ตอน บทที่ 1024 ฉันจะรักษาคุณให้หาย จาก กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1024 ฉันจะรักษาคุณให้หาย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม ที่เขียนโดย จาวฉายจิ้นเป่า เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?
ซูจ้านดูสับสนเล็กน้อย
“ผมพูดอะไรผิดเหรอ?” เขามองที่จงจิ่งห้าว
หลินซินเหยียนก็มองมาที่เขาเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเขาขัดจังหวะซูจ้านขึ้นเมื่อครู่
จงจิ่งห้าวเหลือบมองที่ซูจ้านอย่างแผ่วเบา “พออายุมากขึ้นก็เริ่มอ่อนไหวเหมือนผู้หญิงงั้นเหรอ?”
ซูจ้าน “......”
ทำไมเขาจึงพบว่าคำพูดเมื่อครู่มันดูผิดปกติไป?
หลินซินเหยียน “......”
ผู้หญิงอ่อนไหวงั้นเหรอ?
เธอเองก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เหมือนกันหรือ? มิฉะนั้นเขาอาจจะบอกว่าเธอ 'อ่อนไหว' ใช่ไหม?
เมื่อเข้าไปในบ้าน หลินซินเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “คำพูดเมื่อสักครู่ คุณพูดให้ซูจ้านฟังหรือให้ฉันฟังกันแน่?”
จงจิ่งห้าว “......”
ความอ่อนไหวนี่มัน เห้อ......
“คุณต้องการจะบอกว่าอย่างคุณนี่ ยังไม่เรียกว่าอ่อนไหวใช่ไหม?” หลินซินเหยียนเดินเข้ามาแล้วยิ้ม “โอเค บางทีฉันอาจจะอ่อนไหวก็ได้ เอาละค่ะเราเข้านอนแต่หัวค่ำเถอะ พรุ่งนี้ต้องบินแต่เช้า ถ้ายังไม่นอนก็จะพักผ่อนไม่เพียงพอเอานะคะ”
หลินซินเหยียนนึกดูตนเองแล้วรู้สึกว่าช่วงนี้เธอเองดูเหมือนว่าจะอ่อนไหวเล็กน้อย เธอใช้เวลาอยู่กับเขามาเกือบทั้งชีวิต จู่ๆก็รู้สึกว่าเขามีบางอย่างที่ปิดซ่อนเธอเอาไว้ ที่จริงเธอไม่ควรมีความคิดเช่นนั้น
“นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้ห่างกัน” เธอปลดกระดุมคอเสื้อของเขาออกอย่างนุ่มนวล เนื่องจากจงจิ่งห้าวไม่ได้ดูแลเรื่องบริษัทมานานแล้ว เขาจึงเปลี่ยนชุดจากทางการเป็นลำลองเสียส่วนมาก คราวนี้เป็นงานแต่งงานของจวงเจียเหวินดังนั้นเขาจึงใส่ชุดเป็นทางการ
หลินซินเหยียนช่วยเขาปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างตั้งใจ “ไปอาบน้ำเถอะค่ะ”
จงจิ่งห้าวมองลงไปที่เธอ “ทำไมจู่ๆ คุณถึงดีกับผมแบบนี้ล่ะ?”
เธอเลิกคิ้วขึ้น “ก่อนหน้านี้ฉันปฏิบัติกับคุณไม่ดีเหรอคะ?”
“ดีครับ” จงจิ่งห้าวจับมือเธอ “ไหนๆคุณก็ถอดเสื้อผ้าให้ผมแล้ว จะอาบให้ผมด้วยไหม?”
“คุณอายุเท่าไหร่แล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กๆไปได้” เธอตบมือของจงจิ่งห้าว “ไปอาบน้ำได้แล้ว”
จงจิ่งห้าวยิ้มเบาๆ และเดินไปห้องน้ำอย่างเชื่อฟัง ดูเหมือนเมื่อครู่ที่ซูจ้านเข้ามาขัดจังหวะทำให้หลินซินเหยียนลืมเรื่องความสงสัยไปได้แล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น จงจิ่งห้าวนั่งเครื่องบินในรอบเช้าสุดจากไป
หลินซินเหยียนพักอยู่ที่บ้านของซูจ้าน
พวกเขาไม่ได้รอให้จวงเจียเหวินและ เสิ่นซินเหยากลับมาก่อน
“กินข้าวก่อนเถอะ” ฉินยาเทนมให้หลินซินเหยียน “พวกเขาน่าจะกินที่โรงแรม”
หลินซินเหยียนหยิบนมขึ้นมาดื่ม “วันนี้อย่าไปที่ร้านเลย ออกไปกับฉันเถอะ”
ที่จริงมีดีไซเนอร์อยู่ในร้านมากมายอยู่แล้ว ไม่สำคัญว่าฉินยาจะไปหรือไม่ เธอนั่งลงทำขนมปังปิ้งกับเนยถั่ว “มีเรื่องอะไรหรือ?”
“เราต้องซื้อบ้านใหม่ให้พวกเขา จะให้พักในโรงแรมไปตลอดได้ยังไง แต่หากอาศัยอยู่ที่นี่คนก็จะเยอะเกินไป ซื้อบ้านใหม่และปล่อยให้พวกเขาอาศัยอยู่ข้างนอกดีกว่า” หลินซินเหยียนกล่าว
“นั่นสิ พวกเขายังเด็กและเพิ่งแต่งงานกัน พวกเขาน่าจะต้องการโลกส่วนตัวเพียงสองคน อืม หลังอาหารเช้า ฉันจะไปกับคุณ” ฉินยากล่าว
“กินข้าวเช้าเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” จวงเจียเหวินและเสิ่นซินเหยาเข้ามาที่ประตู
“ไม่รอพวกเราเลย” จวงเจียเหวินเดินเข้าไปในห้องอาหารและช่วยเสิ่นซินเหยาดึงเก้าอี้ออกมา
“ไม่ใช่ว่าเราไม่รอ แต่คิดว่าพวกเธอจะไม่กลับมากินอาหารเช้าด้วย พวกเธอต่างหาก ทำไมเช้าขนาดนี้?” ฉินยาลุกขึ้นและเดินไปหยิบจานอาหารให้พวกเขา
“ปกติเราไม่นอนดึก” จวงเจียเหวินพูดด้วยรอยยิ้ม
ไม่รอคำตอบจากฉินยา ซูจ้านก็พูดต่อไปว่า “ตามปกติคือตามปกติ แต่เมื่อวานพวกเราเพิ่งแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ? ฉันคิดว่าคงตื่นเช้าไม่ได้ ฉันเลยไม่ได้รอคุณ”
ไม่ว่าจะฟังอย่างไรก็ดูเหมือนจะมีความหมายอื่นแอบแฝง แต่ความหมายก็ตรงไปตรงมา
เสิ่นซินเหยาก้มศีรษะลง ใบหน้าของเธอแดงเล็กน้อย
จวงเจียเหวินเป็นผู้ชายเช่นกัน แม้ว่าเขากับซูจ้านจะต่างกันคนละรุ่น แต่ก็เข้ากันได้เหมือนเพื่อน พวกเขาเป็นกันเองและพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา
ซูจ้าน “......”
“ทำไมผมรู้สึกว่าคุณรักผมไม่เท่ารักเจียเหวินเลย คุณคอยคิดแทนเขาทุกนาที่ ทำไมไม่เห็นคุณเห็นใจผมบ้างเลย” เขาพูดอย่างเศร้าโศก
“เจียเหวินไม่เคยทำให้ผมเสียใจนี่คะ คุณล่ะ?” ฉินยามองเขาด้วยรอยยิ้ม
ซูจ้านรู้สึกหดหู่ลงทันที
“ผมล้างก็ได้ ผมเตรียมอาหารกลางวันให้ด้วย”
หลินซินเหยียนอดไม่ได้ที่จะมองและสบกับฉินยา “อย่ารังแกซูจ้านสิ”
“ไม่หรอกครับ ผมเต็มใจทำเอง” ซูจ้านกล่าวอย่างเร่งรีบ
ฉินยาเหลือบมองเขาและหันไปที่ชั้นบน “ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”
ก่อนหน้านี้หลินซินเหยียนเคยรู้สึกสงสารฉินยา มักรู้สึกว่าเธอลำบากที่ต้องอยู่กับซูจ้าน และความเป็นจริงเธอก็ลำบากใจมากเหมือนกัน เป็นเพราะซูจ้านจึงทำให้เธอไม่สามารถเป็นแม่ได้ในชีวิตนี้ นี่เป็นสิ่งที่เธอเสียใจในชีวิตนี้ที่สุด
เมื่อมองดูความสัมพันธ์ระหว่างฉินยาและซูจ้าน เธอรู้สึกว่าซูจ้านน่าสงสาร แต่เธอไม่คิดว่าฉินยาทำเกินไป เพราะเธอเก็บกดมาทั้งชีวิตแล้ว ตอนนี้ในที่สุดก็สามารถผ่อนคลายลงได้สักที เธอเองก็ดีใจแทนฉินยาด้วย
“แหม จริงๆเชียว คนในครอบครัวยังไม่ไว้หน้าผมเลย” ซูจ้านแตะจมูกของเขาเบาๆ อายุปาเข้าไปปูนนี้แล้วยังถูกล้อเล่นอีก จึงทำให้เขารู้สึกทำตัวไม่ถูก
หลินซินเหยียนช่วยทำความสะอาดโต๊ะ “ฉันล้างเองค่ะ ฉันไม่ทำให้คุณลำบากใจหรอกน่ะ เธอลำบากมามาก ให้เธอได้พักผ่อนบ้าง ตามใจเธอ เอาอกเอาใจเธอบ้าง”
“ผมทำเองครับ พวกคุณออกไปเถอะ ผมรู้ว่าสิ่งที่เธอทำกับผมเป็นยังไง ผมไม่โกรธ เพราะผมรู้ว่าผมเป็นหนี้เธอ เธอสามารถเข้าใจผมและใช้ชีวิตอยู่กับผม นับว่าเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอสำหรับผมแล้วครับ” ดวงใจของซูจ้านใสราวกับกระจกสะท้อน
เขาเข้าใจดี
ณ เมืองเล็กๆ
มู่เยวียนเอ๋อร์ไปที่ร้านขายยาจีนขนาดใหญ่ของเมืองเพื่อซื้อยาที่เธอต้องการ จากนั้นเริ่มรักษาจงเหยียนเฉิน
“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะรักษาคุณให้ได้” เธอชั่งน้ำหนักยาและจ่ายยาอย่างจริงจัง
ในบ้านของเธอมีอยู่ห้องหนึ่ง ห้องนั้นมีตู้สี่เหลี่ยมอยู่ ข้างในมียาจีนทุกชนิดและมีโต๊ะสี่เหลี่ยมด้านหน้าวางเครื่องชั่งน้ำหนักอิเล็กทรอนิกส์ไว้ สมัยก่อนนั้นชั่งน้ำหนักตามมาตราส่วน ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงแล้ว ไม่จำเป็นต้องชั่งน้ำหนักแบบนั้น
จงเหยียนเฉินนั่งบนเก้าอี้ด้านข้าง เขาเคยชินกับกลิ่นที่ลอยคลุ้งเต็มห้องนี้ ซึ่งมีวัสดุทางการแพทย์มากมาย เขามองไปตามเสียงพูดว่า “คุณแน่ใจเหรอว่าตาของผมไม่ได้เกิดจากการบาดเจ็บ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม