ฟางเฉิงหล่างรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
น้องหกตีตัวออกห่างจากเขาจริง ๆ ถึงกับไม่บอกเรื่องสำคัญ ๆ เช่นการเข้าร่วมการฝึกกับเขาด้วยซ้ำ
หลานจืออวี๋ คิดว่านิสัยเก่าของอวี๋จาวนั้นยากที่จะเปลี่ยนแปลง เมื่อเขาได้ยินข่าวว่าศิษย์น้องกำลังจะไปที่หุบเขามังกรคำราม เขาก็รีบไปและขอร้องยอดเขาตู๋เยว่ ช่างขายหน้ายอดเขาตู๋เยว่นัก
เย่ฉงซินบีบฝ่ามือตนเองอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองสูญเสียความสงบ
นางประเมินอวี๋จาวต่ำไปจริง ๆ เมื่อรู้ว่าเส้นทางของเซียนชิงเหยี่ยนไม่ได้ผล นางจึงไปหาเจ้าสำนักและในที่สุดนางก็ได้สิ่งที่ต้องการ
ความเกลียดชังของเย่ฉงซินที่มีต่ออวี๋จาวคงกำลังมาถึงจุดสูงสุด
จางจุ้นและคนอื่น ๆ รู้ทันทีว่ามีความขัดแย้งในหมู่ศิษย์ของยอดเขาตู๋เยว่
ทุกคนมาจากสำนักเดียวกัน จึงมักจะต้องเจอกันบ่อย ๆ ย่อมจะไม่ทำอะไรเพื่อเพิ่มความบาดหมางต่อหน้า ดังนั้นจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
ฟางเฉิงหล่างก็ยอมตามน้ำคุยเรื่องหัวข้ออื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ดูเหมือนจะช่วยแก้ไขความกระอักกระอ่วนได้บ้าง แต่บรรยากาศกลับไม่กลมเกลียวกันเหมือนตอนแรกอีกต่อไป
เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน และก่อนที่จะถึงยามเฉิน อวี๋จาวและโจวจินเยว่ก็ปรากฏตัวที่จัตุรัสกลางสำนัก
“ศิษย์พี่โจวมาแล้ว”
พร้อมเสียงตะโกนนั้น ทุกคนก็หันไปมองที่ทางเข้าจัตุรัส
ร่างสองร่างปรากฏขึ้นเคียงข้างกันต่อหน้าทุกคน
จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้น
“แล้วนั่นอวี๋จาวหรือ”
“ศิษย์น้องอวี๋ นี่นางโตแล้วแล้วหรือว่าเป็นสาวขึ้น ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเป็นคนละคนล่ะ”
“เจ้าสังเกตเห็นใช่ไหม อวี๋จาวเดินเคียงข้างศิษย์พี่โจว และรัศมีของนางไม่ได้ถูกโจวจินเยว่กลบ หลังจากสามปีแห่งการปิดด่านบำเพ็ญเพียร นางก็เปลี่ยนไปมาก”
วันนี้ทุกคนประหลาดใจกับอวี๋จาว
พูดตามจริงแล้วความนิยมของ อวี๋จาวในนิกายนิกายเต๋าทั้งห้านั้น แท้จริงแล้วไมได้น้อยไปกว่าของโจวจินเยว่เลย แต่คนหนึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังส่วนอีกคนมีชื่อเสียงฉาวโฉ่
สิ่งที่พวกเขาเห็นในวันนี้เปลี่ยนความรู้สึกของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง อวี๋จาวได้เกิดใหม่อย่างสมบูรณ์ และยังทำให้ผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาเข้าถึงไม่ได้
แปลก
ช่างแปลกจริง ๆ
นี่มันอะไรกัน
อวี๋จาวมีทีท่าห้ามโจวจินเยว่ นางมองไปที่ศิษย์พี่แล้วส่ายหัว เมื่อเห็นนางสงบลงเล็กน้อยจึงทักทายฟางเฉิงหล่างและเย่ฉงซินอีกครั้ง
“ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์น้องเล็ก”
มารยาทนั้นไร้ที่ติ แต่ก็ดูยากที่จะเข้าใกล้เช่นกัน
ฟางเฉิงหล่าง อยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถพูดต่อหน้าทุกคนได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยิ้มและทักทายกลับ
โจวจินเยว่นับจำนวนคน และเมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่พร้อมแล้ว นางก็พูดเสียงดัง "เหล่าศิษย์ร่วมสำนักของข้า การเดินทางไปยังหุบเขามังกรคำรามครั้งนี้จะนำโดยข้าโจวจินเยว่เป็นหัวหน้า และศิษย์พี่ฟางเฉิงหล่างจากยอดเขาตู๋เยว่จะเป็นรองหัวหน้า"
"การเดินทางนี้เน้นประสบการณ์เป็นหลัก เสริมด้วยการจับกวางเจ็ดสี ไม่ว่าเมื่อไหร่และที่ไหน ความปลอดภัยของตัวเองต้องมาเป็นอันดับแรก ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องทุกคน”
เสียงของโจวจินเยว่ ไม่ได้อ่อนหวานเท่ากับรูปร่างหน้าตาของนาง แต่มีความรู้สึกหนักแน่นที่เป็นเอกลักษณ์
อวี๋จาว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเคืองตาขณะที่กำลังฟัง
โจวจินเยว่ใช้การกระทำที่แท้จริงของนางเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่นางพูดนั้นไม่ผิดเลย
จนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต นางได้ถ่วงเวลาสิงโตเพลิงแดงและปกป้องเพื่อนร่วมสำนักให้ได้หลบหนี

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก
เติมเงินละอ่านไม่ได้...
เพราะอะไรถึงให้เติมเงินเป็น$ เติมเป็นเงินบาทง่าย ๆ อย่างเวป เด็กดีไม่ได้เหรอ...