ซูจ้านคิดหนัก จะพูดยังไงดีล่ะ ฉินยาเป็นคนของหลินซินเหยียน เขาทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง
" เธออย่าร้องสิ " ซูจ้านเดินเข้ามาประคองเธอ เมื่อมือของเขาจับไปตรงไหล่ของเธอ ก็โดนเธอผลักออก " คุณไกลๆ เลย อย่าให้ฉันเห็นหน้าคุณอีก คุณมันน่าขยะแขยง! "
ยิ่งคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ตัวเธอก็ไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองให้หายสั่นได้ ในท้องมันรู้สึกปั่นป่วนไปหมด
สีหน้าของซูจ้านเปลี่ยนไป แต่เขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร มันก็จริง เขาเป็นผู้ชาย ไม่ว่าจะคิดยังไงเรื่องนี้เขาก็ไม่เสียเปรียบอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเขา แต่กลับเป็นครั้งแรกของฉินยา
สิ่งที่หญิงสาวทะนุถนอมมาโดยตลอด เมื่ออยู่ใน สถานการณ์ที่สติสัมปชัญญะไม่ครบเท่าไหร่ ถึงเธอจะพูดจาไม่น่าฟังไปเขาก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไร
" เธออยู่ข้างนอก เพิ่งเคาะประตูเมื่อกี้ " ซูจ้านมองหน้าเธอ หวังว่าเธอจะสงบลงสักนิด ให้แก้ปัญหาที่อยู่ข้างหน้าก่อน
เสียงร้องไห้ของฉินยาเงียบลงทันใด เธอเงยหน้าขึ้นมองพร้อมสายตาแดงก่ำนั้น " แล้วทำยังไงดีล่ะ "
น่าขายหน้าจริงๆ เลย โอ้ย
เธอหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอง เกลียดจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปมุดดินที่ไหน เธอไม่อยากพบเจอคนอื่นตลอดไปเลยจริงๆ
" เธออย่าลนไปหน่อยเลย " ซูจ้านปลอบเธอ " ถ้าไม่งั้นเราแกล้งเป็นคนรักกันดีไหม "
ก็ดีกว่าให้คนอื่นรู้ว่าเราวันไนท์สแตนด์กันนั่นแหละ
ถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบคู่รัก ถ้าคนเราจะสวีทกัน มันก็เป็นเรื่องปกติ
ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าน่าเกลียดเท่าไหร่
" คิดผิดคิดใหม่เลย! " ฉินยาเปิดผ้าห่มแล้วหยิบหมอนไปทุกเขาเข้าอย่างจัง
" ถ้าไม่ใช่เพราะคุณมัวแต่จะให้ฉันดื่มเหล้า เรื่องเหลวไหลพวกนี้ก็ไม่เกิดขึ้นหรอก "
ซูจ้านจับหมอนที่เธอโยนใส่เขาไว้ได้ ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปอุดตันเธอ แล้วพูดเสียงเบาๆ " เสียงคุณดังขนาดนี้ อยากให้ทุกคนรู้หรือไงว่าเมื่อคืนเรานอนด้วยกันอ่ะ "
ลูกตาของฉินยากลอกไปมา ก่อนจะส่ายหัวระรัว ใช่ เธอไม่อยากให้ใครรู้
เรื่องนี้มันน่าละอายใจเกินไปแล้ว
" พวกเราต้องแกล้งเป็นคู่รักกัน ผ่านไปช่วงหนึ่งแล้วค่อยอ้างว่าเราเข้ากันไม่ได้ เราเลิกกัน แบบนี้จะได้ไม่ดูแปลก คุณคิดว่าไง "
ซูจ้านดูออกว่าเธอก็ไม่อยากให้คนอื่นรู้ เลยลองยื่นข้อเสนอการเป็นคู่รักกำมะลอขึ้นมาอีกครั้ง
ก่อนอื่นเราต้องรอดจากหลินซินเหยียนให้ได้เสียก่อน
ฉินยาคิดอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ยอมเปิดปากเหมือนเดิม
ซูจ้านสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงพูดยากจริงๆ เลย
" ใช่ ผมมันก็ผู้ชายคนหนึ่ง ก็แค่วันไนท์สแตนด์เอง ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอก ผมก็แค่พูดว่าเมื่อวานพวกเราดื่มกันหนักไปหน่อย ก็เลยนอนด้วยกัน ผมพูดงี้ไปแล้วกันนะ " พูดไปซูจ้านก็ทำท่าจะไปเปิดประตู
ฉินยาเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว
ซูจ้านกำไปที่ลูกบิดประตู ทำท่าเหมือนจะเปิดประตูออกมา
" ช้าๆ หน่อย " สมองของฉินยาแทบระเบิด เธอรู้สึกว่าที่ซูจ้านพูดก็มีเหตุผล อย่างน้อยก็ดีกว่าวันไนท์สแตนด์ จริงๆ คนเยอะแบบนี้ จะเจอกันบ่อยก็คงไม่แปลก มันจะไม่ดูน่าเกลียดเกินไป
ซูจ้านมีข้ออ้างอยู่แล้ว ก็เลยเปิดประตูออกไป แต่สุดท้ายหน้าประตูก็ไม่มีใครยืนอยู่แล้ว เค้าชะโงกออกไปมอง ก็พบว่าหลินซินเหยียนกลับห้องไปแล้ว
หลินซินเหยียน รู้สึกว่าตัวเองคุณหันพลันแล่นเกินไป เธอไม่ควรไปเคาะประตูเวลานี้ ไม่ว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์แบบไหน เธอก็ไม่ควรจะไปเคาะประตูห้องพวกเขาอยู่ดี
เธอแค่รู้สึกช็อก แต่เมื่อสงบจิตใจลงได้ ถึงค้นพบว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้นไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ก็เลยจะเดินออกไป เพราะกลัวว่าพวกเขาจะรู้สึกอึดอัดใจ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมองหน้าฉินยายังไง
ก็ได้ยินเสียงซูจ้านเรียกขึ้นมา " พี่สะใภ้ "
หลินซินเหยียนหันกลับมา ก็เห็นซูจ้านยื่นหัวออกมาจากประตูห้อง " เดี๋ยวถึงเวลากินข้าวเช้าผมมีเรื่องจะคุยด้วยครับ "
หลินซินเหยียนพยักหน้ารับรู้ หลังจากนั้นก็ผลักประตูห้องของตัวเองเข้าไป ตอนแรกเธอคิดว่าจะออกไปสูดอากาศข้างนอก แต่พอเป็นแบบนี้แล้วเธอก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร ในใจแถวแต่กระวนกระวายว่าซูจ้านจะบอกอะไรกับเธอ
หรือว่าจะพูดกับเธอเรื่องระหว่างเขากับฉินยากันนะ
ม่านในห้องถูกลากออก แสงแดดตกกระทบเข้ามาอ่อนๆ ตัวของหลินซินเหยียน นั่งอยู่ข้างเตียง แต่ตอนนี้จิตใจของเธอกลับไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัว
เดิมทีฉินยาไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ แต่รู้จักกับซูจ้านได้ไม่นาน ทำไมถึง....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม