ในครอบครัวของตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวย ความสัมพันธ์นั้นเต็มไปด้วยผลประโยชน์ การที่เขาพูดว่าเป็นห่วงชื่อเสียงของลูกสาวนั้นแท้ที่จริงเป็นห่วงชื่อเสียงของตระกูลเหอมากกว่า
“เห็นแก่ความสัมพันธ์ของสองครอบครัว อีกอย่างหลินหลินก็เคยคบหากับคุณ ก็ให้โอกาสเธอได้ปรับปรุงตัวสักครั้งเถอะ เพราะถึงยังไง...”
คำพูดที่เหลือเหอเหวินหวยไม่ได้พูดออกมา เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นคนทำลายเหอรุ่ยหลิน
เมื่อคิดถึงเรื่องที่จงจิ่งห้าวไม่เหลือพื้นที่ให้กับตน บีบบังคับพวกเขาถึงขนาดนี้ เลือดในลำตัวของเหอเหวินหวยก็พลุ่งพล่าน อดไม่ได้ที่อยากจะบีบคอเขาให้ตาย แต่ว่าเขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ความสามารถไม่มากพอ
ขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกกำมือ ทำได้เพียงโทษลูกของตนที่ไม่เอาไหน
อายุขนาดนี้แล้วยังต้องมาทำตัวนอบน้อมให้กับคนรุ่นหลานอีก ขายหน้าจริงๆ
ใบหน้าของจงจิ่งห้าวไร้ความรู้สึก สองตาของเขาเบิกกว้างอย่างเย็นชา“ต่อไปผมไม่อยากได้ยินคำพูดนี้อีก”
“คำพูดอะไรเหรอครับ?”
“ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับลูกสาวของคุณไง?”
เหอเหวินหวยไม่รับปากก็คงจะไม่ได้ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ต่อไปผมจะไม่พูดเรื่องนี้อีก คุณวางใจเถอะ ผมเป็นคนมีเหตุผล เป็นเพราะเด็กสองคนนั้นไม่เขาไหน คงจะโทษใครไม่ได้”
ก๊อกก๊อก...
ในเวลานี้ มีเสียงเคาะประตูห้องรับแขกดังขึ้น กวนจิ้งผลักประตูแล้วเดินเข้ามา กระซิบที่ข้างหูของเขา “ซูจ้านกับหยูโต้วโต้วมาแล้วครับ”
จงจิ่งห้าวไม่ได้มองมาที่เหอเหวินหวยทำเพียงกระซิบกับกวนจิ้งว่า“คุณเอาคลิปวิดีโอต้นฉบับให้กับเขา”
เมื่อพูดจบก็ลุกขึ้นและลุกออกจากห้องรับแขก
เหอเหวินหวยดีอกดีใจ ในที่สุดเรื่องนี้ก็สามารถแก้ไขได้แล้ว
หลายวันมานี้เขากินไม่ได้ นอนไม่หลับ เหนื่อยล้าทั้งกายใจ ในที่สุดความกังวลที่ค้างคาอยู่ในใจก็คลายลง
“รอสักครู่”ท่าทางของเหอเหวินหวยไม่ได้ดูว่านอนสอนง่ายเหมือนเมื่อสักครู่นี้ แต่ว่าก็ไม่ได้ดูแข็งกร้าวเกินไป เพียงแต่ต้องการสื่อให้เห็นว่าเขาไม่พอใจกับเรื่องๆนี้“ครอบครัวของพวกเราไม่เคยมีความขัดแย้งกัน หลินหลินมีความผิด แต่คุณก็ทำเกินไป โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน มีใครรับรองได้ว่าใครจะรุ่งโรจน์ได้ตลอดไป?”
จงจิ่งห้าวค่อยๆหันลำตัวกลับมา สายตาไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย อวัยวะทั้งห้ายังคงสง่างามเยือกเย็นและหนักแน่น รังสีแห่งความเยือกเย็นแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณรอบๆทำให้คนรอบข้างอดที่จะตัวสั่นไม่ได้
เหอะ
เขาหัวเราะเบาๆ“ผมจะคอยดู”
เมื่อพูดจบก็ก้าวเท้าแล้วเดินออกไปจากห้องรับแขก
บรรยากาศสงบลงสองวินาที กวนจิ้งนำคลิปวิดีโอต้นฉบับวางไว้บนโต๊ะ เงยหน้าเหลือบมองเหอเหวินหวย“ประธานกรรมการเหออะไรบนโลกนี้ก็ไม่แน่นอน คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ด้วยว่าศัตรูมีไพ่ตายอยู่ในมือเท่าไหร่”
เหอเหวินหวยขมวดคิ้ว“คุณหมายความว่ายังไง?”
กวนจิ้งยิ้ม“ผมก็แค่รู้สึกว่าคำพูดของประธานกรรมการเหอเมื่อสักครู่นี้ดูเขาไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่”
“หรือว่าสิ่งที่ผมพูดไม่ถูกเหรอครับ?”เหอเหวินหวยถามกลับ
ไม่ใช่เพราะจงจิ่งห้าวบีบบังคับคนอื่นก่อนหรอกเหรอ?
“เปล่า”กวนจิ้งไม่ได้พูดอะไรต่อกับเขา เขายื่นมือออกไปทำเพียงท่าเชิญ“เดี๋ยวผมไปส่งประธานกรรมการเหอเองครับ”
สีหน้าของเหอเหวินหวยเคร่งขรึมสะบัดแขนเสื้อแล้วลุกขึ้น
กวนจิ้งทำเป็นไม่เห็นเขาโกรธ ในใจคิดเพียงว่าการที่ตระกูลเหอเข้าสู่ช่วงขาลง ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ลูกชายทั้งสองคนของเขาไม่มีพรสวรรค์ในการทำธุรกิจ ส่วนเขาเองก็ไม่ได้ดีกว่ากันสักเท่าไหร่
ห้องทำงานประธานกรรมการบริหารซูจ้านนั่งไขว่ห้างอย่างสบายใจอยู่ข้างๆโต๊ะทำงานของจงจิ่งห้าว พลางหมุนลูกโลกที่อยู่บนโต๊ะไปมาหลายรอบ เมื่อทำซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งก็รู้สึกว่าน่าเบื่อ จึงขมวดคิ้ว พลางตะโกนเรียกกวนจิ้งที่หน้าประตู “จงจิ่งห้าวเขาไปทำอะไรของเขา?ตกส้วมไปแล้วเหรอ?ให้ผมรอนานขนาดนี้ ...”
เขายังไม่ทันพูดจบ ประตูห้องก็ถูกผลักออก
เสียงของเขาดังมาก แน่นอนว่าจงจิ่งห้าวได้ยิน
เขากระโดดลงจากโต๊ะ หัวเราะด้วยความคับแค้นใจ“ผมไม่ได้พูดอะไรเลย คุณคงไม่จินตนาการไปเองหรอกนะว่ามีใครพูดต่อว่าคุณ?”
จงจิ่งห้าวเหลือบมองเขาอย่างราบเรียบ“ไม่คิดรักษาหน้าบ้างเลยเหรอ?”
ซูจ้านลูบใบหน้าด้านขวาที่หล่อเหลาของตนเอง “หน้าก็ยังอยู่หนิ”
หยูโต้วโต้วที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่กล้าพูด รู้สึกเพียงว่าซูจ้านทำให้เขาได้เห็นอีกมุมหนึ่งของทนายความ
เขาไม่เคยเห็นทนายที่ชอบทำอะไรประหลาดๆแบบนี้มาก่อน
ซูจ้านทำหน้าจริงจัง แกล้งเปลี่ยนหัวข้อเรื่อง เพื่อหาทางออกให้กับตัวเอง“ในส่วนของคดีอุบัติเหตุรถชน ผมได้เขียนคำฟ้องร้องไว้เรียบร้อยแล้ว จะให้ยื่นฟ้องเมื่อไหร่ครับ?”
หยูโต้วโต้วเบิกตากว้าง รอฟังคำตอบของจงจิ่งห้าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม