หลินซินเหยียน “……”
เมื่อรู้ว่าเดี๋ยวหยูโต้วโต้วจะเข้ามา เธอเองก็ไม่พูดอะไรมาก ถึงอย่างไรช่วงนี้เธอก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องทำ
เรื่องของในร้านนั้นฉินยาเป็นคนจัดการ
เธอไม่ได้ว่างขนาดนี้มานานแล้ว
เมื่อคลอดหลินซีเฉินกับหลินลุ่ยซีออกมา เธอก็เตรียมจะสอบ แล้วก็ทำงาน ในหลายปีมานี้เธอไม่ได้พักผ่อนเลย เลยจะใช้เวลาช่วงนี้ในการพักผ่อนก็ดีเหมือนกัน
เธอพิงเก้าอี้อยู่ ก่อนจะผ่อนคลาย แล้วดึงมือจากจงจิ่งห้าวออกมา “คุณขับรถดีๆ เถอะ”
จู่ๆ ฝ่ามือก็ว่างเปล่า เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง จงจิ่งห้าวเอามือกลับไปจับพวงมาลัย แต่ความว่างเปล่านั้นก็ไม่หายไปเสียที
เขารู้สึกว่างเปล่าในจิตใจ มีเพียงการเข้าหาผู้หญิงคนนี้ ถึงจะไม่มีความว่างเปล่านั้น
ข้างหน้ามีไฟแดงอยู่ตรงสี่แยก
เขาเหมือนกับขยับอย่างไม่ตั้งใจ เลยเอามือไปวางอยู่บนต้นขาของหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียน “……”
คนคนนี้จริงๆ เลย
สิบนิ้วของเขากับเนื้อของเธอนั้นมีเพียงผ้าบางๆ ที่กั้นอยู่ เลยใช้ตอนที่หลินซินเหยียนยังไม่ได้ปฏิเสธ พูดว่า “พวกเราเป็นสามีภรรยากันนะ”
คุณไม่ให้ฉันแตะต้อง ก็ต้องเอาอะไรมากแลกสักหน่อย
เขาเป็นผู้ชายธรรมดา อย่าทำเหมือนเขาเป็นพระเลย
หรับผู้หญิง ต้นขาเป็นจุดลับ อีกอย่างมือของเขาไม่นิ่ง มักจะลบคลำอยู่บริเวณนั้น จนหอแห้งผากเลยล่ะ
มือของเธอจับเสื้อแน่น ก่อนจะก้มหน้าลง ไม่กล้ามองเขา
หัวใจนั้น มันเต้นไม่หยุด
มันเหมือนไม่ใช่ของตัวเอง เพราะตัวเองควบคุมอะไรไม่ได้เลย
หัวใจดวงนี้ มักจะเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะว่าผู้ชายคนนี้ตลอดเวลา
หลินซินเหยียนไม่ได้ปฏิเสธ จงจิ่งห้าวเลยอารมณ์ดีขึ้น
ผ่ามือจับไปที่ต้นขาของเธอ โดยที่ไม่ขยับ พลางขับรถผ่านกลางเมือง ก่อนจะมาถึงเขตการค้าที่มีตึกรามมากมาย
เพียงไม่นานรถก็ขับมาถึงที่จอดรถของตึกสำนักงานของว่านเยว่กรุ๊ป เพราะว่ารถคันนี้เป็นคันที่จงจิ่งห้าวเพิ่งซื้อให้หลินซินเหยียน เลยไม่ได้บันทึกเอาไว้ พนักงานที่จอดรถ เลยเข้ามาขวางเอาไว้ ก่อนจะบอกว่า “ที่นี่เป็นที่จอดรถใต้ดินของว่านเยว่กรุ๊ป ไม่ให้คนอื่นเข้ามาจอด ขอให้ออกไปจอดข้างนอกด้วย”
จงจิ่งห้าวลดกระจกลง เมื่อพนักงานเห็นว่าเป็นเขา แล้วรีบเอาที่กั้นขึ้น ก่อนจะยิ้มให้ “ประธานจงนี่เอง ฉันไม่เห็น”
เขากล้ามาขวางรถของเจ้านาย แต่เขาก็ไม่อยากเสียงานนี้ไป
เมื่อมองไปเห็นผู้หญิงที่มาด้วย ก็อึ้งไปเล็กน้อย
เขาทำงานที่นี่มาสี่ห้าปีแล้วไม่เคยเห็นเขาพาผู้หญิงคนไหนขึ้นรถเลย นี่ถือเป็นครั้งแรกเลยด้วยซ้ำ
เลยอดไม่ได้ที่จะมองให้มากกว่านี้เสียหน่อย
จงจิ่งห้าวมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะปิดกระจกขึ้น
เพื่อหลบสายตาจากข้างนอก
เมื่อจอดรถเสร็จแล้ว จงจิ่งห้าวก็ส่งกุญแจให้หลินซินเหยียน
เธอยื่นมือออกมารับ
“ขอบคุณนะ” ถึงแม้ว่าเขาจะกำชับว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน แต่ว่าหลินซินเหยียนรู้ ว่าการแต่งงานในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเต็มใจ
แต่เป็นการจัดขึ้นของพ่อแม่ เลยทำอะไรไม่ได้จึงต้องแต่งงานไปตามนั้น
เธอรู้จักรถคันนี้มาบ้าง มันราคาล้านกว่าๆ
เขาไม่เอาเงิน เธอเลยรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ต้องแสดงความขอบคุณอะไรหน่อยแล้ว
“รู้สึกขอบคุณฉันจริงๆ เหรอ?”
จงจิ่งห้าวยิ้มมุมปากเล็กน้อย
หลินซินเหยียนพูดด้วยความจริงจัง “แน่นอนอยู่แล้ว”
เขาเอาหน้าเข้ามาใกล้ “ถ้าจริงใจจริงๆ ก็จูบฉันสักทีหนึ่งสิ ถ้าจะแสดงความจริงใจ จะทำอย่างไรงั้นเหรอ?”
หลินซินเหยียน “……”
คนคนนี้ ทำไมไม่จบไม่สิ้นสักที?
ไม่รู้ว่าที่นี่มันคือที่ไหนเหรอ?
บนิษัทของเขางั้นเหรอ?
ถ้าคนอืน่มาเห็นเข้า เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
หลินซินเหยียนผลักเขา “อย่าเล่นหน่า”
“งั้นก็ติดเอาไว้ก่อนนะ” เขาจับมือของหลินซินเหยียน ก่อนจะเอามาจับแขนของเขา แล้วเดินเข้าไปในลิฟต์
หลินซินเหยียนรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เธอขบริมฝีปาก พลางถาม “ถ้าคนในบริษัทมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดีหรือเปล่า?”
เธออึดอัดมาก
ในสถานการณ์แบบนี้ที่เขาเพิ่งจะยกเลิกการแต่งงานไป คนอื่นจะคิดว่าเพราะว่าเธอเลยทำให้จงจิ่งห้าวต้องยกเลิกหรือเปล่านะ?
“ฉันไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าฉันคือมือที่สามนะ ฉันไม่ชอบ”
เธอไม่ชอบการเป็นมือที่สามอยู่แล้ว
การบอกว่ารักครั้งนี้มันเจอกันช้าไป
หรือการเจอคนที่ใช่ในเวลาที่ไม่ใช่นั้น
ดูๆ ไปแล้ว นั่นคงเป็นแค่ข้ออ้าง
เหมือนกับที่หลินกั๋วอัน เปลี่ยนใจไปแล้ว ก็สามารถไม่สนความเป็นอยู่ของภรรยา แล้วสนใจแต่ความสุขของตัวเอง
“รอก่อน ถ้ามีโอกาส……พวกเราค่อยทำแบบนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม