"อย่ามัวแต่ถามกันเลย มากินข้าวกันดีกว่า วันนี้มีแต่ของอร่อยทั้งนั้น" จักรินส่งยิ้มอบอุ่นให้ว่าที่ลูกสะใภ้ แล้วเดินเลี่ยงออกไปถอดผ้ากันเปื้อนหลังจากจัดโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"มานั่งกับเฮียมา" ต้นน้ำตบหน้าตักเบาๆเมื่อหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้แล้ว โดยที่พิมพ์ดาวเดินอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้าม ทำเอาคะนิ้งลำบากใจที่จะนั่งบนหน้าตักของแฟนหนุ่ม เพราะมันคงไม่เหมาะสมหากจะทำแบบนั้นต่อหน้าพ่อและแม่ของคนรัก
พรึ่บ!
"อ๊ะ!" เธอร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆก็โดนต้นน้ำกระชากเข้าไปหา ทำให้เธอที่ไม่ทันตั้งตัวเสียหลักนั่งลงบนหน้าตักแกร่ง
"หนุ่มสาวสมัยนี้น่ารักกันจังเลยนะ นึกถึงตอนคบกับพ่อใหม่ๆแม่ก็เขินแบบนี้บ่อยๆ ความหล่อของพ่อมันบาดใจแม่จริงๆ" พิมพ์ดาวอมยิ้มกับความน่ารักของลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่จักรินเดินกลับมานั่งข้างๆพอดี
"มัวแต่คุยกันจนลืมแนะนำตัวเลย พ่อชื่อจักรินนะ หนูนิ้งจะเรียกว่าพ่อเฉยๆก็ได้ ส่วนแม่ชื่อพิมพ์ดาว หนูจะเรียกว่าแม่เฉยๆก็ได้เหมือนกัน"
"สวัสดีค่ะคุณพ่อ" คะนิ้งประนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ซึ่งก็ได้รับรอยยิ้มอบอุ่นกลับมา
"พ่อฟังเรื่องของหนูจากปากต้นมันแล้วนะ ต่อไปนี้หนูไม่ต้องทนอยู่กับพ่อเฮงซวยแบบนั้นแล้ว พ่อจะเป็นพ่อของหนูเอง"
เพียะ!
"โอ๊ย! ที่รักตบผมทำไมเนี่ย" จักรินโวยวายพลางลูบแก้มเบาๆเมื่อโดนภรรยาตบอย่างไม่แรงนัก
"ก่อนพูดนี่คิดบ้างรึเปล่าคะ"
"ก็มันน่าโมโหนิ พ่อแบบนั้นมันเฮงซวย ไม่เหมือนพ่อแบบผมเลยสักนิด ผมอยากมีลูกสาวจะตายที่รักก็รู้นิ แต่พระเจ้าทอดทิ้งผมส่งปีศาจอย่างต้นมันมาให้แทน ผมก็ยังเลี้ยงมันมาอย่างดี ทั้งรักทั้งทะนุถนอมมันประหนึ่งไข่ในหิน"
"แน่ใจเหรอคะว่าเลี้ยงมาอย่างดี? ตอนต้นมีเรื่องชอบทำตัวเป็นนักเลงต่อยตีกับเด็กต่างสถาบันที่รักไม่เห็นว่าอะไรเลย มีแต่พิมพ์ที่คอยด่าคอยสอน"
"นั่นมันคือศักดิ์ศรีลูกผู้ชายนะ อย่างน้อยลูกผมมันก็ไม่รังแกใครก่อน เพราะงั้นถ้ามีใครมารังแกลูกก็ต้องสวนกลับ อย่ายอมโดนรังแกฝ่ายเดียว ใช่ไหมต้น"
"ใช่ครับ" ต้นน้ำยกนิ้วโป้งให้ผู้เป็นพ่อ ไม่ต่างจากจักรินที่ทำหน้าภูมิใจ ทำเอาพิมพ์ดาวถอนหายใจพรืดใหญ่
คะนิ้งหลุดหัวเราะในลำคอเบาๆกับภาพตรงหน้า เธอรู้สึกอบอุ่นราวกับว่านี่เป็นครอบครัวของเธอจริงๆ ทุกอย่างเสมือนจริง มีแต่ความจริงใจและรอยยิ้มให้กัน นี่เป็นสิ่งที่เธอเฝ้าฝันมาตลอดว่าสักวันหนึ่งจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้
"ว่าแต่ มาวันนี้มีข่าวดีมาฝากพ่อกับแม่รึเปล่า"
"พ่ออย่าทำหน้าชั่วร้ายแบบนั้น เดี๋ยวเมียผมกลัว"
"ฮ่าๆๆ พ่อแค่อยากรู้ว่าแกเอาหลานมาฝากพ่อกับแม่ด้วยรึเปล่า"
"เอ่อ..." คะนิ้งได้แต่กะพริบตาปริบๆเมื่อเห็นสีหน้าคาดหวังของจักรินและพิมพ์ดาว "มะ..ไม่มีค่ะ หนูยังไม่เข้ามหาลัยเลย"
"แค่กๆๆ! เดี๋ยวนี้พ่อก็ชอบป่วยออดๆแอดๆ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้อุ้มหลานกับเขารึเปล่า" จักรินเบือนหน้าหนีจากจานอาหารพลางยกมือป้องปาก ก่อนจะหันกลับมาถอนหายใจเบาๆ
"บางทีถ้ามีหลานให้เลี้ยงสักคนอาการป่วยของพ่อคงจะดีขึ้น แค่กๆ!"
"คุณพ่อป่วยเป็นอะไรเหรอคะ หนูว่าถ้าป่วยไปหาหมอดีๆรักษาให้หายขาดเลยไม่ดีกว่าเหรอคะ มีหลานไปก็คงช่วยไม่ได้หรอกค่ะ"
"พูดแบบนี้ไม่รู้ล่ะสิว่าคนป่วยน่ะอยู่ได้ด้วยกำลังใจ ถ้ามีหลานสักคนพ่ออาจจะมีกำลังใจมากขึ้น"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กินเด็ก 20+