ยิ่งไปกว่านั้น คนอย่างฟางเฉิงหล่าง หลานจืออวี๋ พวกเขาก็แค่คนโง่เง่า หากพวกเขายังสามารถกลายเป็นยอดคนแห่งแดนการบำเพ็ญเซียนได้ แล้วทำไมนางถึงจะไม่สามารถแทนที่พวกเขาได้
นาง เย่ฉงซิน จะต้องกลายเป็นสตรีผู้เป็นตำนานที่สุดในแดนแห่งการบำเพ็ญเซียน
"นางจะทำให้ชื่อของเย่ฉงซินก้องกังวานไปทั่วแดนแห่งการบำเพ็ญเพียร"
ความทะเยอทะยานของเย่ฉงซิน มีเพียงอวี๋จาวที่เกิดใหม่อีกครั้งเท่านั้นที่มองเห็นได้ชัดเจน ด้านอาจารย์ของนางอย่างเซียนชิงเหยี่ยกลับมีเพียงความเวทนาต่อนางอย่างเต็มเปี่ยม
เซียนชิงเหยี่ยนกำลังจะกล่าวเตือนนางอีกสักคำ แต่สายตาชำเลืองไปเห็นอวี๋จาวยังคงคุกเข่าบนพื้น จึงกล่าวอย่างเย็นชาว่า "การฝึกที่หุบเขามังกรคำรามครั้งนี้ จะให้ศิษย์น้องของเจ้าทำแทน ส่วนเรื่องที่เจ้าจะฝึกวิชาก็จะไม่ติดตามแล้ว"
ด้วยสายตาของเซียน ชิงเหยี่ยนเขาสามารถมองออกได้ทันทีว่าอวี๋จาวในตอนนี้กำลังฝึกวิชาที่ไม่ใช่เคล็ดวิชาจันทร์ฉายเหนือมหาสมุทรของเขา
สำหรับเขาแล้ว การที่อวี๋จาวฝึกวิชาที่เขาคิดค้นขึ้นเองนั้น ถือเป็นการดูหมิ่นวิชาจันทร์ฉายเหนือมหาสมุทร
การที่อวี๋จาวเลือกเปลี่ยนวิชาเอง กลับเป็นเรื่องที่ดี
แต่สิ่งที่เขาคิดในใจนั้น เขาไม่อาจแสดงออกมาได้ การกระทำนี้จึงกลายเป็นข้ออ้างที่ดีในการปฏิเสธคำขอของอวี๋จาว
อวี๋จาวรู้ดีว่า ระหว่างตัวนางกับเย่ฉงซิน เซียนชิงเหยี่ยนจะเลือกเย่ฉงซินโดยไม่มีข้อแม้
นางเพียงต้องการลองสักครั้ง และเมื่อได้ผลลัพธ์แล้วก็ไม่ยืดเยื้อ ตัดสินใจขอตัวลาออกไปอย่างเด็ดขาด
หลังจากออกจากถ้ำของเซียนชิงเหยี่ยนนางก็รีบลงจากภูเขา มุ่งตรงไปยังยอดเขาทันที
ปิดด่านบำเพ็ญเพียรสามปี สำนักห้าธาตุ ยังคงดำเนินไปตามปกติ
เคยมีข่าวลือเกี่ยวกับอวี๋จาว แต่ในสามปีนี้ข่าวอื่น ๆ ก็มาแทนที่
ดังนั้นการออกเดินทางครั้งนี้จึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนัก นางจึงเดินทางมาถึงยอดเขาได้อย่างราบรื่น
“ศิษย์พี่โจว”
โจวจินเยว่กำลังเตรียมตัวสำหรับการทดสอบในอีกสามวันข้างหน้า เมื่อหันไปตามทิศทางเสียงที่ได้ยินก็เห็นอวี๋จาว นางแสดงสีหน้ายินดี "ศิษย์น้องอวี๋"
เมื่อได้พบโจวจินเยว่อีกครั้ง อวี๋จาวรู้สึกถึงความสบายใจที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้
ในขณะที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้า โจวจินเยว่เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จับแขนของนางแล้วมองนางอย่างละเอียด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก