จางจุ้นกุมหน้าอก
แม้ที่กล่าวจะเป็นความจริง ทว่าความจริงนั้นช่างสะเทือนใจเสียจริง
"ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ในที่สุดท่านก็กลับมา พวกข้าคิดถึงท่านแทบแย่"
"ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ตอนที่ท่านไม่อยู่ ข้ากินข้าวไม่อร่อยเลย"
"ศิษย์พี่โจว ข้าคิดถึงช่วงเวลาที่ท่านสอนข้าฝึกกระบี่ยิ่งนัก ข้าอยากให้ท่านสอนข้าอีก"
"..."
เมื่อศิษย์นิกายเต๋าทั้งห้าได้พบโจวจินเยว่ต่างก็มีสีหน้ายิ้มแย้มและยินดี จางจุ้นที่เห็นเช่นนั้นรู้สึกปวดใจยิ่งนัก
ไม่นานนัก โจวจินเยว่ก็ถูกฝูงชนล้อมให้เดินไปข้างหน้า
ฟางเฉิงหล่างกับเย่ฉงซินก็ได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับนางเช่นกัน
ส่วนอวี๋จาวนั้นถูกกันออกมานอกวงล้อมของฝูงชนนานแล้ว
คนที่ผ่านไปผ่านมายังคงส่งสายตาดูถูกเหยียดหยามมาให้นาง
ทว่าอวี๋จาวก็ไม่ได้ถือสา
ขณะที่กำลังจะจากไป เหมือนโจวจินเยว่จะสังเกตเห็นว่านางไม่อยู่ จึงหันกลับมามองหานางท่ามกลางฝูงชนอย่างเป็นกังวล
อวี๋จาวยิ้มบางก่อนจะโบกมือให้นาง เมื่ออีกฝ่ายจากไปพร้อมกับฝูงแล้ว อวี๋จาวจึงมุ่งหน้าไปยังหอคัมภีร์อย่างช้า ๆ
หอคัมภีร์ตั้งอยู่ในสถานที่อันเงียบสงบและลับตาคนของนิกายเต๋าทั้งห้า ความครื้นเครงที่หน้าประตูใหญ่หาได้ทำลายบรรยากาศเงียบสงัดของที่นี่ไม่
"ผู้อาวุโสกู่"
ผู้อาวุโสกู่ยังคงถือคัมภีร์โบราณเล่มหนึ่งไว้และนั่งอยู่ตรงทางเข้าหอคัมภีร์เหมือนเช่นเคย ดูออกว่ากำลังเมามาย เมื่อได้ยินชื่อตัวเอง เขาจึงเงยหน้าขึ้นมามองอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะปรากฏริ้วรอยบาง ๆ ที่หางตาเพียงชั่วขณะ
"ยัยหนูอวี๋นี่เอง การฝึกฝนเสร็จสิ้นแล้วหรือ"
"เจ้าค่ะ"
อวี๋จาวเคยพบผู้อาวุโสกู่เพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็เคารพผู้อาวุโสกู่อย่างมาก ยามผู้อาวุโสกู่เอ่ยถาม นางตอบคำถามอย่างนอบน้อมโดยไม่แสดงกิริยาใดเกินความจำเป็น
ผู้อาวุโสกู่ลูบเครา รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
เขาเอ่ยถามอย่างเมตตาราวกับเป็นอาจารย์ในสำนัก "การฝึกฝนได้ประโยชน์ใดบ้างหรือไม่"
อวี๋จาวพยักหน้า "ได้เพิ่มพูนประสบการณ์เล็กน้อย และค้นพบหินแร่สองชนิดที่ใช้สำหรับหลอมเป็นอาวุธเวทประจำตัวด้วยเจ้าค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก