เขาบอกตัวเองในใจหลายรอบว่า นั่นเป็นของปลอม ถ้าเขากลัว ก็จะถูกคนเลวหลอก
เขากลัวไม่ได้
เขาเดินไปที่หน้าเตียงอย่างเด็ดเดี่ยว คว้าผ้าห่มแล้วยกขึ้นอย่างแรง จากนั้นด้านล่างก็ไม่มีอะไรเลย เขาหันหน้า มองไปที่ จงจิ่งห้าวที่ยืนอยู่หน้าประตู“ตุ๊กตานั่นล่ะ?”
ตอนที่จงจิ่งห้าวพาเขาขึ้นมา ก็ให้คนเอาของไปทิ้งแล้ว
หลินซีเฉินกล้าหาญได้เช่นนี้ เขารู้สึกชื่นชม และภูมิใจ
เขาเดินเข้ามา ฝ่ามือที่หนาใหญ่วางไว้ที่หัวของหลินซีเฉิน ลูบไปมาอย่างเอาใจ“ลูกคือเด็กที่กล้าหาญ”
“นั่นแน่นอน”หลินซีเฉินเงยหน้าขึ้น ท่าทางตอนนี้ภูมิใจหน่อยๆ“ผมคือลูกของหม่ามี๊ ผมกล้าแน่นอน ผมเคยบอกว่า โตแล้ว จะปกป้องเขา แต่ว่า……”
ตอนที่พวกเขาขึ้นมา เหมือนหม่ามี๊จะโกรธ
ทำอย่างไรดี?
“เหมือนหม่ามี๊จะโกรธ”หลินซีเฉินกะพริบตาปริบๆ
จงจิ่งห้าวเห็นแล้ว“ไปเถอะ”
เขาพาหลินซีเฉินลงไป เอาเขาไปส่งที่ห้องส่วนตัวกินข้าวกับพวกเสิ่นเผยซวน ส่วนเขาไปหาหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียนยังยืนอยู่ที่บันได เธอขัดแย้งในตัวเอง และยุ่งเหยิง
เสียใจหน่อยๆที่ไม่ได้ห้ามพวกเขา
เห็นร่างของหลินซินเหยียน จงจิ่งห้าวจึงหยุดฝีเท้าลง และฝีเท้าของเขาก็ก้าวอย่างมั่นคงและเดินมาทางนี้“คุณต้องเชื่อใจลูกชายของพวกเรา”
หลินซินเหยียนหันหน้าไป มองผู้ชายที่ยืนอยู่ไม่ไกล เธอเชื่อลูกชายของตัวเองอยู่แล้ว แต่เขาแค่ห้าขวบ!
“จงจิ่งห้าว คุณบ้าแล้วหรือไง?!”เธอพุ่งเข้ามา เตะต่อยใส่เขา เขายืนไม่ขยับ ยังคงยืนหยัดเหมือนภูเขา ปล่อยให้เธอระบายใส่
หลินซินเหยียนใจร้อนมาก สองมือส่ายไปมา จงจิ่งห้าวกลัวเธอจะทำร้ายตัวเอง คว้าแขนทั้งสองข้างของเธอไว้ เอาเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนอย่างเผด็จการ“ใจเย็นหน่อยสิ”
“คุณให้เขาไปดู ก็คือการทำร้ายครั้งที่สอง คุณจะให้ฉันใจเย็นยังไง?เสียขวัญไปหมด ฉันจะเกลียดตัวฉันเองไปทั้งชีวิต!”
จงจิ่งห้าวลูบกระดูกสันหลังเธอไปมา พูดเสียงทุ้มต่ำ“เด็กดี ไม่ตกใจนะ”
มือของเขา เสียงของเขาเหมือนมีเวทมนตร์ หลินซินเหยียนค่อยๆใจเย็นลงในอ้อมแขนของเขา
เธอเงยหน้าขึ้น มองไปที่เขา อยู่ใกล้ชิดกันมาก หลินซินเหยียนสามารถมองเห็นขนทุกเส้นที่ใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน ผิวของเขาเนียนมาก ไม่สิ“เขาเป็นไงบ้าง?”
“ไม่เป็นไรแล้ว”จงจิ่งห้าวถอนหายใจหน่อยๆ“ต่อไปเชื่อใจผม ผมมีขอบเขต”
หลินซินเหยียนก้มตาลงอธิบาย“ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อใจคุณ ฉันแค่ ……”
“ไม่เชื่อใจลูกชายคุณ?”จงจิ่งห้าวตัดบทเธอ
จงจิ่งห้าวรู้ว่าเธอเป็นห่วง กลัวลูกชายจะถูกทำร้าย
“เขาเป็นเด็กผู้ชาย จะต้องเติบโต ที่ต้องเผชิญในอนาคตก็คือ คนที่มีเลือดเนื้อจริงๆ บางครั้งใจคน น่ากลัวซะยิ่งกว่าตุ๊กตาตัวนั้น เขาต้องเรียนรู้ที่จะต้องเผชิญหน้า เอาชนะ การปกป้องที่มากเกินไป ไม่ได้ดีต่อเขา”
ความหมายของจงจิ่งห้าว เธอเข้าใจดี ก็แค่สงสารลูก
“ครั้งหน้า จะทำอะไร มาถามความเห็นฉันก่อนได้ไหม?”หลินซินเหยียนไม่ใจแข็งอย่างจงจิ่งห้าว
เหมือนว่าจะตระหนักได้ว่าในคำพูดมีช่องโหว่ จึงรีบพูดเสริม“ฉันหมายถึงเรื่องของลูก ปรึกษากับฉันหน่อย”
เธอไม่อยากให้จงจิ่งห้าวเข้าใจผิด แม้แต่เรื่องงานของเขาเธอยังจะก้าวก่าย
จงจิ่งห้าวหัวเราะ ปลายหางตามีแสงขึ้นมา จงใจพูดไปว่า“ถ้าผมไม่ปรึกษากับคุณล่ะ?”
หลินซินเหยียนยกมือขึ้นทำท่าจะตีเขา“ฉันจะตีคุณ……”
จงจิ่งห้าวคว้าแขนของเธอไว้ จูบที่ฝ่ามือของเธอ“ตีตรงนี้”
จับมือของเธอ ปิดไว้ที่หน้า
หลินซินเหยียนก็แค่พูด หน้าของชายหนุ่ม จะตีง่ายๆได้อย่างไร
เธอชักมือกลับ“อย่ามาสร้างปัญหา”
จงจิ่งห้าวไม่ได้หยอกเธอต่อ เพราะว่าความวุ่นวายของตุ๊กตาคลายลงไปเยอะ ตอนนี้บรรยากาศก็ดีขึ้นเยอะ เขาโอบไหล่ของเธอ“น่าจะหิวแล้วสินะ ไปกินอะไรหน่อยไป”
หลินซินเหยียนรู้สึกหิวแล้วจริงๆ เกือบจะวันหนึ่งแล้วที่ไม่ได้กินข้าว
หลังจากร้านเสื้อผ้าของเหยาชิงชิงถูกทำลาย เธอจัดการร้านแล้ว ส่วนช่วงนี้ก็ไม่ได้หางาน อยู่แต่ในบ้าน
ไป๋ยิ่นหนิงหาเธอเจอที่บ้านที่เธอพัก
ในมือเธอถือของกิน เหมือนเพิ่งซื้อของกลับมา เห็นไป๋ยิ่นหนิง เธอก็ตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็รีบวิ่งเข้ามา“คุณมาได้ไง?”
ไป๋ยิ่นหนิงหัวเราะไม่มีเสียง“ก็มาดูคุณไง ช่วงนี้สบายดีไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม