คำพูดของเหวินเสียนติดอยู่ในลำคอ ใช้เวลาสักพักถึงได้ตอบสนอง
“นานเท่าไรแล้ว”
จงฉีเฟิงหยุดรถเข้าข้างถนน จุดบุหรี่ ยังคงเงียบไม่พูดจา
เหวินเสียนไม่รีบร้อน รอด้วยความอดทน รู้ว่าเขาอาจจะกำลังไม่สบายใจอย่างมาก ถึงเฉิงยู่ซิ่วจะดีแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานนัก
“ให้คลอดออกมาเถอะ” เหวินเสียนพูดบางเบา
จงฉีเฟิงพ่นควันขาว เป็นลูกของเขา เขาก็ต้องการอยู่แล้วโดยปริยาย แต่ต้องกลายเป็นลูกนอกสมรสน่ะเหรอ
“พรุ่งนี้ฉันจะโทรหาที่บ้าน บอกครอบครัวว่าฉัน‘ท้อง’ รอจนเธอคลอด ฉันจะบอกว่าฉันคลอดแล้ว ให้เด็กมีสถานะที่เหมาะสม เป็นแบบนี้จนกระทั่งฉันจากไปแล้ว ตระกูลเหวินกับตระกูลจงจะยังคงเป็นญาติ เด็กก็จะเติบโตขึ้นท่ามกลางการดูแลของทั้งสองตระกูล เมื่อเติบโตขึ้นก็จะได้รับการคุ้มครองจากตระกูลเหวินโดยอัตโนมัติ....”
“อยากจากไปขนาดนั้นเลย” จงฉีเฟิงหัวเราะเยาะ เป็นครั้งแรกที่แสดงความไม่พอใจของตัวเองต่อหน้าเธอ
เหวินเสียนเม้มปาก มันเป็นความเห็นแก่ตัวของเธอ เรื่องราวมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ เธอไม่สามารถปฏิเสธได้
“ขอโทษ....”
“ผมไม่อยากฟัง”
จงฉีเฟิงขัดจังหวะเธอ
เหวินเสียนหลุบตาลง ด้วยประโยคนี้ เธอไม่รู้ว่าตัวเองยังสามารถพูดอะไรได้อีก
“รอเด็กคลอดออกมาแล้ว ผมจะปล่อยคุณไป ช่วงนี้คุณอยู่วิลล่าเพื่อดูแลเธอ คนอื่นผมไม่วางใจ เธอมีสัญญาณของภาวะแท้ง หมอบอกว่าต้องพักผ่อนให้มาก”
“ได้ คุณวางใจ ฉันจะดูแลเธออย่างดี”
เหวินเสียนไม่ได้กลับไปที่วิลล่า แต่ตรงไปที่โรงพยาบาล หลังจากได้รับการยืนยันแล้ว วันต่อมาเธอก็ประกาศว่าตัวเองท้อง
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลจง หรือตระกูลเหวิน ล้วนแล้วแต่ดีใจมาก
เมื่อเป็นแบบนี้ เฉิงยู่ซิ่วจึงให้ชีวิตอยู่กับการบำรุงดูแลลูก
ในวันธรรมดานอกจากคนรับใช้ยังมีเหวินเสียนที่คอยดูแลเธอ
“ไม่ได้อึดอัดไม่สบายตรงไหนใช่ไหม” ระหว่างทานอาหาร เหวินเสียนสอบถาม เพราะเธอพบว่าเฉิงยู่ซิ่วทานน้อยมาก กลัวว่าเธอจะไม่สบาย
เฉิงยู่ซิ่วส่ายหน้า “เปล่า ทำให้คุณต้องอยู่ที่นี่...”
“ไม่ต้องกดดัน ครรภ์ของคุณเป็นเด็กของตระกูลเหวิน และก็เป็นของฉันด้วย ฉันแค่พยายามทำเพื่อคุณอย่างดีที่สุด” เหวินเสียนกลัวว่าเฉิงยู่ซิ่วจะไม่สบายใจ เพราะไม่มีแม่คนไหนเต็มใจยกลูกตัวเองให้เป็นของคนอื่น
เธอดึงเก้าอี้ออกนั่งลงบนเตียงผู้ป่วย แล้วดึงมือของเฉิงยู่ซิ่วมาจับ “ตระกูลเหวินกับตระกูลจงจัดงานแต่งเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ไม่ใช่เรื่องความรู้สึกของคนสองคน เป็นการรวมผลประโยชน์ของสองตระกูล คุณเข้าใจไหม”
ตระกูลเหวินไม่เคยก้าวเข้าสู่ธุรกิจ แต่ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดของท้องถิ่น เศรษฐกิจของทั้งเมือง ล้วนขับเคลื่อนโดยธุรกิจในท้องถิ่น ตระกูลจงมีศักยภาพมากที่สุด และเป็นธุรกิจที่ดีที่สุดด้วย
ส่วนตระกูลจง เป็นนักธุรกิจเสมอมา ถ้าอยากเป็นใหญ่ก็ต้องได้รับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ดังนั้นพวกเขาสองตระกูลจึงร่วมมือกัน มีแต่กำไร ไม่มีขาดทุน
และดีต่อทั้งสองฝ่าย
ดังนั้น ต่อให้ตอนนั้นพวกเขาไม่มีความรู้สึกต่อกัน แต่เพื่อให้ตระกูลสามารถพัฒนาในระยะยาว พวกเขาขึงจำต้องเสียสละเพื่อเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
เฉิงยู่ซิ่วรู้ว่าการแต่งงานของพวกเขาไม่มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งหมดเพื่อเป็นผลประโยชน์ต่อครอบครัว
“กลายเป็นหลานชายของตระกูลเหวิน มีแต่จะดีต่อเขา” เหวินเสียนเอื้อมมือไปสัมผัสที่หน้าท้องของเธอ มันยังแบนอยู่ มองไม่ออกว่าท้องได้สองเดือนแล้ว “ตอนนี้ฉันจึงยังไม่สามารถให้คุณแต่งงานกับเขาในสถานะที่ถูกต้อง....”
“ฉันรู้ว่าการหย่าร้างของพวกคุณอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลเกิดความตึงเครียด ไม่ต้องพูดถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่ง เกรงว่าจะกลายเป็นศัตรูได้เลย ถ้ามีลูก สองตระกูลจะเกี่ยวดองกัน เป็นผลดีต่อพัฒนาการของเด็กในอนาคต ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นหลานของตระกูลเหวิน หลานของตระกูลจง....” ยิ่งพูด เฉิงยู่ซิ่วก็ยิ่งสะอื้น เธอเข้าใจทุกอย่าง ทว่าหัวใจยังคงเจ็บปวด
“ขอโทษนะฉัน ฉัน....”
เหวินเสียนเช็ดน้ำตาให้เธอ รู้ว่าหัวใจเธอเจ็บปวด โอบกอดเธอไว้และพูดว่า “เชื่อฉันนะ ฉันจะทำให้คุณอยู่ในสถานะที่ถูกต้อง เพียงแต่สถานะของเด็ก ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ถ้าคุณไม่พอใจ แค่โทษฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันไปหาคุณ วันนี้คุณก็ไม่ต้องอับอายทนทุกข์”
เฉิงยู่ซิ่วรู้ว่ามันไม่ใช่เพราะเหวินเสียน ถ้าไม่ใช่เหวินเสียน เกรงว่าตอนนี้ตระกูลเฉิงคงไม่เหลือแล้ว พี่ชายก็ต้องอยู่ในคุก ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ตัวเธอต้องการเอง โทษใครไม่ได้ทั้งนั้น
“ไม่ใช่ความผิดของคุณ เป็นความสมัครใจของฉันเอง ทุกสิ่งล้วนเป็นโชคชะตา ความจริงเด็กมีบ้านให้อยู่ก็ดีกว่าตามฉันไป....” เรื่อยมาจนถึงวันนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เฉิงยู่ซิ่วร้องไห้แบบนี้
เหวินเสียนไม่รู้ว่าจะปลอบเธออย่างไร จึงโอบกอดเธอไว้และร้องไห้ไปกับเธอ
ร้องไห้ให้กับโชคชะตา ร้องไห้ที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้
ผ่านไปนานมากกว่าทั้งคู่จะสงบลง
“คุณพักผ่อนให้สบายนะ ฉีเฟิงจะเข้ามาช้าหน่อย ฉันจะกลับไปก่อน” เหวินเสียนลุกขึ้น เฉิงยู่ซิ่วคว้าจับมือเธอ “งั้นคุณก็อย่าเพิ่งไปสิ”
ที่จริงเธอกลัวการอยู่ตามลำพังกับจงฉีเฟิง
เหวินเสียนตบๆ มือของเธอ และปลอบว่า “เขาเป็นผู้ชายที่ดีมากคนหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะฉันพบรักแท้ของฉันแล้ว ฉันก็อาจตกหลุมรักเขา”
เหวินเสียนห่มผ้าห่มให้เธอ “พักผ่อนมากๆ ทำจิตใจให้สบาย มีฉันอยู่ จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”
เฉิงยู่ซิ่วพยักหน้า ไม่รู้ว่าเพราะเกี่ยวกับที่ตั้งครรภ์หรือไม่จึงอ่อนเพลียเป็นพิเศษ หลังจากเหวินเสียนไป เธอก็นอนแล้วหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม