเอง” เขาอ้อนวอน “คุณให้อภัยผมได้ไหม?” เขามองเธอด้วยสายตาเว้าวอน
ทว่าวิเวียนนั้นไม่สะทกสะท้าน “ในที่สุดคุณก็รู้สักทีสินะว่าเด็กที่คุณให้เอาออกนั้นเป็นลูกของคุณ”
ด้วยความที่แลร์ลี่ยังมีชีวิตอยู่ วิเวียนจึงไม่ได้เดือดร้อนนัก แต่สำหรับฟินนิคที่ไม่รู้ว่าลูกชายของเขามีชีวิตอยู่ เขาจึงรู้สึกเสียใจอย่างมาก
เขาเอื้อมมือออกไปพยายามที่จะจับมือวิเวียน แต่เธอชักมือหลบ เขาคิดว่าแค่คำขอโทษจะลบล้างความทรมานและการที่เขาหายไปตลอดห้าปีนี้ได้เหรอ?
“มาพูดตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ คุณว่าไหม?” วิเวียนมองต่ำลง แล้วไง? เราย้อนเวลาไม่ได้สักหน่อย
ฟินนิคอึ้งกับสิ่งที่เธอกล่าว ไม่มีประโยชน์เหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...